เนื้อเพลง อย่าหนี - เต้ย ณัฐพงษ์ หอมเทียน (Rapper Tery)

ดู 5,259 ครั้ง / แชร์
ศิลปิน เต้ย ณัฐพงษ์ หอมเทียน (Rapper Tery) | เพิ่มเมื่อ 6 มิ.ย. 63

ฟังเพลง อย่าหนี

เนื้อเพลง อย่าหนี

สะพายกระเป๋าออกจากบ้านมากลางดึก
มีไฟทางและแสงสว่างส่องผ่านเสื้อผ้ามาตามตึก
เด็กน้อยหนีออกจากบ้านช่างไร้เดียงสาผจญภัย
กลัวเพียงอย่างเดียวคือไม่ได้ไปจากที่ที่ไม่มีความสุข

มีน้ำมาหนึ่งขวด มีเงินมาห้าสิบ
ฝรั่งอีกหนึ่งลูก เผื่อว่าข้าหิวให้ข้าหยิบ
เสียงเพิ่งแตกหนุ่ม มันเลยวัยที่น่าหยิก
เด็กน้อยเดินไปข้างหน้าแล้วก็เดินไปข้างหน้าอีก

ก้าวขึ้นสองแถวจากบางปูใหม่น้ำตาก็ไหลนองที่หน้า
ไม่มีจุดหมายสุดสายปากน้ำก้าวขึ้นรถเมล์สายยีบห้า
รู้สึกอิสระเหมือนกับคาวบอยกระโดดขี่ม้าร้องฮิ๊ฮ่า
พรุ่งนี้ขอแค่มีที่ให้นอนมีข้าวให้กินก็พอกูยอมเป็นขี้ข้า

ตามองไปนอกหน้าต่างหัวใจไร้จุดหมาย
ชีวิตยังไงก็ได้หลังจากรถเมล์ไปสุดสาย
เข้าเมืองคนเดียวครั้งแรกด้วยวัยประมาณสิบสี่ปี
เห็นโสเภณีพิงต้นมะขามสนามหลวงเป็นจุดขาย

เดินผ่านกลาโหมเห็นปืนใหญ่เขียวไปยันโคน
ไม่รู้คนที่สวนทางกันคนไหนดีคนไหนโจร
เด็กน้อยร้องเพลงเบาเบาพึมพำเพื่อให้ในหัวมันจรรโลง
เข้าตรอกออกซอยเด็กน้อยบังเอิญมาโผล่หัวลำโพง

เห็นคนไร้บ้านมากมายนอนเรียงกัน
เห็นลูกหมาจรจัดเด็กน้อยไปนอนอยู่เคียงมัน
หมดแรงจะก้าวต่อไปเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปต่อ
พรุ่งนี้จะซื้อตั๋วรถไฟเพราะสุดสายรถเมล์แม่งยังไม่ไกลพอ

ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ว่าฉันต้องเดินไปทางไหน
ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ว่าฉันต้องเดินไปทางไหน
ที่รู้คือฉันต้องไป ฉันต้องไป ไปให้ไกลก่อน
ที่รู้คือฉันต้องไป ฉันต้องไป ไปให้ไกลก่อน

ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ว่าฉันต้องเดินไปทางไหน
ไม่รู้ ฉันไม่รู้ ว่าฉันต้องเดินไปทางไหน
ที่รู้คือฉันต้องไป ฉันต้องไป ไปให้ไกลก่อน
ที่รู้คือฉันต้องไป ฉันต้องไป ไปให้ไกลก่อน

เช้ามาเด็กน้อยเปิดขวดน้ำกินรินล้างหน้าและล้างตา
สะพายกระเป๋าปัดเสื้อผ้าเศษฝุ่นเศษดินที่ค้างคา
หยิบฝรั่งมากินประทังไปสองสามคำค่อนข้างฝาด
เงินไม่พอซื้อตั๋วรถไฟเลยไปขอวินมอเตอร์ไซมาห้าบาท

ขบวนที่จะออกไวที่สุดปลายทางคือกบินทร์บุรี
ซื้อตั๋วขาไปถึงแม้ไม่รู้มันคือที่ไหนก็ตามที
เด็กน้อยหลับไปก่อนตื่นขึ้นมาเห็นคนเดินลงเกือบหมดขบวน
เหมือนการชักชวนให้ตามลงไปสถานีปราจีนบุรี

