วิจารณ์ ความสุขของกะทิ

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 9 พ.ค. 52 04:38

    ดูหนังเรื่องนี้ เพราะน้องเด็กผู้หญิงน่ารักๆคนนึง ซึ่งใครๆที่เห็นรูปโปสเตอร์ คงจะคิดว่านึกว่าเป็นหนังเด็กๆ วุ่นวาย สนุกสนานตามแบบเด็กๆ กลายเป็นว่าเป็นหนังแนวสะท้อนชีวิตซะใด้

    ผู้สร้างพยายามจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตบางช่วง
    เกี่ยวกับเด็กคนหนึ่ง แต่กลับแสดงออกเหมือนหนังใบ้งั้นแหละ เพราะบทหนังแทบไม่มีอะไรเป็นแก่นและสาระให้ติดตามเลย

    บทพูดเหมือนพูดไปเรื่อยๆๆ กะจะกินเวลาหนังให้ใด้ครบ 1.30 ชั่วโมงงั้นแหละ ฉากที่ถ่ายฝาบ้านแบบค่อยๆเลื่อนไป และมีบทพูดแซมหลายครั้ง จนคิดว่า เอ้ยยหนังผีเหรอเปล่านี่

    สรุป หนังที่ผู้สร้างทำยังกะจะสร้างหนังใว้ดูคนเดียว ถ้าใครนอนไม่หลับกระสับกระส่าย นอนนับแกะสักหมื่นตัวแล้วยังไม่หลับ ผมแนะนำให้ดูเรื่องนี้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

  • เมื่อ 22 เม.ย. 52 15:21

    หนังแบบนี้ไม่น่าเข้าฉากโรงหนังได้นะ

    เอื่อเฉื่อย ไร้จุดขาย หาความน่าติดตามไม่มีเลย

    วันหลังถ้าจะทำหนังแบบนี้ออกมาอีก แนะนำว่า เก็บไว้ดูคนเดียวเถอะ

    0/10

  • เมื่อ 27 ม.ค. 52 17:20

    เป็นหนังที่เรียบเกินไป มีจุดเด่นอยู่ที่ภาพของตัวหนังที่ถ่ายออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าหากไม่มีภาพที่ถ่ายออกมาสวยๆ แบบที่โปรโมทให้คนดูแล้วคงมีคนเข้าชมน้อยกว่านี้ เพราะหลายคนหลับไปเลย
    นักแสดงถือว่าไม่ผ่าน casting ต้องบอกว่าแย่มากในหลายๆคนที่เล่นซึ่งขอยกตัวอย่าง คุณน้อยวงพรู คงต้องหัดอีกเยอะเพราะไม่มีความเป็นธรรมชาติของนักแสดงได้เลยสังเกตุจากเรื่องที่ผ่านๆมาแล้ว

  • เมื่อ 26 ม.ค. 52 05:29

    หนังดำเนินไปเรื่อยๆๆนะคะ ไม่ค่อยเคลียร์ว่าอะไรคืออะไร เเต่ก็พอเข้าใจบ้าง ถ้าไม่นั่งดูดีๆ มันจะง่วงค่ะ เเต่ถ้าพูดถึงฉาก ภาพสวยดูสดใสมากๆเลยค่ะ เเละน้องกะทิ ก็น่ารักค่ะ

  • เมื่อ 21 ม.ค. 52 14:58

    หนังหงิมๆ นิ่มๆ ตามบทในหนังสือเป๊ะ จนบางครั้งดูไม่ปะติดปะต่อ อย่างเรื่อง ปิแอร์ จะไม่มีเข้ามาก็ได้

