1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

อภินิหารปลาน้อย ครองแชมป์ภาพยนตร์การ์ตูนทำเงินสูงสุด

อภินิหารปลาน้อย ครองแชมป์ภาพยนตร์การ์ตูนทำเงินสูงสุด

เปิดฉายไปสองเดือนเศษๆ ปลาการ์ตูน Finding Nemo ก็กลายเป็นเจ้าของสถิติภาพยนตร์อนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกา เขี่ยแชมป์เก่า The Lion King ตกกระป๋องไปเรียบร้อย

รายงานจากเอ็กซิบิเตอร์ รีเลชั่น ผู้จัดสำรวจรายได้ภาพยนตร์ในอเมริกาแจ้งเมื่อวันอังคารที่ 29 ก.ค. ว่าภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องล่าสุดจาก ปิ๊กซาร์ สตูดิโอ ทะยานขึ้นมาครองแชมป์ภาพยนตร์อนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาล หลังทำรายได้สูงถึง 313.1 ล้านเหรียญสหรัฐ แซง The Lion King ภาพยนตร์ดังจากค่ายดิสนีย์ ปี 1994 ที่ครองตำแหน่งอยู่ด้วยรายได้ 312.9 ล้านเหรียญ ขณะที่ Finding Nemo ยังคงติดในอันดับท็อปเท็นของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย

Finding Nemo เป็นงานสร้างร่วมของ ปิ๊กซาร์ สตูดิโอ และค่ายดิสนีย์ สามารถโค่นแชมป์ ซิมบ้า ลูกสิงโตน้อยได้อย่างเหนือความคาดหมาย เพราะแม้แต่งานดังระเบิดเถิดเทิงอย่าง Shrek เจ้ายักษ์เขียวจอมกวนจากค่ายดรีมเวิร์คส์ ในปี 2001 ก็ยังไม่สามารถแย่งบัลลังก์ของ THe Lion King มาได้

เรื่องราวการผจญภัยของเจ้าปลาการ์ตูนเป็นม้านอกสายตาของใครๆมาตลอด แม้จะคาดว่าต้องเปิดตัวติดอันดับภาพยนตร์ทำเงิน แต่ก็ไม่คิดว่าภาพยนตร์จะมาแรงแซงโค้งในมาอันรวดเร็วเพียงนี้

"มันเป็นหนังเรต G ที่เจ๋งที่สุดที่เคยมีมา เป็นหนังที่ทุกคนดูได้ดูดีและดูสนุก มันเหมาะสำหรับคนดูหนังทุกเพศทุกวัย และมันเป็นงานคุณภาพแห่งปีที่ผู้ชมกำลังมองหา" พอล เดอการาเบเดียน ผู้บริหารของ เอ็กซิบิเลชั่น รีเลเตอร์ กล่าว

Finding Nemo ว่ายทวนน้ำเข้าโรงภาพยนตร์ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา เปิดฉายสามวันแรกก็กวาดไป 70 ล้านเหรียญ แม้กระทั่งในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ดรีมเวิร์คส์ส่งภาพยนตร์ขาย(เสียง)ดาราอย่าง Sinbad: Legend of the Seven Seas ซึ่งได้ แบรด พิตต์ และ แคทธารีน ซีต้า-โจนส์ มาพากย์ แต่ก็ไม่อาจสั่นคลอนความนิยมที่มีต่อเจ้าปลาน้อยได้

Sinbad เก็บรายได้สามวันแรกไปเพียง 6.9 ล้านเหรียญ เทียบกันไม่ติดกับรายได้ของ Finding Nemo ประจำสุดสัปดาห์นั้น ซึ่งได้ 11 ล้านเหรียญ

The Lion King ต้องใช้เวลากว่าหกเดือนในปี 1994 กว่าจะเก็บรายได้ถึง 267 ล้านเหรียญ และขึ้นถึงหลักสามร้อยล้านในการเปิดฉายรอบสองช่วงปลายปีนั้นเอง ในขณะที่ Nemo ใช้เวลาเพียง 9 สัปดาห์ ก็ผ่านหลัก 300 ล้านไปเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ยอดรายได้ดังกล่าวของ The Lion King ยังไม่นับรวมรายได้เมื่อคราวไปฉายโรงไอแม็กซ์ได้มาอีก 16 ล้านเหรียญ (รวมเบ็ดเสร็จ 328 ล้านเหรียญ) และไม่พิจารณากรณีค่าตั๋วที่เพิ่มขึ้นมาหลายเหรียญนับจากสมัย The Lion King ออกฉาย ซึ่งถ้านับรวมก็ต้องถือว่าเจ้าลูกสิงโตซิมบ้าเป็นแชมป์อยู่

Finding Nemo เป็นผลงานสร้างร่วมของ ดิสนีย์ และ ปิ๊กซาร์ เรื่องที่ห้าที่เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ได้แก่ Toy Story, Toy Story 2, A Bug's Life และ Monster's Inc. ส่วนโครงการต่อไป คือ The Incredibles และ Cars มีกำหนดออกฉายในปี 2004 และ 2005 ตามลำดับ

ภาพยนตร์อนิเมชั่นรายได้สูงสุดตลอดกาลในอเมริกา (ถึง 28 ก.ค.2003)

  1. Finding Nemo (2003) 313.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
  2. The Lion King (1994) 312.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
  3. Shrek (2001) 267.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
  4. Monsters, Inc. (2001) 255.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
  5. Toy Story 2 (1999) 245.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
  6. Aladdin (1992) 216.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
  7. Toy Story (1995) 191.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
  8. Ice Age (2002) 176.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
  9. Beauty and the Beast (1991) 171.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
  10. Tarzan (1999) 171.1 ล้านเหรียญสหรัฐ

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • Alexander
    เข้าฉายปี 2004
    แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in Boots
    เข้าฉายปี 2011
    แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้า
    เข้าฉายปี 2011
    แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Age of Adaline - แองเจลา แลนส์บูรี คือนักแสดงที่ถูกวางตัวให้รับบท เฟลมมิง เมื่อปี 2010 แต่ท้ายสุดแล้ว เอลเลน เบอร์สตีน คือผู้ที่ได้แสดงบทนี้ อ่านต่อ»
  • Skin Trade - ดอล์ฟ ลันด์เกรน ผู้รับบท นิก เขียนบทเรื่องนี้ในปี 2006-2007 โดยตั้งใจว่าจะกำกับเอง แต่ภายหลังตัดสินใจมอบหน้าที่กำกับให้แก่ เอกชัย เอื้อครองธรรม โดย ดอล์ฟ จะได้ทำหน้าที่ควบคุมงานสร้างได้อย่างเต็มที่ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เมื่อ เอ็ดนา (โรบิน เนวิน) หญิงชราผู้เป็นยายของ แซม (เบลลา ฮีทโคต) ได้หายตัวออกไปจากบ้านอย่างลึกลับ หลานสาวผู้เป็นที่รั...อ่านต่อ»