วิจารณ์ Australia

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 1 ส.ค. 67 23:08

    1DXeItDP4EO

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 28 พ.ย. 53 21:26

    น้ำตาคลอ 10/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 25 พ.ย. 52 10:20

    หนังนานดีครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 12 เม.ย. 52 22:54

    ชอบมาก ดูแล้วน้ำตาตก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 30 มี.ค. 52 13:08

    สนุกมากยิ่งกว่าที่คิดไว้ตอนแรก หนังดีด้วยครับ ชอบ "คิง จ๊อช" มากเลย 55555

  • เมื่อ 17 ก.พ. 52 12:46

    ปกติไม่ชอบดูเลย หนังแนวนี้ แต่เพราะ อะไรหลายๆอย่าง ทำให้ต้องไปดู 55 ไม่ผิดหวังที่ได้ไปดูอ่ะ สนุกมากๆ หนังมีสาระดี นิโคล กับ ฮิวจ์ เล่นดีมาก ๆๆๆ แอบหลงฮิวจ์ด้วย ><

  • เมื่อ 15 ม.ค. 52 16:16

    Australia ( สองดาวครึ่ง )

    .........Point ของหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ก็แค่อยากจะบอกว่าคนเราไม่ควรคิดจะไปเปลี่ยนหรือบงการชีวิตคนอื่น แต่ควรจะพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจ วิธีคิด และวิถีชีวิตของคนเผ่าพันธ์อื่นที่ไม่เหมือนกับเรา แต่กว่าที่หนังจะเข้าประเด็นก็ โอ้โฮ ชักแม่น้ำทั้งสิบสาย ตั้งแต่แยงซีเกียง ฮวงโห ยัน บลูดานูบ ก็ไม่ถึงเจ้าพระยาสักกะที หนังมัวแต่อ้อมไปอ้อมมา เล่าโน่นเล่านี่ไปเรื่อย แต่ก็มิได้นำพาไปสู่เป้าหมายหลักเลยสักกะนิด !! หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนนิทานเด็กก่อนนอน ที่เล่าไปเรื่อยๆเป็นตอนๆ เผลอหลับไปสักตอนก่อนแล้วตื่นขึ้นมาอ่านบทสุดท้ายก็น่าจะเข้าใจนิทานทั้งเรื่องได้ไม่ยากนะครับ

    .........ความกล้าหาญชาญชัยของหนังอยู่ตรงที่ หนังถูกเล่าเรื่องโดยใช้เด็กชาวอบอริจินิส ซึ่งถือเป็นชนผื้นเมืองที่ปัจจุบันเกือบจะสูญพันธ์จากทวีปออสเตรเลียแล้ว ซึ่งก็เป็นผลจากการรุกรานของพวกผิวขาวนั่นแหละ แถมหนังยังหยิบประเด็นที่ลูกหลานของคนพื้นเมืองถูกพวกผิวขาวจับไปแยกเลี้ยงเพื่อปลูกฝังความคิดหลายๆอย่าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสลายชาติพันธ์อื่น ซึ่งถือเป็นความชั่วร้ายของบรรพบุรุษตัวเองแท้ๆ แต่ลูกหลานซึ่งห่างไปแค่ช่วงอายุคนเดียว หยิบเอามาทำเป็นหนังวิพากษ์รวมถึงบ่งฝีของคนรุ่นพ่อรุ่นปู่ตัวเองได้แบบไม่เกรงใจ อย่างไรก็ดีหนังก็แอบแฝงความคิดที่ว่า ในบรรดาออสเตรเลียนที่เลวๆ ก็ยังมีคนดีๆแอบแฝงอยู่บ้างล่ะนะ อย่างน้อยก็กลุ่มตัวละครเอก ??