  • เมื่อ 19 ม.ค. 52 16:30

    -ผมเป็นคนชอบดูหนังActionsมาก แต่ก็อยากสนับสนุนหนังไทยดีๆสักเรื่อง(ที่ไม่มีพวกตลก/ผี/กะเทย มาเล่น)เพราะเห็นรำคาญเต็มทน
    -ตัวหนังเรื่อยๆเรียบๆดังคาดอยู่แล้ว เพราะชื่อหนังหรือตัวหนัง ไม่มีส่วนไหนบอกเลยว่า จะต้องมันส์สะใจหรือตลกโปกฮา
    -น้องกะทิเล่นได้ดีมาก ชอบตอนที่อยู่ชายหาด น้องกะทิก็วิ่งออกมาพร้อมๆกับร้องไห้ไปด้วย ซึ้งมาก (ผมน้ำตาไหลตามด้วยเลยครับ)เพราะเด็กไม่อยากให้ใครมาสงสาร หรือเห็นน้ำตา (ส่วนที่คุณmax099นักวิจารณ์หนัง สงสัยว่า ผกก.ต้องการสื่ออะไร (ผมก็ขอลองเดาๆใจเด็กดูนะครับ เพราะเลี้ยงมาหลายคนแล้ว) ฉากเนี่ยหลังจากน้องกะทิวิ่งแล้วร้องไห้ แล้วจู่ก็หยุดร้องเพราะว่าเจอม้า เป็นเพราะน้องกะทิเขายังเด็กมากไงครับ พอเจออะไรที่แปลก หรือน่าสนใจก็จะหยุดร้องอย่างเนี้ย ตามประสาเด็กและครับ ผมว่าผู้ใหญ่บางคนก็เป็นนะครับ เวลาเศร้าหรือเสียใจ จู่ๆเจออะไร ที่เจอไม่ค่อยพบเห็น ก็ลืมเรื่องเศร้าเป็นปลิดทิ้งเลยไงครับ
    -ในเรื่องคือน้องกะทิเหมือนเด็กมีปัญหาครอบครัว แต่ก็ไม่มีปัญหา ที่มีปัญหาคือผู้ใหญ่ต่างหาก ที่ชอบคิดแทนเด็กเสมอ เป็นกันทุกคนเลยด้วย ตั้งแต่ตากับยาย และน้าๆทั้งหลาย ทั้งๆที่ตัวเด็กตัวว่ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต
    -หนังสะท้อนความคิดของผู้ใหญ่สมัยนี้ได้ดีมากเลยครับ คือชอบคิดแทนเด็ก คิดว่า สิ่งที่เราทำให้ตอนนี้ ดีที่สุดแล้ว วางแผนปูทางให้เด็กตลอด แต่หารู้ไม่ว่าเด็กต้องการอะไรที่แท้จริง (ในเรื่องน้องกะทิ อายุประมาณ9ขวบ แต่ก็รู้จักเข้าใจอะไรๆในชีวิตหลายอย่างแล้ว)แถมเด็กยังไม่อยากให้ผู้ใหญ่มาเป็นห่วงเขามากด้วย เลยทำเป็นไม่สนใจ หรือไม่ได้ยินอะไร ทั้งๆที่แอบรู้แอบเห็นผู้ใหญ่คุย และร้องไห้มาแล้ว
    -หลายคนหลังชมหนังเรื่องนี้แล้ว ไม่ชอบ ...ก็ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูแล้วไม่เข้าใจหนังมากกว่าหรือเปล่า เลยพาลไม่ชอบตัวหนังไปด้วย เพราะพอได้อ่านเหตุผลของแต่ละคนแล้ว 555เลยครับ ดูความคิด เด็กกว่าน้องกะทิอีกนะครับ อย่างน้อยเนี่ย ก็น่าจะเอาน้องเขาเป็นตัวอย่างนะครับ จิตใจเข้มแข็งกว่าหลายๆคนในกระทู้นี้เยอะเลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 19 ม.ค. 52 09:01

    ไม่เคยอ่านหนังสือ
    แต่หนังทำได้ไม่ค่อยเป็นหนัง
    ตั้งใจเข้าไปดูแบบไม่มีอคติแล้ว
    ทำใจเป็นกลางก็แล้ว
    ก็รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรกลับมาเลยค่ะ

    ให้ 3 เต็ม 10 ค่ะ

    ให้เพราะกะทิเล่นโอเค
    ฉากภาพสวย นอกนั้นให้คนอื่นอ่านหนังสือแล้วเอากล้องธรรมดาไปกำกับเองก็ได้ค่ะ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 18 ม.ค. 52 23:05

