วิจารณ์ Hide and Seek

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 17 เม.ย. 48 12:16

    ไปดูมาแล้วครับ ชอบน้อง ดาโกต้า แฟนนิ่งเขามาก แสดงได้สมบทบาทในบท( เอมีลี่ ) เด็กผู้หญิงผู้สูญเสียทุกสิ่ง แสดงได้เหมือนจริงและทำได้ดีมาก
    ส่วน โรเบิร์ต เดลนีโร พลิกบทบาทเป็น (ดร.คอลลาเวต์) หมอด้านจิตเวช เนื้อหาหักมุมดี แต่ดูไร้เหตุและผล ผิดมนุษยธรรม ถือว่าพอใช้ได้ คะแนนที่จะให้แทนรหัสซ่อนสยองจงดูดีๆ 2:06 แล้วไปดูซะ

  • เมื่อ 16 เม.ย. 48 16:25

    I like Dakota
    she is the best actress for me
    I like her very much

  • เมื่อ 15 เม.ย. 48 21:13

    ไม่เข้าใจว่ารอยบนฝ่ามือของเดวิดสื่อถึงอะไร ใครรู้ช่วยบอกทีนะคะ

  • เมื่อ 15 เม.ย. 48 17:36

    คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น Hide and Seed ไฮด์ แอนด์ ซีค ซ่อนสยอง
    แสดงนำ โรเบิร์ด เดอ นิโร , ดาโกต้า แฟนนิ่ง
    กำกับ จอนห์น โพลสัน

