
ได้เข้ามาเปิดองค์กรแบบงง ๆ ตอนนั้นอายุ 25 ปี ชีวิตอยู่แต่กองถ่ายมาตลอด ไม่เคยรู้เลยว่าเปิดบริษัทคืออะไร ทำยังไง ต้องมีคนแค่ไหน… พอเปิด คนเริ่มสมัครเข้ามา จำได้เลย ผู้ปกครองท่านหนึ่งได้มากระซิบบอกในค่ายแรกว่า “ต่อไปต้องมีเด็ก ๆ สมัครมาจนล้นแน่” ไอ้เราก็ยังคิดอยู่ว่า… หรอ? มันดีเหรอถึงพูดแบบนี้…
ไม่นานหลังจากนั้น ปล่อยค่ายออกไป 10 เดือน… เต็มจนล้นจริง ๆ 24 ชั่วโมงแรก 500 กว่าที่เต็ม! แถมมี waiting list ยาวเหยียดจนคนแซวว่ายิ่งกว่าบัตรคอนเสิร์ต คราวนี้ละ จะเป็นผู้นำไม่รู้เรื่องไม่ได้แล้ว ไปเรียนโทต่อ ไปเรียนครูดำน้ำอีก ศึกษาการบริหารจากตรงโน้นที ตรงนี้ที สักพักเริ่มมีบริษัทยักษ์ใหญ่ติดต่อมา จำได้ว่าช่วงนั้นเสี่ยงเซียมซี และใบเขียนว่า “จะทำงานชิ้นโบว์แดง ที่จะกลายเป็นงานหลักในอนาคต” จำขึ้นใจเลย ไม่อยากจะเชื่อ ทุกวันนี้ทำงานกับกระทรวงต่าง ๆ เข้าไปพบผู้ใหญ่ และนำเสนอในห้องประชุมระดับประเทศ เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน เราได้มาช่วยพัฒนาประเทศ!! ได้เจอกับลูกค้าใหญ่ ๆ แบรนด์ระดับท็อป ๆ ของประเทศมาร่วมสนับสนุน บางที่พาผู้บริหารมาเรียนกับ EEC เพื่อเอาไปสานต่ออีกด้วย! เราไม่ได้เล่าด้วยความคิดจะอวด แต่เล่าด้วยความภูมิใจและแปลกใจว่ามาถึงได้ยังไง เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดว่าจะเกิดขึ้นเลย
ทำงานตรงนี้ จะไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่หลาย ๆ คนคิด มันต้องสู้อยู่ตลอด เห็นคนนู้นคนนี้ทำธุรกิจ รวยไปแล้ว ทำงานน้อยกว่าพวกเราเยอะ สบายกว่าเราเยอะ ไม่ต้องเจอกับอะไรมากมายเหมือนเรา เอ๊ะ… หรือเลือกอาชีพผิด? หรือจะเป็นอย่างที่เขากล่าว “ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเลี้ยงตัวเองไม่ได้” ไม่อ่ะ เราไม่เชื่อ และเราจะทำทุกอย่างที่จะทำได้ให้องค์กรยั่งยืน เพราะเกิดมาครั้งหนึ่ง… value ชีวิตไม่ได้วัดที่ตัวเลขอย่างเดียว… มันวัดที่คุณค่าที่คุณได้สร้างด้วย… นี่แหละคุณค่าชีวิตผม @eecthailand
วันนี้ครบรอบ 10 ปี EEC จาก 25 วันนี้ผม 35 เเล้ว ... ผมเติบโตกับที่นึ้จริงๆ ขอบคุณทุกท่านที่เคยได้ร่วม ได้รัก ได้เกี่ยวข้องกับพวกเรา… พวกเราอยู่ได้เพราะทุกคน รักด้วยหัวใจ❤️❤️