    .........เลดี้ นิโคล คิดแมน เป็นคุณนายเชื้อสายไฮโซมาจากแผ่นดินอังกฤษ มาตามหาสามีที่มาทำปศุสัตว์อยู่แถวแดนไกลโพ้นที่ห่างไกลความเจริญในสายตาของเจ้าหล่อน ก่อนจะพบว่าอ้าว สามีถูกฆ่าแล้ว ทำไงดีล่ะ ทำไงดีล่ะ ? กิจการฟาร์มปศุสัตว์ Down under ของคุณซะมีก็บิ๊กเบิ้มเกินความสามารถผู้หญิงตัวเล็กๆ หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่ฟ้าก็ยังสงสาร ส่งพ่อหนุ่มโคบาล ฮิวจ์ แจ๊กแมน มารับนางเอก และก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากะคุณเธอมาตลอด จนมาเจอว่าอ้า น้องนางนิโคล กลายเป็นแม่ม่ายเนื้อหอมไปซะแระ แล้วพ่อม่ายรูปหล่อกล้ามโตอย่างพ่อฮิ๊วจ์จะไม่เคลมซะหน่อยเหรอออ ? ท่ามกลางธรรมชาติอันเวิ้งว้างและงดงามของออสเตรเลีย ทั้งพ่อม่ายแม่ม่ายทรงเครื่องเนื้อหอม ต่างก็ปล่อยใจปล่อยกายไปกับรสสิเน่หาที่ต่างฝ่ายต่างปรนเปรอแก่กัน ? ( โอ๊ววว )

    .........แม้จะได้ทุนสร้างมโหฬารมหาศาล แต่กลับรู้สึกว่าใช้เงินไม่ค่อยสมกับราคาทุนเลย พับผ่าสิ เกือบทั้งเรื่องผมรู้สึกเหมือนว่าเค้าไม่ได้ถ่ายทำในสถานที่จริงอ่ะครับ เหมือนพระนางเล่นกันหน้าบลูสกรีน ส่วนฉากหลังดูยังไงก็ไม่เหมือนธรรมชาติ มันดูหลอกๆครับ บางฉากก็เหมือนจะสวย แต่ก็ไม่ใช่ ซีจีหลายๆฉากนี่ผมรู้สึกเลยว่ามันไม่ใช่ครับ ยังแอบงงว่าหนังระดับเนี้ย ทำไมไม่รู้จักใช้ฉากหลังให้มันคุ้มค่ากว่านี้ !! ไม่รู้จะโทษงานโปรดักชั่นดีไซน์ หรือจะโทษผู้กำกับภาพดี เพราะปกติจำได้ว่า ทีมของบัซ เลอห์แมนนั้น สุดยอดมากในเรื่องของ โปรดักชั่น ฉาก เครื่องแต่งกาย แสงสีเสียงอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย !! ผมว่าฉากหลังในหนังยังแพ้หนังออสเตรเลียนร่วมสมัยอีกหลายๆเรื่องซะด้วยซ้ำไป

    .........ครึ่งแรกของหนังก็เป็นกระบวนการต้อนวัวป่าของนางเอก ซึ่งทำให้ผมหวนนึกถึง Dance with wolves ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่เปลี่ยนรายละเอียดนิดๆหน่อยๆ แต่แปลกตรงที่ ทำไม Dance ผมรู้สึกอินกับเนื้อหาจัง แต่เรื่องนี้ดูตัวละครมันไม่ยักกะกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของหนังเท่าไหร่เลย ส่วนครึ่งหลังก็ออกแนวหลายอารมณ์ มีทั้ง Pearl harbour และหนังแนวรักระหว่างรบอีกหลายเรื่อง แต่หนังกลับไม่สามารถผูกเรื่องให้ตัวพระนาง เข้าไปพัวพันกับสงครามได้อย่างน่าสะเทือนใจ ภาพสงครามโลกครั้งที่สองที่เกิดกับออสเตรเลีย ดูผิวเผินมาก และแทบจะไม่ส่งผลกระทบกับตัวละครนำเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดีด้วยความสามารถเอกอุระดับ คุณบัซนั้น ก็ทำให้ 160 นาทีในหนังไม่ถึงกับน่าเบื่อหน่ายเกินไปนัก แต่ไม่มีอะไรอยู่ในความทรงจำแม้แต่น้อย ประเด็นอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์และสิ่งมหัศจรรย์ที่ใส่เข้ามาทำให้หนังดูเพ้อฝันไปสักหน่อย ตัวละครในหนังต่างมีมิติเดียว ดีสุดขีด ร้ายสุดขั้ว เดาทางได้ง่ายสุดๆ สรุปออสเตรเลียเป็นหนังสูตรที่พอดูได้เพลินๆแต่ไม่ถึงกับพลาดไม่ได้ครับ

