SIAMZONE.COM

ดีมากครับ หนังลุ้นตลอด คลายปมตอนจบเรื่อง เคยไปดูตอนออก
เดทกับภรรยาครั้งที่สอง จากนั้นภรรยาสั่งให้ซื้อซีดีมาดูที่บ้าน จากนั้นเอาไปฉายซาวด์แทรกให้นักเรียนเรียนชั่วโมงภาษาอังกฤษอีกครับ
ให้ 10 ก่อนน๊า... ด้วยความลำเอียง อิอิ

ชอบการแสดงของตัวละครมากๆครับ
โดยเฉพาะ Dakota

ส่วนเนื้อเรื่องให้ 7/10
ชวนดูชวนติดตาม
(แต่ยังไม่สู้ The sixth sense นะ)

หนังน่ากลัว ตื่นเต้นมาก อารมณ์ในตอนที่ผมดูบอกได้คำเดียวว่าหลอน หนังเค้าออกจะดี 10/10 ไปเลย

ดูมาแล้ว ก็เฉยๆอ่ะเหมือนดูแล้วก็ผ่านไป เรื่อย...... แต่ว่าเด็กก้อเล่นเก่งน่ะ ชนะเดอนีโรขาดเลย!

ให้ 7 คะแนน

มันตื่นเต้นตลอดเลย แต่ไม่ได้ดูตอนแรกอะเลยงงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Hide and Seek ภาพยนตร์ระทึกขวัญ กำกับโดย จอห์น โพลสัน ผู้เคยฝากผลงานไว้ในเรื่อง Swimfan เล่าถึงการเสียชีวิตอย่างกระทันหันของ อลิสัน (เอมี่ เออร์วิง) ภรรยาของจิตแพทย์ เดวิด (โรเบิร์ต เดอ นีโร) ที่สร้างความบอบช้ำทางจิตใจอย่างมากแก่ เอมิลี่ (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) สองพ่อลูกย้ายไปอยู่รัฐนิวยอร์กตอนเหนือ เพื่อทำให้เอมิลี่ห่างไกลจากความทรงจำของชีวิตกับแม่ที่แมนฮัตตัน ไม่นานหลังจากนั้น เอมิลี่ก็ได้พบเพื่อนใหม่ชาร์ลี ทั้งคู่สนุกกับเกมเล่นซ่อนหาด้วยกัน

ในตอนแรกเดวิดมองชาร์ลีในแง่บวก แต่หลายเหตุการณ์ที่น่ากลัวทำให้เขาเริ่มจินตนาการถึงเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้ เขาต้องค้นหาว่าชาร์ลีเป็นใคร อยู่ที่ไหน และท้ายสุดเขาจะยับยั้งชาร์ลีได้อย่างไร

เกมเล่นซ่อนหาที่สื่อถึงความเป็นเด็ก ไร้เดียงสา สนุก มีเป้าหมายเพื่อหาคนที่ซ่อนอยู่ให้เจอ ถูกนำมาใช้อย่างน่าสนใจในภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะโจทย์ที่ว่าถ้าใครสักคนที่ไม่ใช่เด็กเล่นเกมนี้ ความลึกลับซับซ้อน จะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด และใครคนนั้นยากที่จะค้นพบหรือไม่ คำตอบนั่นแหละที่เป็นชนวนดึงให้คนดูร่วมเป็นหนึ่งในผู้ค้นหาคนที่ซ่อนอยู่ให้เจอ

การพยายามทำให้คนดูสงสัยไปเสียทุกคนในเรื่อง แม้แต่หนูน้อยเอมิลี่ ดูเหมือนเป็นการจงใจอย่างตั้งใจ และยิ่งจงใจอย่างตั้งใจมากไปกว่านั้น คือ การซ่อนคำตอบไว้ใต้คำถาม ไม่ต่างอะไรกับการซ่อนผู้ซ่อนไว้ใต้เงาของผู้ค้นหา ทำให้ภาพจิ๊กซอว์ของคำตอบที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ ถูกรื้อทิ้ง เพราะต่อผิด

การใช้ความไม่มีตัวตน ลึกลับ สร้างความรู้สึกตกใจ กลัว กับเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในเรื่อง ผู้ชมต้องจินตนาการถึงตัวละครชาร์ลีแตกต่างกันไปตามความรับรู้ของตนเองที่ได้จากภาพยนตร์ ชาร์ลีจึงไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนในจินตนาการในภาพยนตร์เท่านั้น แต่เป็นคนที่ถูกสร้างอยู่ในจินตนาการของผู้ชมทุกคนไปในเวลาเดียวกันด้วย ต้องยอมรับว่าความกลัวที่เกิดจากการไม่เห็นตัวตนนี้ น่าจะหลอนประสาทมากกว่าการเห็นรูปร่างที่น่ากลัว ติดตา เพราะเหมือนเรากลัวสิ่งที่เราคิดขึ้นเองก็ว่าได้

