เนื้อเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ - โอม สรัล มณีโชติ (Saran)
ดู 1,464 ครั้ง /
แชร์
ศิลปิน
โอม สรัล มณีโชติ (Saran)
|
เพิ่มเมื่อ 5 ธ.ค. 67
ฟังเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์
เนื้อเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์
ได้แต่คุยกับตัวเอง
เมื่อไรจะถึงวันของเราสักที
สิ่งที่ตามหาคืออะไร
ซึ่งเธออาจอยู่ในตัวเรา
กับสิ่งที่คอยบรรเทา ในวันที่เราร้องไห้
เพียงแค่ยอมรับความจริง
และก็ทิ้งเรื่องราวไม่ดี ให้มันเลือนหาย
อย่าไปคิดมากบางที
วันพรุ่งนี้ยังมีคนรอเราอยู่เสมอไป
ในวันที่ฉันมีลมหายใจ
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
อยากจะออกไปข้างนอกแต่ไม่มีพลัง
กูเบื่อการแข่งขันบนเวทีพนัน
บางคนมองเรื่องที่ผิดเหมือนเป็นวีรกรรม
อยากอยู่รอดก็ต้องมีกะตังค์
ทำแม่งแต่งานแทบไม่มีเวลา
กูสูนเสียหลายอย่าง จากที่มีกันมา
เจอแต่ปัญหาจนแทบตีลังกา
อยากจะมีเหมือนคนอื่นแต่ไม่มีปัญญา
กูเคยมีความสุขกับกระดาษทาสี
ไออุ่นจากตุ๊กตาหมี
แต่วันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นหายไป เหลือไว้เพียงค่าไฟค่าโฉนดภาษี
พอโตขึ้นมาไม่มีสีให้ระบาย
โลกไม่ได้สวยมันไม่ได้เป็นประกาย
ภาพของชีวิตกูจะวาดมันให้เสร็จ
ก่อนที่พ่อก่อนที่แม่ก่อนที่ยายกูจะตาย
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
ไม่ได้อยากจะเป็นคนความรู้สึกตายด้าน
แต่ว่าโลกทำให้กูกลายร่าง บางทีอยากที่จะหนีไปให้นาน
ช่างเงิน ช่างงาน ช่างแม่งนายจ้าง
ทำได้เพียงแค่ก็คิดมันก็ยากแล้ว ขอให้สักวันชีวิตคลาดแคล้ว
บอกกับตัวเองไม่ต้องมีเท่าคนอื่นหรอก
แค่นี้ก็เก่งมากๆ แล้ว
และก็ปาดน้ำตาแล้วก็ยิ้มซะ
อย่าลืมเก็บความเศร้าไว้ในลิ้นชัก นี่แหละรสชาติที่ได้ลิ้มรส
ไม่ได้เหมือนตอน14 ที่ได้ลิ้มรัก
ลองถามตัวเองว่าเคยคิดไหม ว่ายังมีครอบครัวและก็มิตรรัก
เรื่องที่ไม่ดีก็แค่ทิ้งไว้ และก็เรื่องปัญญาอ่อนอย่าไปคิดนัก
แต่คนที่จากไป คนตาย คนเป็น หาเช้ากินค่ำฉันนั่งรอจนเย็น
พุทธองค์สอนว่า อัตตโน นาโถ
แม้จะโกรธหรือโมโหก็ต้องพึ่งตนเอง
ท่องไว้ในใจไม่ต้องกลัวใคร
ถ้าต้องเจอกับคนชั่วจะไปกลัวอะไร
หยาดน้ำค้างในตอนเช้าไหลบนใบบัว
ในเมื่อยังมีโอกาสอย่าไปกลัวตาย
เปลี่ยนจากเม็ดทรายวันนี้กลายเป็นกระจก
คำว่าแพ้เป็นยังไงใจกูไม่เคยสะกด
ไร้ซึ่งประมาทมึงไม่อาจที่จะสบ
จึงต้องป่าวและประกาศเพราะไม่อยากที่จะหลบ
รู้ดีแก่ใจไม่สนใครจะตลก ไม่ต้องการกฎระเบียบ
ไม่ต้องอยู่ในระบบ ตัดที่ละนิดกับทุกสิ่งที่ประสบ
ถึงเวลาก็แค่จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
เพียงแค่ยอมรับความจริง
และก็ทิ้งเรื่องราวดีดีให้มันเลือนหาย
อย่าไปคิดมากบางที
วันพรุ่งนี้ยังมีคนรอเราอยู่เสมอไป
ในวันที่ฉันมีลมหายใจ
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
เมื่อไรจะถึงวันของเราสักที
สิ่งที่ตามหาคืออะไร
ซึ่งเธออาจอยู่ในตัวเรา
กับสิ่งที่คอยบรรเทา ในวันที่เราร้องไห้
เพียงแค่ยอมรับความจริง
และก็ทิ้งเรื่องราวไม่ดี ให้มันเลือนหาย
อย่าไปคิดมากบางที
วันพรุ่งนี้ยังมีคนรอเราอยู่เสมอไป
ในวันที่ฉันมีลมหายใจ
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
อยากจะออกไปข้างนอกแต่ไม่มีพลัง