    ภาพยนตร์แนวท้าทาย ติดตาม ชวนค้นหา สิ่งเร้นลับ จินตนาการ เป็นแนวที่นักดูหนังหลายๆ คน ชอบมาก hide and seek หมายถึง ซ่อนแอบ ซ่อนหา คำศัพท์ตรง ๆ hide คือ ซ่อน seek คือ หา นั่นเอง
    ออกมาซิ ออกมา ฉันรู้นะว่าเธออยู่นี่
    เป็นการเปิดฉากของหนังกับที่มากับความรักความอบอุ่นของครอบครัวหนึ่ง เมื่อฝ่ายแม่บอกลานอนจากลูกน้อย ภาพเดินมาที่ฝ่ายพ่อ ที่กำลังส่องกล้องมองอะไรบางอย่างทางหน้าต่างของบ้าน แล้วก็เปิดประเด็นที่ว่า “ คุณก็รู้อยู่ “
    ตีสองหกนาที เป็นจุดเริ่ม ของเหตุการณ์ ภายในคืนนั้น เกิดการเสียชีวิตของ อลิสัน (เอมี่ เออร์วิง) ภรรยาของ เดวิด คัลลาเวย์ (โรเบิร์ต เดอ นีโร) สภาพจิตใจเกิดช๊อคมากแก่ เอมิลี่ (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) ลูกสาววัย 9 ขวบของเขา ที่มาเห็นมาเมื่อไหร่ไม่รู้ หนังคงสื่อให้เข้าใจว่า อลิสัน คงฆ่าตัวตายเนื่องจากคลางแคลงใจสามี หลายๆ คนดูฉากนี้คงคิดเช่นนั้น เป็นไปตามสไตล์หนัง หนังสื่อปมไว้แบบไม่ให้เดาออกง่ายๆ เอมิลี่ เป็นตัวเดินเรื่อง ผู้เก็บซ่อนความเร้นลับ อยากที่จะเข้าใจ ฉากเริ่มเปิดประเด็นที่สอง ขณะที่ เดวิดสาละวนกับการจัดสิ่งของในบ้าน เอมิลี่กำลังเล่นอยู่นอกบ้าน หนังใช้ตัวผีเสื้อ ทีนำพาไปยังถ้ำแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ชื่อว่า “ ชาร์ลี “ ย้อนมาที่บ้าน เดวิด กำลังจดไดอารี่ พลันดูที่ฝ่ามือ มีร่องรอยบางอย่าง ที่คนดูที่มองภาพนั้นถ้ามองออกก็พอจะเข้าใจเรื่องมากขึ้น
    เดวิด คัลลาเวย์ เป็นด็อกเตอร์ทางจิตวิทยา แต่ทางบทแสดงดูแทบไม่มีเค้าของนักจิตวิทยาเลย ไม่ว่าการดูแล เอมิลี่ การพูดคุยกับเพื่อนบ้านที่สูญเสียลูกไป หรือฉากที่ดูเหมือนพยายามจะไปช่วยเคลียปัญหาให้เขา
    หนังดูเหมือนพยายามสื่อ ให้เข้าใจว่าเพื่อนบ้านคนนั้น คือ “ ชาร์ลี “ หรือเปล่า เพราะดูเหมือนจะใช่แต่ก็ไม่ใช่ เพราะขาดการสื่อให้คนดูคล้อยตามอยู่เหมือนกัน
    'ชาร์ลี' ในตอนแรก เดวิดมองว่าชาร์ลีในแง่ดี สำหรับเอมิลี่ ที่จะแสดงความรู้สึกของเธอออกมา กับเพื่อนในจินตนาการ คนที่ดูหนังโดยไม่ทราบเนื้อเรื่องมาก่อน ต้องคิดว่าหนังผีหรือเปล่า เพราะบทหนังแค่บ่งบอกว่า เอมิลี่ กระทบกระเทีอนจิตใจแต่ไม่ใช่คนจิตหลอนเลย การพูดการจากับเดวิด ก็ไม่มีสภาพกลัวหรือผวาเลย
    แม้แต่ฉาก ที่สาวที่มาหา เดวิด และเข้าไปหาเอมิลี และเธอก็ชวนสาวเล่นซ่อนหา ตอนนี่ เธอเปิดประตูเสื้อผ้านั้น ไม่เห็นมีว่าอะไรที่ทำให้เธอตกใจเหมือนเจอผีที่น่าเกลียดน่ากลัวเลย ดูจากการสื่อของภาพวาดของเอมิลี่ ที่สื่อออก เมื่อปมเริ่มคลี่คลาย ตำรวจที่ถูกทำร้ายน่าจะตายตั้งแต่ถูกทุบไปแล้ว กลับมาเตือนสติให้นางเอกมั้ง ( ทั้งที่น่าจะรู้แล้ว ตอนทำร้ายจะๆ อย่างนั้น ) แค่เพิ่มฉากให้ตื่นเต้นนิดนึงหรือเปล่า เมื่อเดวิดเริ่มสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง และเริ่มเข้าใจ นั่นแหละถึงได้ถึงบางอ้อ เป็นเรื่องของคนที่มีสภาพจิตใจที่แปรปรวน หรืออาจจะเรียกว่าโรคจิตก็ได้ แต่ดูจากพื้นฐานของตัวละครกับต้นเหตุที่ให้เกิดเรื่องแล้ว ดูแล้วเป็นไปได้น้อยเหมือนกันนะ ดูแล้วหลายจุดขาดเหตุผลไปบ้าง ความต่อเนื่องจากบทในตัวละครก็สื่อมาแล้วก็ตัดไป ไม่ว่าเด็กสาวที่เอาตุ๊กตามาให้เอมิลี่ แล้วก็ทิ้งบททำร้ายตุ๊กตา ไม่มีผลให้สาวที่ดูเหมือนมาชอบ เดวิด ที่กลับมาเพื่อมาเพื่อสานบทตาย แบบง่ายไปหน่อย บทยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไร ทำให้ขาดรายละเอียดบางอย่างที่ขาดหาย ทำให้ตัวหนังขาดความแนบเนียน
    ( ไม่เหมือนเรื่อง ตู้ซ่อนผี [ A Tale of Two Sisters ] หนังเกาหลี เป็นหนังผีที่ไม่ใช่ผี ในความเห็นแล้ว เรื่องนี้ ที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับโรคจิตอย่างหนึ่ง แบบตั้งใจหลอกคนดูได้เจ๋งจริง ดูแล้วน่าดูน่าติดตามมากกว่า )
    เสียดายฉากปิดท้าย ที่ภาพของเอมิลี่ จะสื่อความผิดปกติบางอย่าง ที่บ่งบอกว่าเรื่องยังไม่จบ มีใครอีกคนหนึ่งได้เกิดขึ้นทดแทนแล้ว (อาริ ชโลสเบิร์ก อาจไว้เขียนทิ้งปริศนาไว้เฉยๆ หรือจบเลยก็ไม่ใช่หนังฝรั่งนะสิ ไว้ต่อภาคสองมั้ง)

    ตัวละครเด่นมีเพียง 2 คน เดวิด คัลลาเวย์ (โรเบิร์ต เดอ นีโร) และ เอมิลี่ (ดาโกต้า แฟนนิ่ง)
    โรเบิร์ต เดอ นีโร ดูมาหลายเรื่องของพี่แกแล้ว รับบทเป็นพ่อทีมีปัญหาของครอบครัว และลูกที่สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ การแสดง ยังดูไม่สามารถสื่อความเครียด ความกังวล ความห่วงใยอย่างเด่นชัด แต่ฉากที่ โรเบิร์ต เดอ นีโร พยายามสื่อสารกับเอมิลี่ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ตกหน้าต่างตาย บนห้องของเอมิลี่ แสดงได้ดี ยิ่งมีดนตรีช่วยเร่งเร้าแล้ว และมุมภาพ น่าจะเป็นฉากที่ดีมาก
    เอมิลี่ (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) ด้วยวัย 11ปี มั้ง แต่ผ่านงานมาบ้างแล้ว เช่น I am Sam , Man on Fire , Uptown Girl และอื่นๆ การแสดงของเธอ มีบทสนทนาน้อย หลายๆ ฉาก การแสดงออกทางสีหน้า นับว่าแสดงได้ดีทีเดียว ยิ่งฉากผวาใกล้จบแล้ว ตอนที่ โรเบิร์ต เดอ นีโร พยายามตามเพื่อที่จะฆ่าเธอ การแสดงท่าทางเสริม วันหน้าเป็นดาราอนาคตไกลอีกคน
    Akantuka

  • เมื่อ 15 เม.ย. 48 16:06

    ต่อจากนี้เป็นต้นไป ดาโกต้า แฟนนิ่ง จะอยู่ในใจตลอดไป เล่นดีซะไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะ 11 ขวบ เป็นกำลังใจต่อไปเจ้าค่ะ

  • เมื่อ 15 เม.ย. 48 14:15

    ยกย่องน้องดาโกต้าจริงๆเลย อยากให้เป็นนักแสดงต่อไป เชื่อเหอะ เด็กคนนี้รุ่งแน่ๆ

  • เมื่อ 14 เม.ย. 48 20:09

    โอ้ย(+๐+)!!!!... เชื่อเฮอะเรื่องนี้นะ Dakota เขาแสดงได้เยื่ยมจริงๆ แล้วแสดงคู่กับดารารุ่นใหญ่อย่างโรเบิร์ต เนี่ยะ หนังดูแต่ดาราก็อิ่มแล้ว ชอบฝีมือการแสดงของน้องเค้าจริงๆ

  • เมื่อ 13 เม.ย. 48 13:30

    ก็สนุกดีนะ ชอบน้องดาโกต้าที่สุด แสดงเก่งมากๆ เก่งกว่าดารารุ่นใหญ่หลายต่อหลายคนเลย จะติดตามผลงานน้องเขาต่อไป