วิธีการเล่าเรื่องใช้ได้ แม้จะสับสนเรื่องเวลาไปบ้าง แต่ก็ยังพยายามทิ้งปมเป็นระยะ ตามแบบฉบับของภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ ที่เล่นกับผู้ชมทั้งอารมณ์และความคิด ดูจบแล้วถ้าไม่งง ก็จะรู้สึกว่าตัวเองฉลาด เพราะเดาถูกหรือคิดทันผู้กำกับ บางคนอาจเลยเถิดไปถึงภูมิใจในตัวเองที่เรื่องนี้หลอกเราไม่ได้

ส่วนที่ได้ใจสุดๆ ขอชมเลยว่ายอดเยี่ยม คือ การแสดงของ ดาโกต้า แฟนนิ่ง แม้จะอายุน้อย แต่เธอเป็นมืออาชีพจริงๆ ด้วยบทบาทที่ซับซ้อน ใช้ความสามารถในการแสดงสูง ทำให้เชื่อเลยว่าเธอเป็นสาวน้อยเอมิลี่ผู้ผ่านเหตุการณ์ที่น่ากลัว ในขณะที่ โรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงมือฉมังผู้คว้ารางวัลต่างๆ มามากมาย แต่บทในเรื่องนี้ กลับลดรัศมีของเขาลง

หลายคนอาจเปรียบเทียบ Hide and Seek ว่าไม่ดีเท่า The Sixth Sense ที่สนุกกว่า ตอบทุกประเด็นที่ภาพยนตร์สร้างขึ้นได้ครบกว่า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า Hide and Seek จะทำให้คุณเสียดายเงินถ้าเข้าไปดู เพราะอย่างไรก็ตาม เชื่อว่า Hide and Seek ก็นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่น่าติดตามเรื่องหนึ่งในเวลานี้ สนุกเหมือนกับคุณเล่นเกมซ่อนหาแหละ!

ไม่หนุกเลย ผิดหวัง เดาออกตั้งแต่กลางเรื่องแล้ว อาศัยนักแสดงรุ่นเก๋า + ดาโกต้าช่วยไว้นะเนี่ยยยย จริงๆ เทียบมาก็ six sense นี่ล่ะยอดสุดๆ ในรอบ 7-8 ปี ที่ผ่านมาเลย

ถ้าคนที่ชอบหนังแนว ตกใจอย่าง The Shutter หรือพวกผีๆ ทั้งหลาย ก็อย่าไปดูเรื่องนี้ให้เสียตังค์เลยครับ แต่ถ้าคนที่ชอบแนว The Ring, Gothika, The sixth sense ก็ไม่ควรพลาดเลยอ่า ตอนจบหักมุมมาก แต่ในเรื่องอ่อนไปหน่อย พยายามจะหลอกคนดูสุดๆ แต่พอเฉลยตอนจบมา ทำให้ผู้ชมงงกันเป็นแถว - - - อย่างตอนที่ พ่อ พยายามเปิดหน้าต่างก้อเปิดไม่ได้ แต่ทำไม Charlie ถึงเปิดได้ แล้วตอนที่เด็กลงไปห้องใต้ดิน แล้วตกใจ ร้องเรียกพ่อ เจออะไรหรอ ...

อึ้งมากเมื่อรู้ตอนจบว่าชาลีคือใคร คิดไม่ถึง... ชอบน้องดาโกต้ามากแสดงเรื่องไหนอีกไปดูทุกเรื่องแน่ เล่นเก่งจัง

หนังเรื่องนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ตัวแสดงแต่ละคน ต่างมีมิติของตัวเอง ยากที่จะคาดเดาว่าต่อไปจะเป็นไปในรูปแบบใด ตัวบทหนังจะคล้ายหนังระทึกขวัญทั่วๆไปของ ฮอลลีวู้ด หนังสร้างปมให้สงสัย แล้วค่อยๆคลี่คลายจนถึงจุดไคลแมกซ์ของเรื่อง ซึ่งหนังเรื่องนี้โชคดีที่ได้นักแสดงฝีมือดีมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น หนุ ดาโกต้า และลุง เดอ นีโร ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ตอนจบก็หักมุม ( ไม่ได้คุยนะเนื้อเรื่องตอนท้าย ผมเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่องแล้วละ หรือว่าทุกคนก็เดาได้ ) ตอนจบไม่บอกนะดูเอาเอง โดยรวมหนังและตัวนักแสดงสามารถดึงให้คนดูรู้สึกติดตาม มีตอนจบที่หักมุม แต่บทหนังนั้นออกจะธรรมดาทำให้ยากที่จะไปเทียบ The other แล Sixth Sense
<<<<<<< R . T.>>>>>>>