เกร็ดน่ารู้จาก Australia
เกร็ดน่ารู้
- ลูกสาวของผู้กำกับ บาซ เลอร์มานน์ มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ บาซ ตัดสินใจสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับออสเตรเลีย เพราะชีวิตการทำงานของ บาซ กับภรรยาที่เป็นผู้ออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกาย แคเธอรีน มาร์ติน ทำให้ลูกของพวกเขาต้องย้ายที่อยู่บ่อย พวกเขาอยากสร้างความรู้สึกผูกพันกับบ้านเกิดให้ลูก จึงหันไปศึกษาประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย
- ฉากในเรื่องเกิดขึ้นช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 และต้นทศวรรษที่ 1940 อันเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในพื้นที่ชนบทของออสเตรเลีย ซึ่งมีทั้งสถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและสถานที่ซึ่งสมมติขึ้นมา
- ประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1910-1970 ที่รัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายป้องกันความยากจน ด้วยการพรากตัวเด็กชาวอะบอริจิน โดยเฉพาะลูกครึ่งอะบอริจินกับคอเคเซียนออกจากครอบครัว มาให้หมอสอนศาสนาหรือสถาบันของรัฐเลี้ยงดู ในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีตัวละครเด็ก นูลลาห์ ซึ่งรับบทโดย แบรนดอน วอลเตอร์ส เป็นตัวแทนของเด็กที่น่าสงสารกลุ่มนี้
- ผู้คัดเลือกนักแสดงออสเตรเลีย นิกกี บาร์เรตต์ ประกาศเชิญชวนเด็กชายอะบอริจินจากทั่วออสเตรเลียให้มาทดสอบหน้ากล้องในบท นูลลาห์ และเมื่อผู้กำกับ บาซ เลอร์มานน์ คัดเลือกเด็กๆ ได้จำนวนหนึ่งแล้ว ก็จัดให้พวกเขาเข้าค่ายฝึกซ้อมที่โรงถ่ายฟอกซ์ในออสเตรเลีย จากนั้นพวกเขาก็เลือก แบรนดอน วอลเตอร์ส มารับบทนี้
- แบรนดอน วอลเตอร์ส วัย 11 ปี ซึ่งไม่เคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน ต้องฝึกขี่ม้า ฟาดแส้ และฝึกพูดบทภาพยนตร์ เพื่อรับบทเป็น นูลลาห์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้
- ผู้สร้างดัดแปลงข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์บางส่วน เพื่อให้ภาพยนตร์คงอรรถรสด้านอารมณ์ เช่น จริงๆ แล้วการส่งออกปศุสัตว์ที่มีชีวิตนั้นสิ้นสุดลงก่อนที่จะเกิดสงครามที่ดาร์วิน แต่ในภาพยนตร์ยังมีการขนส่งฝูงปศุสัตว์ไปจนถึงปี 1942 ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่าเกาะมิชชันถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ตามนิกายของโบสถ์ที่ดูแลนั้น ผู้สร้างเลือกขมวดสถาบันทางศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
- บางครั้งผู้สร้างดัดแปลงรายละเอียดในภาพยนตร์ให้บิดเบือนจากประวัติศาสตร์ เพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย เช่น ตัดทอนความเป็นจริงที่ว่าคนทำปศุสัตว์ชาวพื้นเมืองหลายคนขี่ม้าโดยไม่มีอานและไม่สวมรองเท้า
- ผู้กำกับ บาซ เลอร์มานน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้าง พอล วัตเตอร์ส และผู้ช่วยของบาซ ชุยเลอร์ เวสส์ ลงทุนขี่ม้าต้อนฝูงวัวนับร้อยตัวกลางผืนดินอันร้อนระอุของชนบทออสเตรเลียด้วยตัวเอง เพื่อให้เข้าใจประสบการณ์ของตัวละครมากยิ่งขึ้น โดยแอบไม่ให้ผู้ต้อนฝูงสัตว์ที่พวกเขาร่วมเดินทางไปด้วยเห็น แต่ บาซ ก็สารภาพว่าเขาแก้เบื่อด้วยการฟังเพลงจากไอพ็อดในระหว่างนั้นด้วย
- ผู้ออกแบบงานสร้าง แคเธอรีน มาร์ติน ใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ สร้างฉากเมืองดาร์วินในช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่งมีขนาด 5 เอเคอร์ ในพื้นที่เมืองชายหาดโบเวน ในควีนส์แลนด์ ฉากดังกล่าวประกอบด้วยผับ 2 ชั้น เขตไชนาทาวน์ ถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น เสาโทรเลขและไฟให้แสงสว่างตามถนน นอกจากนี้ยังต้องตกแต่งตึกที่มีอยู่เดิมให้ดูเหมือนตึกในปี 1930 ด้วย
