วิจารณ์ The Road

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 5 ก.ย. 53 12:04

    โอเค นะ ชอบๆ
    ตอนนี้แผ่นออกมาแล้ว หาดูได้เลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 31 มี.ค. 53 15:31

    เป็นที่ดราม่ามากคับเรียกน้ำตาได้เลย สำหรับผมนะคับ

    ส่วยชอบมากมากคับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 28 มี.ค. 53 00:48

    หนังแบบดราม่าครับ เนื้อเรื่องเรื่อยๆ ไม่หวือหวา ไม่ผูกปม แต่ดูแล้วมันอุ่นๆหัวใจ ตรงความรักพ่อลูก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 19 มี.ค. 53 21:04

    ตอนดูตัวอย่างหนังนึกว่าเป็นหนังแนวหนีลุ้นระทึกแบบหนีคนกินคนอะไรอย่างนี้ แต่กลับกลายว่าเป็นหนังดราม่ามีฉากลุ้นระทึกไม่กี่ฉากแล้วก็ไม่คอยลุ้นมากด้วย แต่ว่าความดราม่านั้นกลับตรงกันข้ามกับฉากไล่ล่าเพราะผู้กำกับหรือผู้เขียนทำบทดราม่าได้ดีมาก หนังออกแนวรันทดบรรยากาศมืดมัว(แบบว่าเหมือนฝนจะตกทั้งวันแต่ก็ไม่ตกอย่างนั้นแหละ) เรื่องเกี่ยวกับพ่อลูกคู่หนึ่งที่จะออกเดินทางไปทางใต้หลังเกิดมหันตภัยซึ่งทำให้ต้นไม้ตาย สัตว์ตาย ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ เปลี่ยนไป ไม่มีอาหาร(แบบว่าเจออะไรก็ต้องกิน) แล้วคนที่รอดชีวิตนั้นมีจำนวนน้อยมาก บางคนเลือกที่จะฆ่าตัวตายดีกว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างนี้ ซึ่ง2พ่อลูกก็เกือบจะทำเช่นกัน ระหว่าทางจะเจอพวกคนกินคน เจอคนที่ออกเดินทางเหมือนกัน พระเอกอาจจะดูใจร้าย แต่ว่าถ้าเป็นเราแล้วเรามีลูกเราก็อาจจะทำแบบนั้นเหมือนกัน โดยรวมคนที่ชอบแนวไล่ล่าลุ้นระทึกอย่าดูเด็ดขาดเพราะคุณจะเสียเงินเปล่า แต่ถ้าคุณเป็นคอหนังแนวดราม่าละก็คุณห้ามพลาดเด็ดขาด ผมให้คะแนนหนังเรื่องนี้7.5/10 (เพราะไม่ค่อยชอบดราม่าแต่ก็ทำได้ดีเลยให้)

  • เมื่อ 13 มี.ค. 53 11:25

    i give "A"

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 25 ธ.ค. 52 12:59

    คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น มีสปอย นะครับ ข้ามมมมมมม

    แต่พอเข้าไปดูก็เข้าใจที่หนังจะสื่อว่าจะสื่ออะไร แต่ก็รู้สึกช่วงแรกเอื่อยอะ กลางๆ แล้วพอจะหนี ตายกับศัตรูก็อั้นๆ อะหนีไม่สุด
    แบบลุ้นไม่ต่อเนื่องยาวๆ อะ อารมณ์ ค้าง

    แต่ พอดูไปเรื่อยๆ ประกอบกับเริ่มดึกเริ่มง่วงคล้ายอยากหลับดูไปสักพัก เออ หนังมันก็ดูได้เรื่อยๆ นะ เพลินๆ หนุกดี ดูการเดินทางผจญภัยของสองพ่อลูกก็เลยไม่หลับดูจนจบ เลยอะ
    คิดในใจถ้าหนังยาวเหมือน อวตาร ต้องดู พวกมันเดินทางไปอีกกี่ร้อยลี้วะเนี่ย คงมีหลับ แต่ถ้าหนังยาว ผมว่าก็ไม่น่าจะหลับดูได้เรื่อยๆนะ ความประทับใจส่วนตัว ไม่ได้มาก ประทับใจบางฉาก และบางเนื้อหาเท่านั้น เพราะโดยรวมเนื้อหายังอ่อน ประทับใจสู้ The Patriot ป๋า เมล ยังไม่ค่อยได้ แบบพ่อ ปกป้องลูกอะ อาจจจะเป็นเพราะหนังคนละแนวกัน ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าว่ากัน

    แต่ความประทับใจก็มี ฉากตอนท้าย สื่อถึงว่า สุดท้ายบนเส้นทางถนน สายนี้ ที่ผู้คนต่างก็แย่งกันเอาตัวรอดทุกอย่าง ทั้ง เลวมากเลวน้อย กลุ่มของพ่อลูกคู่นี้ ที่สื่อว่าเป็นคนดี มาตลอดจนจบเรื่อง ไม่กินเนื้อคนไม่ทำร้ายใครช่วยเหลือ คนอื่นบ้างเท่าที่ทำได้

    ตอนจบ ค่อนข้างชอบ บทสรุป ของ วิกโก้ พระเอก เหตุผล ที่เด็กต้องดำเนินชีวิตต่อไป โดยมีครอบครัวใหม่เดินทางไปด้วยกัน
    ซึ่งเปรียบแล้วพร้อมและครบกว่า การเดินทางกับพ่อของตน เพียงสองคน ตอนจบ ชอบ ลงตัวครับ กลางเรื่องอาจจะเอื่อยไปหน่อย
    โดยรวมชอบบบบบบบบ ไม่เสียดายตัง

  • เมื่อ 14 ธ.ค. 52 11:27

    เรื่องนี้รอมาหลายเดือนครับ เพราะเป็นแฟน No country for old men ถึงแม้ The Road ผู้กำกับ จะไม่ใช่ Coen Brothers ก็เถอะ ในที่สุดก็ได้ดู คนดูในโรงค่อนข้างเยอะครับแต่ 80% จะเป็นชาวต่างชาติ ก็แสดงให้เห็นว่ารสนิยมการดูหนังของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยดูหนังแนวนี้กัน แต่ไม่เป็นไร สำหรับคนคอหนังอย่างเราๆ มีหนังดีๆมาให้ดูก็ดีใจแล้ว
    The Road ก็ต้องยอมรับครับว่าถ้าใครที่คาดหวังว่าเรื่องราวจะมีเยอะหรือความแน่นของเนื้อหาอาจจะผิดหวัง
    แต่อยากจะบอกว่าหนังมีอะไรให้ซึมซับและประทับใจตลอดทั้งเรื่อง หนังเปิดมาด้วยหายนะของโลกซึ่งไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่สิ่งที่ดำเนินเรื่องคือ การดิ้นรนเอาชีวิตรอดของมนุษย์จากผลพวงของหายนะโลก ใช้ตัวละครหลักสองคนคือพ่อกับลูก และความรักคือประเด็นในการเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ หนังค่อนข้างหดหู่ตลอดทั้งเรื่อง มีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้นแทรกเป็นช่วงๆ หนังสามารถดึงคนดูให้ติดตามได้ทั้งเรื่อง และจบแบบน้ำตาคลอโดยเฉพาะฉากสุดท้าย(ฝรั่งนั่งข้างเสียงร้องให้ตามดังเลย)
    การแสดงอยู่ในขั้นน่ายกย่องครับ ทั้ง วิกโก้ มอเทนเซ่น และ หนูน้อย คอดิ สมิท(ยิ่งฉากสุดท้ายน้องแกเล่นได้ดีครับ)
    บรรยากาศและฉากต่างๆของหนังทำได้อย่างน่าเชื่อถือดูแล้วอดใจหายไม่ได้ครับ
    หลังจากดู The Road จบทำให้อดคิดไม่ได้ครับว่า ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เราจะทำยังไง จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หรือทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนที่เรารัก

  • เมื่อ 11 ธ.ค. 52 13:26

    ไปดูมาแล้วครับ
    ขอบอกว่ามันเป็นหนังDrama มากมาก การดำเนินเรื่องแบบตัดไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน หนังไม่ได้บอกชัดเจนหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะหนังต้องการจะเน้นไปที่การต่อสู้ชีวิตของสองพ่อลูกมากกว่า
    เฮ้อ...อ...หนังมันช่างเป็นอนาคตที่หดหู่เหลือเกิน
    มันอาจจะไม่ตื่นเต้นเท่าThe Mist และมันไม่ใช่สไตล์เดียวกับ No Country For Old Men (เพราะผู้แต่งคนเดียวกัน)
    ถ้าจะคล้ายๆกับหนังเรื่องไหนผมว่าน่าจะเป็นเรื่อง Defiance (2008)
    มันให้ความรู้สึกหดหู่อ่ะ /
    The Road ดูแล้วมันแบบว่า... เฮ้ย ถ้าอนาคตมันเป็นแบบนี้ เป็นเรา เราจะทำยังไง

มีทั้งหมด 8 วิจารณ์
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • AlexanderAlexanderเข้าฉายปี 2004 แสดง Colin Farrell, Jared Leto, Angelina Jolie
  • Puss in BootsPuss in Bootsเข้าฉายปี 2011 แสดง Antonio Banderas, Salma Hayek, Zach Galifianakis
  • ฝนตกขึ้นฟ้าฝนตกขึ้นฟ้าเข้าฉายปี 2011 แสดง นพชัย ชัยนาม, ศิริน หอวัง, อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Big Game - ผู้กำกับ ยาลมารี เฮแลนเดอร์ มองว่าสถานที่จริงที่ตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ไม่เหมือนภาพที่เขานึกไว้ในหัว จึงถ่ายทำที่เทือกเขาแอลป์แทน อ่านต่อ»
  • When Marnie Was There - เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายก่อนที่ค่ายจิบลิจะพักการสร้างภาพยนตร์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Stuber Stuber เรื่องราวสุดวายป่วง เมื่อตำรวจสุดเก๋า วิก แมนนิง (เดฟ บาทิสตา) กำลังไล่จับฆาตรกรโหด แต่วิ่งยังไงก็ไม่ทันสักทีเพราะมวลกล...อ่านต่อ»