เป็นครั้งแรกที่ไปไม่ถึงจนสุดสาย
แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือยังไม่มีแม้จุดหมาย
เด็กน้อยเดินไปข้างหน้าจนคนและบ้านและตึกหาย
เหลือเพียงถนนที่ทอดยาวที่ไม่รู้ว่ายาวไปถึงไหน

พอคิดจะหาเสบียงก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซ
เขาเลยไปจอดข้างหน้าแล้วทำทีท่าว่าสงสัย
เขาถามจะไปไหน ให้เขาไปส่งไหม
เด็กน้อยตอบว่าไม่รู้ รู้แค่จะหนีไปให้ไกล

เด็กน้อยขึ้นซ้อนรถเขากับคราบน้ำตาที่ฝ้าจาง
ตอนลมปะทะมันแสบหน้าเพราะแดดมันเผาจนหน้าบาง
เขาบอกมันอันตรายรู้ไหมเป็นเด็กมาเดินอยู่ข้างทาง
เดี๋ยวพาไปส่งที่วัดละกัน ข้างหน้ามีวัดชื่อบางคาง

เด็กน้อยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พระฟังน้ำตาก็ไหลริน
ท่านลูบหัวด้วยความเมตตาหาข้าวหาปลามาให้กิน
ถ้ายังไม่อยากกลับบ้านก็อยู่กับฉันไปก่อนละกัน
แต่อยู่ที่นี่ต้องตามไปบิณฑบาตเช้ามืดตื่นให้ทันนะ

ยิ้ม ฉันได้ยิ้ม ฉันทำมันได้อีกครั้ง
ยิ้ม ฉันได้ยิ้ม ฉันทำมันได้อีกครั้ง
เด็กวัด ฉันเป็นเด็กวัด และฉันโอเคกับที่เป็นอยู่
เด็กวัด ฉันเป็นเด็กวัด และฉันโอเคกับที่เป็นอยู่

ยิ้ม ฉันได้ยิ้ม ฉันทำมันได้อีกครั้ง
ยิ้ม ฉันได้ยิ้ม ฉันทำมันได้อีกครั้ง
เด็กวัด ฉันเป็นเด็กวัด และฉันโอเคกับที่เป็นอยู่
เด็กวัด ฉันเป็นเด็กวัด และฉันโอเคกับที่เป็นอยู่

ยู่กับพระเป็นเด็กวัดได้สองเดือน
ท่านก็ยื่นเงินแล้วกล่อมเด็กน้อยให้กลับบ้าน
กลับไปเรียนหนังสือซะ แล้วก็อย่าลืมที่สอนเตือน
กลับไปเรียนให้ทันเพื่อน เด็กน้อยเลยลาเลยกราบท่าน

แต่เงินที่ได้มา เด็กน้อยใช้มันเพื่อไปต่อ
ไม่เคยติดต่อที่บ้าน ถ้ารอก็รอกันไปก่อน
ซื้อน้ำ ตุนขนม ใส่กระเป๋า ไว้ประทัง
ไปตายเอาดาบใหม่ ซื้อตั๋วรถไฟไปอรัญ

ก็ด้วยเพราะเสาร์อาทิตย์ พระท่านชอบพากันดูมวย
เด็กน้อยไม่มีอะไรทำก็เลยไปนั่งไปดูด้วย
มันก็เลยซึมซับ บวกกับมีเงินที่พระช่วย
เด็กน้อยจึงตั้งเป้าหมายว่าป้ายต่อไปคือค่ายมวย

ลงรถไฟที่อรัญแล้วต่อสองแถวไปโรงเกลือ
ใจมันคึกคักเหมือนกะลาสีได้ลงเรือ
จุดหมายเริ่มชัดเจนไม่ใช่อะไรที่คลุมเครือ
แต่กลับโดนหลอกไปปล่อยทิ้ง โดยสามล้อหน้าโรงเกลือ

เขาบอกขึ้นมาเลยน้อง ค่ายมวยพี่รู้จักดี
เขาส่งที่ไหนไม่รู้ แล้วบอกให้เดินตรงไปทางนี้
ไปส่งถึงค่ายไม่ได้หรอก ทางมันไม่ดี
เดินหาอยู่นาน จึงถามชาวบ้าน เขาบอกค่ายมวยน่ะไม่มี