    ถ้าเมื่อคืนนอนไม่พอ หรือ ทำงานมาเหนื่อยๆ ไม่ควรดูเรื่องนี้ เพราะ
    การนำเสนอจะเป็นแบบเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เป็นบทๆ แบบในหนังสือ
    ถ้าคุณหวังจะพบเรื่องราวน่ารักๆ ของเด็กประถมแบบแฟนฉัน เรื่องนี้ไม่มี
    ถ้าคุณหวังจะพบความตลก แบบดรีมทีม เรื่องนี้ก็ไม่มี
    ถ้าคุณหวังจะพบความประทับใจแบบhappy birthday เรื่องนี้ไม่มี
    ถ้าคุณหวังจะพบความโศกเศร้า ฟูมฟายแบบจดหมายรัก เรือ่งนี้ก็ไม่มี
    นี่คือ หนังที่ลอกหนังสือมาเป๊ะๆ แต่ เป็นการลอกที่ขาดใจความสำคัญ ขาดเหตุผลที่จะมาอธิบายการกระทำของตัวละครในเรื่อง ขาดการเกริ่นถึงความเกี่ยวดองของตัวละครในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ลุงตอง น้ากันต์ ทั้งที่ถ้าลองกลับไปอ่านหนังสือจะพบว่า หนังสืออธิบายตรงนี้ไว้ค่อนข้างเคลียร์ และ เหตุการณ์หลายเหตุการณ์ซึ่งไม่ได้อยู่ในหนังสือ และไม่ได้มีความสำคัญกับตัวเรื่องก็ไม่รู้เอามาใส่ทำไม เช่น ฉากนักปั่นจักรยานที่ในหนังสืออยู่ในภาค2 หรือ เรื่องเพื่อนของกะทิ ซึ่งในหนังสือแทบจะไม่ได้พูดถึงเลย ทั้งที่ควรจะนำเวลาไปเพิ่มบทสนับสนุน เหตุผลการกระทำของกะทิในตอนท้ายน่าจะดีกว่า และ บางฉากก็ขาด่ที่มาที่ไป เช่นคนดูจะงงว่าตกลงแม่กะทิตายไปตอนไหนกันแน่ ทำไม่ไม่พูดถึงงานศพแม่กะทิเลยทั้งที่ในหนังสือมีการกล่าวถึง
    นอกจากนี้ตัวแสดงบางคนก็เล่นได้ไม่ดีนัก เช่นคุณรัชนก ที่เล่นเป็นแม่ของกะทิ น้ำเสียงคุณรัชนกไม่เหมาะกับการเล่าเหตุการณ์ในเรื่อง เพราะดูจงใจ และฟูมฟายเกินไป จนขาดอารมณ์ร่วมของคนดู ส่วนคุณสมเจต ก็เล่นดูตลกฝืดเกินไปทั้งที่ในหนังสือฉากการต่อปากต่อคำ และ การกัดกันระหว่างตากับยาย ถือว่าเป็นไฮไลต์ และมุขก็ไม่ได้แห้งแล้งแบบในหนัง
    มีที่เล่นใช้ได้ ก็คือตัวเอก คือ กะทิ ที่เล่นได้น่ารัก ไม่ดูปั้นแต่ง หรือฟูมฟายจนเกินไป ในฉากที่ต้องร้องไห้
    ถือเป็นหนังไทยที่เริ่มต้นศักราชปี2552 ได้พอใช้ แต่ไม่ถึงกับดีนัก
    ให้คะแนน 7 เต็ม 10 ครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 18 ม.ค. 52 20:00

    หนังทำออกมาแบบบอกถึงความสุข จึงไม่เสนอมุมมองของความเศร้าออกมา อย่างตรงๆ แต่บางทีอาจทำให้ผู้ชมเกิดข้อสงสัย หลายอย่าง อย่างตัวผมนี้ยังไม่เคยอ่านหนังสือ มันเกิดข้อสงสัยหลาย ๆ เรื่อง...ขึ้น... ถ้าเต็มห้า ให้ สอง ละกัน

    ปล.ภาพสวยดี

  • เมื่อ 17 ม.ค. 52 14:53

    หนังมีเจตนาที่ดี แต่ทำออกมาได้ไม่ดีอย่างแรง
    การแสดงหลายคนแข็งทื่อมาก โดยเฉพาะเด็กๆ
    หนังไร้อารมณ์ขันอย่างแรง ฉากที่ควรจะยิ้มๆ น่ารัก ทำมาได้จืดสนิท
    การถ่ายภาพจริงๆสวยมาก แต่โดนทำลายด้วยการเคลื่อนกล้องอย่างพร่ำเพรื่อ จนแทนที่จะรู้สึกซึมซับกับบรรยากาศ กลับกลายเป็นรำคาญ งานสร้างดูประดิดประดอยจนรู้สึกว่าเสแสร้ง
    เสียดายว่าหนังน่าจะดีได้กว่านี้อีกเยอะมาก

    ปล.นี่เป็นความเห็นส่วนตัว แต่ยังไงก็ชื่นชมทีมสร้างในแง่ความตั้งใจ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 16 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • เขาชนไก่เขาชนไก่เข้าฉายปี 2006 แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
  • เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตายเข้าฉายปี 2006 แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
  • Happy FeetHappy Feetเข้าฉายปี 2006 แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood

เกร็ดภาพยนตร์

  • Foxcatcher - แชนนิง เททัม ผู้รับบท มาร์ก และ มาร์ก รัฟฟาโล ผู้สวมบท เดฟ ใช้เวลา 5 ถึง 6 เดือนฝึกซ้อมมวยปล้ำ อ่านต่อ»
  • Hector and the Search for Happiness - ไซมอน เพกก์ และ โรซามันด์ ไพก์ ผู้รับบทสองสามีภรรยา เฮคเตอร์ และ คารา เคยแสดงร่วมกันมาก่อนใน The World's End (2013) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

หลวงตามหาเฮง หลวงตามหาเฮง เรื่องราวของหลวงตา (ค่อม ชวนชื่น) ใจดีแห่งโคกอีรวย ที่ให้โชคลาภด้วยเลขเด็ดเลขดีแก่ญาติโยม...อ่านต่อ»