- ผู้กำกับ บาซ เลอร์มานน์ สำรวจระยะทางจริงของทุกฉากแบบวัดก้าวเลยทีเดียว เนื่องจากเขาต้องการให้ระยะทางที่ผู้ชมมองเห็นในแต่ละฉากสมจริงที่สุด เช่น เขาต้องพิจารณาอย่างละเอียดว่าต้นโบบขนาดยักษ์ที่อยู่หน้าบ้านไร่ ควรอยู่ห่างจากบ้านมากแค่ไหน จึงจะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าต้นไม้นี้มีขนาดใหญ่มาก
- ผู้ออกแบบงานสร้างและเครื่องแต่งกาย แคเธอรีน มาร์ติน กับหัวหน้าแผนกออกแบบเครื่องแต่งกาย เอลิซา ก็อดแมน ร่วมกันออกแบบเสื้อผ้าสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงเกือบ 2,000 ชุด ซึ่งถือเป็นจำนวนมากกว่าเสื้อผ้าใน Moulin Rouge! (2001) ถึง 4 เท่า
- แผนกออกแบบเครื่องแต่งกายจำเป็นต้องมีชุดสำรองหลายๆ ชุดสำหรับการเดินเรื่องในแต่ละช่วง เนื่องจากมีฉากผาดโผน สมบุกสมบัน และฉากที่เปียกฝน นอกจากนี้เสื้อผ้าบางชุดเมื่อสวมแล้วดูดีเวลาขี่ม้า แต่ไม่ได้ดูดีนักเวลาที่นักแสดงยืน ดังนั้นกางเกงขี่ม้าของคุณหญิง ซาราห์ ซึ่งรับบทโดย นิโคล คิดแมน จึงมีถึง 9 ตัว
- ชุดแบบโบราณจากยุคทศวรรษที่ 1930 นั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะให้นักแสดงในยุคปัจจุบันสวมใส่ได้ แผนกเครื่องแต่งกายจึงต้องออกแบบและตัดเย็บชุดราตรีขึ้นมาใหม่ 60 ชุดเพื่อใช้ถ่ายทำฉากเพียงฉากเดียว
- รองเท้าของคุณหญิง ซาราห์ ซึ่งรับบทโดย นิโคล คิดแมน เป็นรองเท้ายี่ห้อ เฟอร์รากาโม ซึ่งโด่งดังในช่วงทศวรรษที่ 1930
- ชุดกระเป๋าขนาดใหญ่สีน้ำเงินและขาวของ ซาราห์ ซึ่งรับบทโดย นิโคล คิดแมน เป็นกระเป๋ายี่ห้อ พราดา ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1913 และเป็นที่นิยมของชนชั้นราชวงศ์และชนชั้นสูง
- ช่วงก่อนการถ่ายทำ รัสเซลล์ โครว์ ตกลงรับบทนำเป็น โดรเวอร์ แต่ผู้บริหารของ ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ต้องการลดค่าตัวของ รัสเซลล์ เพื่อจำกัดงบประมาณ ทำให้ รัสเซลล์ ขอถอนตัวออกจากการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
- ผู้สร้างใช้ม้าป่ากว่า 1,500 ตัวถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
- ขณะถ่ายทำมีคณะผู้สร้างและนักแสดงให้กำเนิดลูกไม่ต่ำกว่า 15 คน หนึ่งในนั้น คือ ซันเดย์ โรส คิดแมน เออร์บาน ลูกสาวของ นิโคล คิดแมน ผู้รับบทคุณหญิง ซาราห์
- แม้จะเลื่อนการถ่ายทำภาพยนตร์ไปครึ่งปี แต่ นิโคล คิดแมน ยังคงเชื่อมั่นในงานชิ้นนี้ และเตรียมตัวรับบทคุณหญิง ซาราห์ เป็นอย่างดี ด้วยการท่องเที่ยวในออสเตรเลียกับครอบครัวของเธอ ซึ่งเธอได้ขี่ม้าและทำหมันวัวด้วย
- ถ่ายทำเป็นเวลาทั้งหมด 9 เดือน และถ่ายทำเพิ่มเติมอีกครั้งช่วงปลายปี 2008
- เดิมผู้สร้างเลือก ฮีธ เลดเจอร์ มาแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ ฮีธ ถอนตัวออกไปรับบท โจ๊กเกอร์ ใน The Dark Knight (2008)
- เป็นภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรกของนักแสดงชาวฮ่องกง หยวนหวา หลังจากแสดงบทร้ายในภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องดังๆ มาหลายเรื่อง
- เดิมภาพยนตร์เรื่องนี้มีงบประมาณ 100 ล้านเหรียญออสเตรเลีย แต่ภายหลังเพิ่มขึ้นมากกว่า 150 ล้านเหรียญออสเตรเลีย
advertisement
วันนี้ในอดีต
เด็กหอเข้าฉายปี 2006 แสดง จินตหรา สุขพัฒน์, ชาลี ไตรรัตน์, ศิรชัช เจียรถาวร
Constantineเข้าฉายปี 2005 แสดง Keanu Reeves, Rachel Weisz, Shia LaBeouf
Million Dollar Babyเข้าฉายปี 2005 แสดง Clint Eastwood, Hilary Swank, Morgan Freeman