กูเบื่อการแข่งขันบนเวทีพนัน
บางคนมองเรื่องที่ผิดเหมือนเป็นวีรกรรม
อยากอยู่รอดก็ต้องมีกะตังค์
ทำแม่งแต่งานแทบไม่มีเวลา
กูสูนเสียหลายอย่าง จากที่มีกันมา
เจอแต่ปัญหาจนแทบตีลังกา
อยากจะมีเหมือนคนอื่นแต่ไม่มีปัญญา
กูเคยมีความสุขกับกระดาษทาสี
ไออุ่นจากตุ๊กตาหมี
แต่วันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นหายไป เหลือไว้เพียงค่าไฟค่าโฉนดภาษี
พอโตขึ้นมาไม่มีสีให้ระบาย
โลกไม่ได้สวยมันไม่ได้เป็นประกาย
ภาพของชีวิตกูจะวาดมันให้เสร็จ
ก่อนที่พ่อก่อนที่แม่ก่อนที่ยายกูจะตาย
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
ไม่ได้อยากจะเป็นคนความรู้สึกตายด้าน
แต่ว่าโลกทำให้กูกลายร่าง บางทีอยากที่จะหนีไปให้นาน
ช่างเงิน ช่างงาน ช่างแม่งนายจ้าง
ทำได้เพียงแค่ก็คิดมันก็ยากแล้ว ขอให้สักวันชีวิตคลาดแคล้ว
บอกกับตัวเองไม่ต้องมีเท่าคนอื่นหรอก
แค่นี้ก็เก่งมากๆ แล้ว
และก็ปาดน้ำตาแล้วก็ยิ้มซะ
อย่าลืมเก็บความเศร้าไว้ในลิ้นชัก นี่แหละรสชาติที่ได้ลิ้มรส
ไม่ได้เหมือนตอน14 ที่ได้ลิ้มรัก
ลองถามตัวเองว่าเคยคิดไหม ว่ายังมีครอบครัวและก็มิตรรัก
เรื่องที่ไม่ดีก็แค่ทิ้งไว้ และก็เรื่องปัญญาอ่อนอย่าไปคิดนัก
แต่คนที่จากไป คนตาย คนเป็น หาเช้ากินค่ำฉันนั่งรอจนเย็น
พุทธองค์สอนว่า อัตตโน นาโถ
แม้จะโกรธหรือโมโหก็ต้องพึ่งตนเอง
ท่องไว้ในใจไม่ต้องกลัวใคร
ถ้าต้องเจอกับคนชั่วจะไปกลัวอะไร
หยาดน้ำค้างในตอนเช้าไหลบนใบบัว
ในเมื่อยังมีโอกาสอย่าไปกลัวตาย
เปลี่ยนจากเม็ดทรายวันนี้กลายเป็นกระจก
คำว่าแพ้เป็นยังไงใจกูไม่เคยสะกด
ไร้ซึ่งประมาทมึงไม่อาจที่จะสบ
จึงต้องป่าวและประกาศเพราะไม่อยากที่จะหลบ
รู้ดีแก่ใจไม่สนใครจะตลก ไม่ต้องการกฎระเบียบ
ไม่ต้องอยู่ในระบบ ตัดที่ละนิดกับทุกสิ่งที่ประสบ
ถึงเวลาก็แค่จากโลกนี้ไปอย่างสงบ
เพียงแค่ยอมรับความจริง
และก็ทิ้งเรื่องราวดีดีให้มันเลือนหาย
อย่าไปคิดมากบางที
วันพรุ่งนี้ยังมีคนรอเราอยู่เสมอไป
ในวันที่ฉันมีลมหายใจ
พร้อมแล้วพร้อมที่จะเสียใจ
ฉันพร้อมแล้วพร้อมที่จะร้องไห้
ปล่อยให้มันเป็นไป จะเจ็บช้ำเท่าใด
หัวใจอย่าไปยอมแพ้ ไม่มีแสงรำไร
ผ่านความทุกข์เข้าไป ยังไงฉันไม่ยอมเจ็บแน่
เนื้อเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ แบบคาราโอเกะ
dai tae khui kap tua eng
muearai cha thueng wan khong rao sak thi
sing thi tam ha khue arai
sueng thoe at yu nai tua rao
kap sing thi khoi banthao nai wan thi rao ronghai
phiang khae yomrap khwam ching
lae ko thing rueang rao mai di hai man luean hai
aya pai khitmak bangthi
wan phrung ni yang mi khon ro rao yu samoe pai
nai wan thi chan mi lom haichai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
ayak cha ok pai khang nok tae maimi phlang
ku buea kan khaengkhan bon wethi phanan
bang khon mong rueang thi phit muean pen wirakam
ayak yu rot ko tong mi ka tang
tham mae ng tae ngan thaep maimi wela
ku sun sia lai yang chak thi mi kan ma
choe tae panha chon thaep ti langka
ayak cha mi muean khon uen tae maimi panya
ku khoei mi khwam suk kap kradat thasi
ai un chak tukta mi