  • เมื่อ 13 ม.ค. 52 11:30

    หนังสนุกมากๆครับ นิโคล คิดแมน สวยมากๆ รักเธอที่สุด ฮิวจ์ แจ็คแมนก็หล่อ เท่ได้ใจ หนังโดยรวมทำออกมาดี งานสร้างก็สวยอลังการ ชอบหนังแนวนี้มากๆครับ ดูมาแล้ว 2 รอบ ยังอยากดูอีกรอบอยู่เลย

  • เมื่อ 5 ม.ค. 52 15:51

    ชอบตอนนิโคลกำลังอินกับจิงโจ้กระโดดอะ ฮาก๊ากเลย ให้ 10/10

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 3 ม.ค. 52 21:03

    สั้นๆ ง่ายๆ ประทับใจหลายฉากเลยอ่ะ
    ยิ่งตอนพี่ฮิวจ์แกโผล่มานี่ แอบกรี๊ดเลย หึ หึ หึ
    ชอบพี่แกอยู่แล้ว มาเล่นเรื่องนี้ แนวนี้ กับนางเอกคนนี้...
    ใครว่าไงไม่รู้อ่ะ แต่ส่วนตัวแล้วชอบบบบบ

    แจ้งลบ
มีทั้งหมด 23 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 3 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Laggies - แอนน์ แฮตธาเวย์ คือนักแสดงเดิมที่จะมารับบท เมแกน แต่ขอถอนตัวเนื่องจากติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Song One (2014) และ Interstellar (2014) ด้าน รีเบกกา ฮอลล์ ก็ปฏิเสธบท เมแกน เพื่อแสดง Transcendence (2014) เคียรา ไนต์ลีย์ จึงเข้ามารับบทนี้แทน อ่านต่อ»
  • Into the Woods - บทภาพยนตร์ร่างแรกๆ บทผู้บรรยาย ที่เป็นตัวสำคัญในละครเพลงยังมีบทบาทอยู่ในฉบับภาพยนตร์ และก่อนที่บทนี้จะถูกตัดออกในภายหลัง นักแสดงมากมายได้รับการพิจารณา เจรจา และทาบทามให้สวมบทนี้ นักแสดงเหล่านั้นรวมถึง เจเรมี ไอออนส์, คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์, เจฟฟรีย์ รัช, เจมส์ เอิร์ล โจนส์, จอห์น คลีส, ไมเคิล เคน, ไมเคิล แกมบอน และ อลัน ริกแมน นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมอบบทนี้ให้นักแสดงผู้หญิงอย่าง จูลี แอนดรูว์ หรือ แองเจลา แลนส์บูรี ที่คุ้นเคยกับลักษณะงานของผู้ประพันธ์เพลง สตีเฟน ซอนด์ไฮม์ เป็นอย่างดี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

ดิว ไปด้วยกันนะ ดิว ไปด้วยกันนะ เรื่องราว ณ ปางน้อย พ.ศ. 2539 ความรู้สึกพิเศษได้ก่อตัวขึ้นระหว่างเด็กหนุ่มอายุ 17 สองคน ดิว (ภวัต จิตต์สว่างดี) และ ภพ ...อ่านต่อ»