สามล้อไม่น่าจะทำให้เด็กคนหนึ่งต้องคอตก
สามล้อก็แต่งตัวดีใส่เชิ้ตแขนยาวมีคอปก
แต่ว่าสัญชาตญาณมันสั่งให้ก้าวเดินต่อไป
คิดซะว่าได้ประสบการณ์ อย่าให้มันมีผลต่อใจ

รู้ ฉันได้รู้ ว่าโลกไม่เป็นดั่งที่ฝัน
รู้ ฉันได้รู้ ว่าโลกไม่เป็นดั่งที่ฝัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่มองด้วยตาน่ะไม่ได้หรอก
ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่มองด้วยตาน่ะไม่ได้หรอก

รู้ ฉันได้รู้ ว่าโลกไม่เป็นดั่งที่ฝัน
รู้ ฉันได้รู้ ว่าโลกไม่เป็นดั่งที่ฝัน
ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่มองด้วยตาน่ะไม่ได้หรอก
ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แค่มองด้วยตาน่ะไม่ได้หรอก

เดินไปเจอจุดพักรถ เห็นคนซื้อข้าวและสูบบุหรี่
เห็นรถโดยสารที่เขียนข้างหน้าว่า บุรีรัมย์-จันทบุรี
เด็กน้อยไปบอกกระเป๋าว่าผมจะไปบุรีรัมย์
เขาบอกให้รออีกคัน งั้นผมไปจันทบุรี

ก็คิดว่าบุรีรัมย์มันน่าจะมีค่ายมวยมากกว่าไง
ไม่เป็นไร ไปจันท์ก็ได้ ไม่อยากรอนาน เพราะจันท์ก็อยากไป
ถึงจันท์ก็มืดค่ำ มันตรงกับงานประจำจังหวัดพอดี
งานทุเรียนโลก เดินซักหน่อยละกันสตางค์ก็มี

เห็นเด็กตัวเล็กจูงมือหม่าม๊าและป๊ะป๋า
เห็นคนที่มาเป็นคู่ เดินจูงมือกันจ๊ะจ๋า
เด็กน้อยรู้สึกโดดเดี่ยวและเจ็บปวดที่ไม่มี
เด็กน้อยเดินเข้าร้านสัก แล้วบอกช่างครับเอาลายนี้

มันก็เหมือนกับงานเจดีย์ที่บ้านเรา
เด็กน้อยอยากเข้าร้านสักมากกว่ายิงปืนหรือปาเป้า
พอเสร็จเขาก็ให้วาสลีนบอกเอาไปทาเข้า
ก่อนเดินมานอนหน้าบขส.ค่อยหาค่ายมวยในยามเช้า

เช้ามาก็ถูกรายล้อมด้วยวินมอเตอร์ไซ
เขาถามว่าบ้านอยู่ไหนเนี่ย เอ็งมานอนตรงนี้ทำไม
ผมอยากเป็นนักมวยครับ พี่รู้จักค่ายมวยไหม
ค่ายอะไรก็ได้พี่ ที่มันอยู่ใกล้ๆ

เขาบอกว่าโชคดีแล้วที่เอ็งมาเมืองจันท์
โชคดีที่นอนตรงนี้ มีวินคนหนึ่งเป็นอดีตนักมวยดัง
เอ็งรอที่นี่แหละ อย่าไปไหนนะรอมัน
สมัยที่มันยังชกเนี่ย มันใช้ชื่อว่าโรมรัน

หวัง ฉันมีหวัง ภายในใจเริ่มมีหวัง
หวัง ฉันมีหวัง ภายในใจเริ่มมีหวัง
มีคนตั้งมากมาย คงไม่เลวร้ายไปทุกคนหรอก
มีคนตั้งมากมาย คงไม่เลวร้ายไปทุกคนหรอก

หวัง ฉันมีหวัง ภายในใจเริ่มมีหวัง
หวัง ฉันมีหวัง ภายในใจเริ่มมีหวัง
มีคนตั้งมากมาย คงไม่เลวร้ายไปทุกคนหรอก
มีคนตั้งมากมาย คงไม่เลวร้ายไปทุกคนหรอก

และเมื่อเขามา เขาพาไปบ้านของน้าแอ๋ว
ถอดเสื้อชั่งน้ำหนัก น้าแอ๋วชมว่าหน่วยก้านแจ๋ว
แต่ถ้าต่อยน้ำหนักนี้นะ เอ็งจะเจอแต่ของแข็ง
นักมวยเขาต่อยกันตั้งแต่เด็ก ส่วนเอ็งตั้งการ์ดยังป๋องแป๋ง

น้าครับ ผมมาไกล ให้ผมลองหน่อย
จะให้ผมทำอะไรก็ได้ครับ แค่ให้ผมลองต่อย
ผมตั้งใจมาแล้วครับ ยังไงผมก็จะไปต่อ
ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมลาละ ผมไปก่อน

เขาคงเห็นความตั้งใจหรืออาจสงสารก็ได้
เขาบอกกับพี่โรมรัน เอามันไปส่งที่หน้าค่าย
ค่าย ก.ร่มศรีทอง ตอนนั้นอยู่แถวคลองนารายณ์
มองเข้าไปเห็นนักมวยเขาซ้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

พี่เขาพาไปยกมือไหว้คนที่เรียกกันว่าอาจารย์
อาจารย์ก็หาที่นอนให้คล้ายห้องเก็บของข้างหลังบ้าน
เขาบอกมันไม่สบายนะอยู่ที่นี่ต้องทำงาน
ช่วยเก็บกวาด ช่วยทำกับข้าว ช่วยล้างถ้วย ช่วยล้างจาน

เอ็งดูรุ่นพี่แล้วจำนะ เขาทำอะไรก็ทำนะ
เขาวิ่งเอ็งก็ต้องวิ่ง เขาสอนอะไรเอ็งก็ต้องฟังนะ
คนนี้ชื่ออัศวินนะ เขาเก่งเพิ่งได้เข็มขัดนะ
คนนี้ชื่อกำไลหยก นั่นบุเรงนอง นั่นก้องเมืองจันท์นะ

ส่วนเอ็งน่ะทางน้าแอ๋วเขาตั้งชื่อให้ว่าบุญหลง
เขาให้เสื้อผ้ามาด้วยและให้เงินไว้ซื้อขนม
เขาไม่ค่อยให้ใครนะ เอ็งต้องตั้งใจนะ
ไม่เก่งก็ไม่เป็นไร แต่อย่าขี้เกียจตัวเป็นขน

ฝัน ฉันมีฝัน เริ่มเข้าใจในความฝัน
ฝัน ฉันมีฝัน เริ่มเข้าใจในความฝัน
มันจะหนักเท่าไร ต้องทนให้ไหว ฉันต้องกัดฟัน
มันจะหนักเท่าไร ต้องทนให้ไหว ฉันต้องกัดฟัน

ฝัน ฉันมีฝัน เริ่มเข้าใจในความฝัน
ฝัน ฉันมีฝัน เริ่มเข้าใจในความฝัน
มันจะหนักเท่าไร ต้องทนให้ไหว ฉันต้องกัดฟัน
มันจะหนักเท่าไร ต้องทนให้ไหว ฉันต้องกัดฟัน

ท่ามกลางสวนทุเรียน เงาะ สละ และลองกอง
ก็มีเสียงนาฬิกาปลุกทุกคนตอนเช้ามืด
เด็กน้อยออกจากผ้าห่มลุกออกมาจากที่รองนอน
ช่วยเขาทาน้ำมันมวย ดูเค้าวอร์ม ดูเค้ายืด

ฝืนตัวเองวิ่ง ตามขบวน จนน้ำตาคลอ
เตะกระสอบทรายให้ดังที่สุด จนอาจารย์มอง
ตอนขี้ก็เลยลำบาก แม่งโคตรจะปวดขาเวลางอ
ปล้ำเข่าจนเจ็บซี่โครง โดนเหวี่ยงจนล้ม ลุกมาโดนเข่าต่อ

บางคืนก็นอนไม่หลับ มือก่ายหน้าผากนอนร้องไห้
แต่ว่าสัญชาตญาณมันสั่งว่าต้องผ่านไปให้ได้
ค่อยๆเข้าใจชีวิตว่าในบางทีมันไม่ง่าย
และนี่แค่ซ้อม ยังไม่ได้ชก ข่มใจไม่ให้พ่าย

อดทนได้หนึ่งเดือนก็ได้เจอเรื่องที่เซอร์ไพรส์
เพราะอาจารย์เขาขอเบอร์แม่ตั้งแต่วันแรกก็ให้ไว้
เหมือนกำลังจะมีมวยวัด เหมือนกำลังจะได้ไฟท์
เขาคงโทรไปบอกที่บ้าน ถามพ่อกับแม่ว่าได้ไหม

เช้าวันต่อมา รถราจอดเต็มหน้าค่าย
มากันทั้งบ้าน ไม่อาจจะหนีหรือหลบหน้าได้
มาทั้งพ่อแม่ ทั้งพี่น้อง มาทั้งป้ายาย
มานั่งปาดน้ำตา จึงได้เข้าใจคำว่าน่าละอาย

เด็กน้อยจึงต้องจำใจ กลับบ้านในวันนั้น
มันเหมือนว่าเป็นวันแรก ที่รู้สึกมีค่าและสำคัญ
สามเดือนที่หายไป กลายเป็นเรื่องเล่าได้แบ่งได้ปัน
รู้สึกโชคดีที่ผ่านมาได้ จึงมีโอกาสมาเล่า มาแร็ปให้ฟัง

หนี ไม่ว่าหนี ไปได้ไกลสักเพียงไหน
หนี ไม่ว่าหนี ไปได้ไกลสักเพียงไหน
สุดท้ายฉันต้องยอมรับและฉันต้องกลับมาอยู่กับมัน
สุดท้ายฉันต้องยอมรับและฉันต้องกลับมาอยู่กับมัน

หนี ไม่ว่าหนี ไปได้ไกลสักเพียงไหน
หนี ไม่ว่าหนี ไปได้ไกลสักเพียงไหน
สุดท้ายฉันต้องยอมรับและฉันต้องกลับมาอยู่กับมัน
สุดท้ายฉันต้องยอมรับและฉันต้องกลับมาอยู่กับมัน

อยู่กับความจริง
อยู่กับความจริง
อยู่กับความจริง.
อยู่กับความจริง

เนื้อเพลง อย่าหนี แบบคาราโอเกะ

saphai krapao ok chak ban mak lang duek
mi fai thang lae saeng sawang song phan sueapha ma tam tuek
dek noiha ni ok chak ban chang rai diang sa phachon phai
klua phiang yang diao khue mai dai pai chak thi thi maimi khwam suk

mi nam ma nueng khuat mi ngoen ma ha sip
frang ik nueng luk phuea wa kha hio hai kha yip
siang phoeng taek num man loei wai thi na yik
dek noi doen pai khang na laeo ko doen pai khang na ik

kao khuen song thaeo chak bangpu mai namta ko lai nong thi na
maimi chut mai sut saipaknam kao khuen rotme sai yi bo ha
rusuek isara muean kap khaoboi kradot khi ma rong hi ha
phrung ni kho khae mi thi hai non mi khao hai kin ko pho ku yom pen khikha

tam ong pai nok natang huachai rai chut mai
chiwit yang ngai kotai lang chak rotme pai sut sai
khao mueang khon diao khrang raek duai wai praman sip si pi
hen sopheni phing tonmakham sanam luang pen chut khai

doen phan klahom hen puen yai khiao pai yan khon
mairu khon thi suan thang kan khon nai di khon nai chon
dek noi rong phleng bao bao phuempham phuea hai nai huaman chanlong
khao trok ok soi dek noi bang-oen ma phlo hualamphong

hen khon rai ban makmai non riang kan
hen luk ma chonchat dek noi pai non yu khiang man
mot raeng cha kao to pai ao wai phrung ni khoi pai to
phrung ni cha sue tua rotfai phro sut sai rot me mae ng yang mai klai pho

mairu chan mairu wa chan tong doen pai thang nai
mairu chan mairu wa chan tong doen pai thang nai
thi ru khue chan tong pai chan tong pai pai hai klai kon
thi ru khue chan tong pai chan tong pai pai hai klai kon

mairu chan mairu wa chan tong doen pai thang nai
mairu chan mairu wa chan tong doen pai thang nai
thi ru khue chan tong pai chan tong pai pai hai klai kon
thi ru khue chan tong pai chan tong pai pai hai klai kon

chao ma dek noi poet khuat nam kinrin lang na lae lang ta
saphai krapao pat sueapha set fun set din thi khang kha
yip frang ma kin prathang pai song sam kham khon khang fat
ngoen mai pho sue tua rotfai loei pai kho win motoe sai ma ha bat

khabuan thi cha ok wai thisut plai thang khue kabinburi
sue tua kha pai thueng mae mairu man khue thihai kotam thi
dek noiha lap pai kon tuen khuen ma hen khon doen long kueap mot khabuan
muean kan chakchuan hai tam long pai sathani prachinburi