tae wan nueng sing lao nan hai pai luea wai phiang kha fai kha chonot phasi
pho to khuen ma maimi si hai rabai
lok mai dai suai man mai dai pen prakai
phap khong chiwit ku cha wat man hai set
kon thi pho kon thi mae kon thi yai ku cha tai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
mai dai ayak cha pen khon khwam rusuek tai dan
tae wa lok thamhai ku klai rang bangthi ayak thi cha ni pai hai nan
chang ngoen chang ngan chang mae ng naichang
thamdai phiang khae ko khit man ko yak laeo kho hai sak wan chiwit khlat khlaeo
bok kap tua eng mai tong mi thao khon uen rok
khae ni ko keng mak mak laeo
lae ko pat namta laeo ko yim sa
aya luem kep khwam sao wai nai lin chak ni lae rotchat thi dai lim rot
mai dai muean ton 14 thi dai lim rak
long tham tua eng wa khoei khit haimai wa yang mi khropkhrua lae ko mit rak
rueang thi mai di ko khae thing wai lae ko rueang panya-on aya pai khit nak
tae khon thi chak pai khon tai khon pen ha chao kin kham chan nang ro chon yen
phuttha ong son wa at ta no natho
mae cha krot rue moho ko tong phueng ton-eng
thong wai nai chai mai tong klua khrai
tha tong choe kap khon chua cha pai klua arai
yat namkhang nai ton chao lai bon bai bua
nai muea yang mi okat aya pai klua tai
plian chak met sai wan ni klai penok ra chok
kham wa phae pen yang ngai chai ku mai khoei sakot
rai sueng pramat mueng mai at thi cha sop
chueng tong pao lae prakat phro mai ayak thi cha lop
ru di kae chai mai son khrai cha talok mai tongkan kot rabiap
mai tong yu nai rabop tat thi la nit kap thuk sing thi prasop
thueng wela ko khae chak lok ni pai yang sa-ngop
phiang khae yomrap khwam ching
lae ko thing rueang rao di di hai man luean hai
aya pai khitmak bangthi
wan phrung ni yang mi khon ro rao yu samoe pai
nai wan thi chan mi lom haichai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
muearai cha thueng wan khong rao sak thi
sing thi tam ha khue arai
sueng thoe at yu nai tua rao
kap sing thi khoi banthao nai wan thi rao ronghai
phiang khae yomrap khwam ching
lae ko thing rueang rao mai di hai man luean hai
aya pai khitmak bangthi
wan phrung ni yang mi khon ro rao yu samoe pai
nai wan thi chan mi lom haichai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
ayak cha ok pai khang nok tae maimi phlang
ku buea kan khaengkhan bon wethi phanan
bang khon mong rueang thi phit muean pen wirakam
ayak yu rot ko tong mi ka tang
tham mae ng tae ngan thaep maimi wela
ku sun sia lai yang chak thi mi kan ma
choe tae panha chon thaep ti langka
ayak cha mi muean khon uen tae maimi panya
ku khoei mi khwam suk kap kradat thasi
ai un chak tukta mi
tae wan nueng sing lao nan hai pai luea wai phiang kha fai kha chonot phasi
pho to khuen ma maimi si hai rabai
