SIAMZONE.COM

สนุกดีชอบๆ

เห็นโดนคนวิจารณ์ไปในแง่ลบซะมาก แต่พอได้ไปดูมาแล้วก็ดีเกินคาดเลยอ่ะ ลุ้นระทึกมาก เจ้างูก็ทำได้เหมือนจริงเลยนะ ทั้งๆที่พยายามเล็งหาจุดที่ไม่ใช่ของจริงแต่ก็หาไม่เจอ ทำได้แนบเนียนมาก พระเอกก็ฉลาดมาก ก็เห็นจะมีแต่พระเอกกับเจ้างูนี่แหละที่ฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยง อีกอย่างหนึ่งที่ชอบมากคือไม่ได้หลอกลวงคนดูเหมือนหนังไทยเรื่องอื่นคือเรื่องของโปสเตอร์น่ะ ภาพที่เจ้างูเอาตัวรัดเฮลิคอปเตอร์น่ะ โห สุดยอด ลุ้นมาก โปสเตอร์มี ในหนังก็มี แบบนี้สิถึงจะไม่หลอกลวงประชาชน

มันก้อใช้คำว่า "งั้นๆ" หนังไม่แน่นอน บางฉาก

ไม่สนุกเลย เราไปดูเเล้วก็งั้นๆ เลียนแบบอนาคอนด้าชัดเลยนี่โห่...คนไทยหนอ

ก็สนุกดีนะ ถ้าไม่คิดถึงเรื่องของ CG เนื้อเรื่องก็ค่อนข้างจะ......เลยล่ะการดำเนินเรื่องก็ยังงงๆ แต่ก็โอเคนะสำหรับนักแสดงที่พยายามทุ่มเทให้งานมันออกมาดี

โบอา บ้านเราตัวใหญ่กว่าเมืองนอกอีก ใครเคยดูเรื่อง ไบอาปะทะไพทรอน หรือเปล่า ตัวเล็กไปเลย ถ้าได้ดูเรื่อง โบอางูยักษ์ ของไทยเรา ไม่เคยดูไปดูน่ะ แล้วมาเปรียบเทียบกัน

ก็คงต้องทำใจเรื่องความไม่เนียนของกราฟฟิก แต่ว่าดีแล้วที่มีผลงานแบบนี้ออกมาให้เราได้ชม ประเทศไทยจะ
ได้มีการพัฒนาด้านนี้ให้สูงขึ้นเรื่อยๆเหมื่อนญี่ปุ่น หรืออเมริกา

งู ยังดู ไม่เป็นธรรมชาติ พอรู้สึกไม่สมจริง
ดูอย่างอนาคอนด้า งู เขาเหมือนจริงมาก อยากให้คนไทยพัฒนา เรื่องความสมจริงของภาพด้วยนะคะ

หนังไทยเรานะ ถ้าจะว่าไปก็ทำกันมานานแล้ว และก็พัฒนากันมาเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกับหนังฝรั่งแล้ว ในแง่ทุนในการสร้างคงไม่มากมายเท่าเขาหรอก เพราะฉะนั้นต้องให้ความยุติธรรมกับหนังไทยของเราเองด้านโปรดั๊กชั่น เพราะไม่มีเงินมากเท่าหนังต่างชาติ เท่าที่ทราบข่าวคราวมานะ หนังเรื่องโบอา งูยักษ์นี่ขายให้ต่างชาติได้แล้ว ก็หมายความว่ามีส่วนดีแน่นอน คนต่างชาติจึงตัดสินใจซื้อไปฉายในประเทศเขา ในเรื่อง กราฟฟิค คอมพิวเตอร์นั้น จะว่าไปหนังไทยเราเพิ่งพยายามนำเข้ามาใช้สองสามปีให้หลังนี้เอง และทีมทำซีจีในเมืองไทยนั้นมือยังไม่เที่ยงหรอก คือทำไปเรียนรู้ไปในตัวด้วย แต่ถ้ามีเงินมากๆไปจ้างฝรั่งเขาทำ รับรองแจ๋ว เพราะฉะนั้นเราต้องไม่หวังมากในเรี่องซีจีของหนังไทย รอเวลาอีกสักระยะคงจะหมดห่วง แต่คราวนี้หนังเรื่องนี้ต้องดูที่ความเป็นหนัง ว่าเนื้อหาโดยรวมเป็นเอกภาพหรือไม่ ไม่ใช่เป๋ไปเป๋มาอย่างเรื่องไพรีพินาศ ที่ขึ้นต้นไล่จับโจรแหกคุก แต่สุดท้ายไปสู้กับงูและการย้อนเวลาสู่อดีต มันไม่เป็นเอกภาพไง นอกจากนั้นก็มาดูว่านักแสดงเขาเล่นได้สอดคล้องกับอารมณ์ของเรื่องหรือเปล่า ที่พวกเขาพากันไปค้นหาเพื่อนที่หาย แต่บังเอิญเข้าไปในพื้นที่ของงู ซึ่งงูตัวนี้หรือทั้งครอกมันดุมาก นั่นเองที่เป็นความตื่นเต้นของหนัง ว่าที่สุดพวกเขาจะแก้ปัญหากันอย่างไร ที่ไม่คาดคิดว่าจะเจออะไรอย่างนั้น อาวุธก็ไม่ได้เตรียมไปอย่างครบเครื่อง นอกจากปืนสักกะป๊วยกระบอกเดียว แล้วก็มีหน้าไม้คันเดียวของตาพรานแก่ นี่ว่าตามที่เห็นในหนังตัวอย่างนะ คือไปดูว่าบทเขาวางไว้อย่างไร ตอนเปิดเรื่อง ตอนขมวดปมเรื่อง ตอนที่เป็นความขัดแย้ง ตอนที่ความขัดแย้งของเรื่องไปสู่ภาวะวิกฤต จากนั้นเขาจะให้ตัวละครแก้ภาวะวิกฤตอย่างไร เพื่อให้เรื่องคลี่คลายซึ่งการคลี่คลายเรื่องไปฉีกไปแนวไหน เช่น ตายหมดทุกคน หรืองูพินาศทั้งครอก หรืออะไรอย่างไร นี่ต่างหากที่เป็นสาระหลักของเรื่องเล่าด้วยภาพที่เรียกว่าหนัง จริงๆแล้วหนังไทยเราพัฒนามาได้ดีพอสมควรแล้ว หากจะเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมาถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นอย่าด่วนตัดสินว่าดีไม่ดีเพียงแค่เห็นหนังตัวอย่างเลยนะคนไทยทั้งหลังที่เป็นคอหนัง เปิดใจสำหรับหนังไทยเราไว้กว้างๆอีกหน่อย เพื่อจะได้ไม่ทิ้งกันเองแล้วหันไปหาหนังชาติอื่นจนโงหัวไม่ขึ้น จนกระทั่งหนังห่วยๆของต่างชาติก็ยังบอกว่าดีๆ ทำไมล่ะตดฝรั่งตดเกาหลีตดญี่ปุ่น มันหอมทุกครั้งเลยหรือไร เอ่อ..ขอถามบ้าง ไม่รู้ละอย่างไรต้องรักหนังไทยเราก่อน งานนี้ต้องไปดูๆ เรารักหนังไทยง่ะ