SIAMZONE.COM

เป็นหนังดราม่า+เกย์ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพครับ สุดยอดมากๆ ผมชักชอบ sean penn แล้วดิ
เค้าแสดงดีมากๆ จนผมเกือบคิดว่าเขาเป็นเกย์จิงๆ 5555 10/0 ครับ

เป็นหนังเกย์ที่ไม่มีฉาก....เลย(มีนิดหน่อย) โดยส่วนตัวแล้วชอบมาก เนื้อเรื่องดีมาก แน่น เพลงประกอบเพราะ มีตัวละครมากมายหลายคน ซึ่งหนังก็ให้โอกาสนักแสดงทุกคนได้โชว์พลัีงในการเสริมให้ Sean penn เป็นนักแสดงที่เยี่ยมสุดๆ ตอนจบนี่แบบว่า อึ้งมาก ประทับใจสุดๆ แม้จะผ่านมา เกือบ 3 ปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ยังงดังก้องเสมอในหัวใจ(ของเกย์คนนึง) เป็นหนังที่สร้างสรรค์สิ่งดีๆให้กับผู้ที่อ่อนแอ ท้อแท้ และโดเดี่ยวให้รู้ว่า ไม่ได้มีเพียงตัวคนเดียวบนโลกนี้

เป็นเกย์ไม่ใช่เป็นหวัด จะได้หายโดยการกินยาแล้วหลับนอน เกย์ก็เป็นมนุษย์คนนึงมีชีวิต จิดใจเช่นกับทุกๆคน พวกเรามีสิทธิ์เช่นเดียวกับทุกๆคน (หึกเหิมไปไหน) ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้ผมไม่อยากขึ้นลฟต์ เพระาทกครั้งที่เราเดินขึ้นบันได จะทำให้รู้สึกว่าเราตัวใหญ่และโดดเด่น

10/10 A+ ไปเลยคับ หนังเยี่ยม ดี มากขนาดนี้ จะหวงคะแนนไปทำไม ==;

เพิ่งมีโอกาสได้ซื้อ DVD เรื่องนี้ มาดู ก็ขอยอมรับว่า เป็นหนังที่ดีมาก สมควรแล้ว ที่ได้ชิง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ! ปกติไม่ค่อยดูหนังแนว ประวัติศาสตร์เท่าไหร่? เพราะ คิดว่ามันต้องน่าเบื่อแน่ ๆ แต่พอได้มาดู Milk !!! ประทับใจการแสดงของ Sean Penn มากมาก เล่นได้สมบทบาทจริงๆ สรุปแล้ว ค่อนข้างประทับใจ แต่ไม่เท่ากับ เบนจามิน TT

8/10 :))

หนังดีมากๆๆไม่ผิดหวังเลย ชอบมาก

เป็นหนังที่แสดงให้เห็นความยากลำบากในการได้รับการยอมรับในสังคมของคนเกย์ในสมัยปี 70 ได้อย่างดีเยี่ยม การเล่าเรื่องผ่านการสร้างบรรยากาศตัดกับภาพจริงจากสมัยดังกล่าวก็ทำออกมาได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด ดาราทุกคนแสดงได้เยิ่ยมมาก โดยเฉพาะ Sean Penn ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสามารถแสดงออกได้เกย์เกินจริงขนาดนี้
ถือว่าเป็นหนังที่เยี่ยมมากเรื่องหนึ่ง

เป็นอีกหนึ่งหนังที่เยี่ยมยอดมากครับ

หนังใช้ภาพข่าวตัดสลับกับภาพหนัง(คล้าย The Queen)

ทำให้เราได้รู้จักฮีโร่คนนี้มากขึ้น
หนังไม่น่าเบื่อเลยด้วยครับ

โชคดีที่เราได้เกิดมาในยุคที่ความขัดแย้งเหล่านี้ได้พัดผ่านไปแล้ว

Sean penn สุดยอด กล้า แสดงได้ไง โหย จูบกันบ่อยน่ะเนี่ย แสดงดีมาก สมกับที่ได้ รางวัลออสก้า แทน Mickey เพราะ การแสดงSean pennดีกว่าอย่างเห็นฯ

หนังเล่าเรื่องได้น่าติดตามมาก ไม่มีเบื่อ Boring เลย จบก็ดี มีสาระมาก

ถ้ารู้ว่ามีผู้ชายที่เป็นแบบ Milk และได้รู้ว่า เขากล้าที่จะทำได้ขนาดนี้ผมคงเลือกเขาไปด้วย ความรู้สึกตอนที่ดู อยากเป็นเกย์ขึ้นมาบ้าง (แต่ไม่มีวันเป็น) และเห็นความสำคัญเลย ว่า กว่ากฎหมายสิทธิและคุ้มครองเกย์ออกเนี่ย เราก็ต้องสูญเสีย วีรบุรุษ คนหนึ่งไปเพราะ บางเอิญ มีใครบางคนที่ไม่ยอมรับความคิดของ Milk และกระทบต่อตัวเองมาก จน ฆ่าMilk ในที่สุด แล้วก็ยิงตัวตายหลังจาก 2 ปี ที่ฆ่า Milk

เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นบนโลกจริงฯ
Milk เป็นเกย์ที่ไม่เหมือนเกย์ทั่วไปจริงฯ เป็นคนดี น่ารัก ทำเพื่อประชาชนถึงระดับชีวิตของผู้ที่อยากมีชีวิตที่มีความสุขแบบเกย์บ้าง และเป็นคนค่อนข้างฉลาดมากจนถึงมากที่สุด แต่กลับต้องมาทนทุกข์อย่างงี้แทน น่าสงสาร เค้าจัง เกิด-ตาย 1930-1978 น่าสงสารมาก เศร้าแหะ อารมณ์ถึงใจจริงฯ

เรื่องนี้เกย์ได้ใจจริงฯ ไม่แพ้ Brokeback Mountain เลย เป็นหนังที่ให้ข้อคิดคือ "เราจะมีชีวิตอยู่ไปวันฯ โดยไม่ทำอะไร หรือ เราจะสู้เพื่อสิ่งที่จะมีคุณค่าเพื่อเราและอนาคตทั้งหมด ทุกคนมีสิทธิที่จะเป็นเกย์ การเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องบาปผิด ฉนั้นเราจะห้ามไม่ได้ถือว่าเป็นการตัดชีวิตของคนที่อยากเป็นเลย เราต้องควรปล่อยให้เขาเป็นเกย์เพื่อให้มีชีวิตที่ดีด้วย" (ตามที่เราเข้าใจ)

เรื่องนี้ก่ะจะให้ 8 แต่อยากให้ 10 มากเลย(อารมณ์ถึงใจมาก หนังดีมากอีกต่างหากด้วย) ก็เอากลางฯก็มีแค่คะแนนเดียวคือ 9 แล้วกัน

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่เกย์นะ
- -"

แต่ผมรู้สึกว่าผมชอบเรื่องนี้
Milk ผู้ชายฉาวโลก
ชื่อภาษาไทยแอบน่ากลัวแฮะ

ดำเนินเรื่องแบบ ค่อยเป็นค่อยไป
ตามติดชีวิตตัวเอกไปเรื่อยๆ ๆ
แต่การดำเนินเรื่องแบบเรียบๆนั้น มันทำให้เราได้จับจุด
เล็กๆน้อยๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

ฌอน เพนน์ แสดงให้ผู้ชมเชื่อ
ว่าเค้าเป็น เกย์ ได้อย่างแนบเนียน
ออกจากโรงแล้ว ผมยังนึกภาพเค้าที่เป็นเกย์มาตลอด

อีกอย่าง ชอบฉากสุดท้ายมาก
ซึ้ง ปลาบปลื้ม !!

หนังยาวไปหน่อย
แต่ก็ปูเรื่องได้แน่น เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อย เหมือนดูชีวิตคนคนนึง
เกี่ยวกับเกย์เกือบทั้งนั้น และการเมืองที่ต้องต่อสู้

มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว หนังพูดถึงเกี่ยวกับการต่อสู้เรียกร้องสิทธิชาวเกย์ของคนอเมริกันยุค 70

เนื้อหาหนักไปทางการเมือง สลับกับบทอีโรติก ฌอน เพนน์ (I Am Sam) ได้รางวัลออสการ์จากนักแสดงนำชาย เล่นได้เหมือนมากจนนึกว่าเป็นเกย์จริงๆ

ส่วนเจมส์ ฟรังโก้ จากสไปเดอร์แมน ก็เล่นได้ชวนขนลุกมากเวลามีบทเลิฟซีน

เนื้อหาของหนังหนักไปทางดราม่า มีตลกบ้างนิดหน่อย บทสนทนาเยอะ น่าจะถูกใจคนเฉพาะกลุ่ม เพราะเน้นประวัติศาสตร์ ความเป็นมา การเรียกร้องสิทธิที่ถูกต่อต้านโดยคนเกลียดเกย์ ถ้าใครดู Brokeback Mountain แล้วสนุกก็น่าจะดูเรื่องนี้ได้สนุกเหมือนกัน