lok mai dai suai man mai dai pen prakai
phap khong chiwit ku cha wat man hai set
kon thi pho kon thi mae kon thi yai ku cha tai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
mai dai ayak cha pen khon khwam rusuek tai dan
tae wa lok thamhai ku klai rang bangthi ayak thi cha ni pai hai nan
chang ngoen chang ngan chang mae ng naichang
thamdai phiang khae ko khit man ko yak laeo kho hai sak wan chiwit khlat khlaeo
bok kap tua eng mai tong mi thao khon uen rok
khae ni ko keng mak mak laeo
lae ko pat namta laeo ko yim sa
aya luem kep khwam sao wai nai lin chak ni lae rotchat thi dai lim rot
mai dai muean ton 14 thi dai lim rak
long tham tua eng wa khoei khit haimai wa yang mi khropkhrua lae ko mit rak
rueang thi mai di ko khae thing wai lae ko rueang panya-on aya pai khit nak
tae khon thi chak pai khon tai khon pen ha chao kin kham chan nang ro chon yen
phuttha ong son wa at ta no natho
mae cha krot rue moho ko tong phueng ton-eng
thong wai nai chai mai tong klua khrai
tha tong choe kap khon chua cha pai klua arai
yat namkhang nai ton chao lai bon bai bua
nai muea yang mi okat aya pai klua tai
plian chak met sai wan ni klai penok ra chok
kham wa phae pen yang ngai chai ku mai khoei sakot
rai sueng pramat mueng mai at thi cha sop
chueng tong pao lae prakat phro mai ayak thi cha lop
ru di kae chai mai son khrai cha talok mai tongkan kot rabiap
mai tong yu nai rabop tat thi la nit kap thuk sing thi prasop
thueng wela ko khae chak lok ni pai yang sa-ngop
phiang khae yomrap khwam ching
lae ko thing rueang rao di di hai man luean hai
aya pai khitmak bangthi
wan phrung ni yang mi khon ro rao yu samoe pai
nai wan thi chan mi lom haichai
phrom laeo phrom thi cha siachai
chan phrom laeo phrom thi cha ronghai
ploi hai man pen pai cha chep cham thaodai
huachai aya pai om phae maimi saeng ramrai
phan khwam thuk khaopai yang ngai chan mai yom chep nae
เกี่ยวกับเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์
คำร้อง/ทำนอง สรัล มณีโชติ, เถาวัลย์
ร่วมร้องโดย เถาวัลย์
ร่วมร้องโดย เถาวัลย์
เพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ นี้ ถอดคำร้องและตรวจสอบโดย สยามโซน.คอม หากนำไปเผยแพร่ต่อกรุณาให้เครดิต สยามโซน.คอม หรือใส่ลิงก์กลับมาที่หน้า เนื้อเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ ด้วย
เนื้อเพลง โอม สรัล มณีโชติ อื่นๆ
คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้
เนื้อเพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่แสดงบนเว็บก็เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม - เนื้อเพลงแบบคาราโอเกะได้มาจากการแปลงโดยอัตโนมัติ อาจมีความผิดพลาดได้บ้าง - ทางเว็บไซต์ไม่มีบริการดาวน์โหลด MP3 เพลง แสงสว่างปลายอุโมงค์ หรือบริการดาวน์โหลดใดๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดลิขสิทธิ์