
ญี่ปุ่นเป็นชาติแรกและชาติเดียวที่ ทำสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณูถึง 2 ครั้ง 2เมืองใหญ่ มีผู้เสียชีวิตนับ 100,000 และยังไม่นับรวมภัยพิบัติธรรมชาติ อื่นๆรวมถึงแผ่นดินไหวและ สึนามิ จนเป็นชาติที่บัญญัติคำว่า “สึนามิ” เป็นคำนาม ให้เราใช้เรียกกันจนถึงปัจจุบัน จากประเทศผู้แพ้สงครามเศรษฐกิจติดลบ โครงสร้างทางสังคมติดลบ พวกเขารวมใจร่วมแรงเคารพกฎสังคม เคารพกฎเกณฑ์ของภาครัฐ จนกลับมาเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอันดับต้นๆของโลกได้ ผมมองว่านอกจากระเบียบวินัยและการเคารพกฎเกณฑ์ขั้นพื้นฐานทางสังคมแล้ว พวกเขายังต้องมีใจที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วมั่นใจแน่วแน่ ที่จะก้าวข้ามปัญหาที่ใหญ่ระดับชาติให้ผ่านไปจนได้ ผมเคยคุยกับคุณพ่อของเพื่อนสนิทที่เป็นคนญี่ปุ่นว่าในสมัยสงครามโลกเค้าได้รับแจกบ๊วยเค็มเพียงหนึ่งเม็ด เพื่อใช้กินกับข้าวสวย ที่จะได้บริจาคจากรัฐบาลแค่บ้านละหนึ่งถุงเพื่อประทังชีวิตในช่วงข้าวยากหมากแพง ภายใต้แรงกดดันนั้นเค้ามีแนวคิดยังไงในการที่จะไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ใช้ความรู้สึกเบียดเบียนกฎหมาย มากกว่ากฎของหมู่รวม ในสภาพที่หมดความหวังแบบนั้น พวกเขาสร้างกำลังใจให้ตัวเองอย่างไร พวกเขาใช้อะไรนำทางเพื่อจะดำเนินชีวิตต่อไปจนกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้ ในทางตรงกันข้ามพวกเราชาวไทย อยู่ในประเทศที่สุขสบาย อุดมสมบูรณ์ทั้งในเรื่องของอาหาร สภาพอากาศ ปราศจากภัยพิบัติต่างๆ ผมอยากให้พวกเราคนไทยตระหนักเอาไว้ให้มากๆ ว่าเมื่อเราสุขเท่าไหร่ยามที่เราความทุกข์ จงใช้แรงกายแรงใจ เมื่อยามที่เราสุข มาเป็นแรงขับเคลื่อน ของความสามัคคีการให้ความร่วมมือต่อส่วนรวม เพื่อประโยชน์สูงสุดของสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และทำให้พวกเราก้าวข้ามผ่านปัญหาอันร้ายแรงต่างๆไปได้ ทุกคนโตพอที่จะรู้อยู่แล้วว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ มันอยู่แค่ว่า คุณจะหักห้ามใจตัวเองแล้วไม่มีความคิดอคติต่อสิ่งเหล่านั้นหรือเปล่า ผมอยากให้คนไทยเป็นเหมือนคนญี่ปุ่น ด้วยทัศนคติที่เรามีเขาเป็นต้นแบบอยู่แล้วนั่นเอง