  • เมื่อ 12 เม.ย. 48 22:24

    คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ดีนะ หนังเรื่องนี้อะสนุกดี เหมือนได้ย้อนกลับไปดูไซโค ไปดูกะเพื่อนแต่เพื่อนบอกว่างง แต่เราก็เข้าใจทุกอย่างเลย คงเป็นเพราะชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้วมั้ง เลยรู้สึกชอบและเข้าใจ ให้ 9 เลยละกัน
    ปล. ตอนจบสังเกตในรูปวาดให้ดีๆ แล้วคุณจะอึ้งเพราะ(ใครยังไม่ได้ดูหรืออยากลุ้นในโรงไม่ต้องอ่านนะครับ) เด็กเป็นโรคเดียวกับพ่อเลย (โรค 2 บุคลิก)

  • เมื่อ 3 เม.ย. 48 16:48

    ดูแล้วเช่นกัน สำหรับใครที่ชอบดูหนังผี แนวสยองขวัญ คงต้องผิดหวัง!!! ลองหาเรื่องอื่นดูดีไหม เพราะเรื่องนี้ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ อย่างที่คุณปีศาจไร้หน้าบอก หนังมีอะไรที่หักมุมเกินไปจนลืมอธิบายเหตุผลบางอย่าง แล้วเหตุผลก็ไม่ชัดเจนเช่นทำไมชาลีต้องฆ่าคนโน้นคนนี้ที แต่น้องผู้หญิงที่เล่นเรื่องนี้เล่นได้ดีมาก เนื้อเรื่องยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่อ่ะค่ะ

มีทั้งหมด 33 วิจารณ์ หน้าที่ 3 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • องค์บากองค์บากเข้าฉายปี 2003 แสดง พนม ยีรัมย์ (ทัชชกร ยีรัมย์), ภุมวารี ยอดกมล, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
  • ทองสุก 13ทองสุก 13เข้าฉายปี 2013 แสดง ชินวุฒ อินทรคูสิน, ชีรณัฐ ยูสานนท์, ฌอห์ณ จินดาโชติ
  • American GangsterAmerican Gangsterเข้าฉายปี 2008 แสดง Denzel Washington, Russell Crowe, Josh Brolin

เกร็ดภาพยนตร์

  • Still Alice - ตอนที่ได้อ่าน Still Alice ฉบับหนังสือครั้งแรก ริชาร์ด แกลตเซอร์ และ วอช เวสต์มอร์แลนด์ ผู้กำกับทั้งสองคนรู้สึกว่าเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคสมองเสื่อมชนิดเกิดเร็วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ริชาร์ด ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเอแอลเอส ที่เป็นสาเหตุให้พูดแล้วลิ้นพันกัน ซึ่งเป็นทำให้ทั้งสองคนต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เหมือนตัวละคร อลิซ ที่แสดงโดย จูเลียนน์ มัวร์ อ่านต่อ»
  • Song One - สก็อตต์ อาเวตต์ จากวง ดิ อาเวตต์ บราเธอร์ส เคยมาทดสอบบท เจมส์ โดย สก็อตต์ เล่าว่า เขาอ่านบทกับ แอนน์ แฮตธาเวย์ ผู้รับบท แฟรนนี ในฉากสะเทือนอารมณ์ และ แอนน์ เริ่มน้ำตาคลอ ตอนนั้นผมรู้สึกว่า โอ้ พระเจ้า เธอทำอย่างนั้นได้อย่างไร และมันก็ชัดเจนเลยว่านี่ไม่ใช่ที่ของผม ซึ่งภายหลังบท เจมส์ นี้ก็ตกเป็นของ จอห์นนี ฟลินน์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

32 Malasana Street 32 Malasana Street เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1976 เมื่อ ครอบครัวอัลเมโด ย้ายจากบ้านหลังเก่าย่านชนบทเข้ามายังบ้านใหม่ในย่านมาลาซาญา กรุงมาดริด ...อ่านต่อ»