pen khrang raek thi pai mai thueng chon sut sai
tae sing thi yang muean doem khue yang maimi mae chut mai
dek noi doen pai khang na chon khon lae ban lae tuek hai
luea phiang thanon thi thot yao thi mairu wa yao pai thueng nai

pho khit cha ha sabiang kotai yin siang motoe sai
khao loei pai chot khang na laeo tham thitha wa songsai
khao tham cha pai nai hai khao pai song haimai
dek noi top wa mairu ru khae cha ni pai hai klai

dek noi khuen son rot khao kap khrap namta thi fa chang
ton lom patha man saep na phro daet man phao chon na bang
khao bok man antrai ru haimai pen dek ma doen yu khang thang
diao pha pai song thi wat la kan khang na mi wat chue bang khang

dek noi lao rueang thangmot hai phra fang namta ko lai rin
than lup hua duai khwam metta ha khao ha pla ma hai kin
tha yang mai ayak klap ban ko yu kap chan pai kon la kan
tae yu thi ni tong tam pai binthabat chao muet tuen hai than na

yim chan dai yim chan tham man dai ik khrang
yim chan dai yim chan tham man dai ik khrang
dek wat chan pen dek wat lae chan o khe kap thi pen yu
dek wat chan pen dek wat lae chan o khe kap thi pen yu

yim chan dai yim chan tham man dai ik khrang
yim chan dai yim chan tham man dai ik khrang
dek wat chan pen dek wat lae chan o khe kap thi pen yu
dek wat chan pen dek wat lae chan o khe kap thi pen yu

yu kap phra pen dek wat dai song duean
than ko yuen ngoen laeo klom dek noi hai klap ban
klap pai rian nangsue sa laeo ko aya luem thi son tuean
klap pai rian hai than phuean dek noi loei la loei krap than

tae ngoen thi dai ma dek noi chai man phuea pai to
mai khoei titto thi ban tha ro ko ro kan pai kon
sue nam tun khanom sai krapao wai prathang
pai tai ao dap mai sue tua rotfai pai aran

ko duai phro sao athit phra than chop pha kan du muai
dek noi maimi arai tham ko loei pai nang pai du duai
man ko loei suemsap buak kap mi ngoen thi phra chuai
dek noi chueng tang pao mai wa pai to pai khue khai muai

long rotfai thi aran laeo to song thaeo pai rong kluea
chai man khuekkhak muean kalasi dai long ruea
chut mai roem chatchen maichai arai thi khlumkhruea
tae klap don lok pai ploi thing doi samlo na rong kluea

khao bok khuen ma loei nong khai muai phi ruchak di
khao song thihai mairu laeo bok hai doen trong pai thang ni
pai song thueng khai mai dai rok thang man mai di
doen ha yu nan chueng tham chao ban khao bok kha yom waina maimi

samlo mai na cha thamhai dek khon nueng tong khotok
samlo ko taeng tuadi sai choet khaen yao mi kho pok
tae wa sanchatayan man sang hai kao doen to pai
khit sa wa dai prasopkan aya hai man mi phon to chai

ru chan dai ru wa lok mai pen dang thi fan
ru chan dai ru wa lok mai pen dang thi fan
mairu wa khrai pen khrai khae mong duai tan a mai dai rok
mairu wa khrai pen khrai khae mong duai tan a mai dai rok

ru chan dai ru wa lok mai pen dang thi fan
ru chan dai ru wa lok mai pen dang thi fan
mairu wa khrai pen khrai khae mong duai tan a mai dai rok
mairu wa khrai pen khrai khae mong duai tan a mai dai rok

doen pai choe chut phak rot hen khon sue khao lae sup buri
hen rot doisan thi khian khang na wa buriram - chanthaburi
dek noi pai bok krapao wa phom cha pai buriram
khao bok hai ro ik khan ngan phom pai chanthaburi

ko khit wa buriram man na cha mi khai muai makkwa ngai
mai penrai pai chan kotai mai ayak ro nan phro chan ko ayak pai
thueng chan ko muetkham man trong kap ngan pracham changwat phodi
ngan thurian lok doen sak noi la kan satang ko mi

hen dek tua lek chung mue ma ma lae papa
hen khon thima pen khu doen chungmue kan cha cha
dek noi rusuek dot diao lae chep puat thi maimi
dek noi doen khao ran sak laeo bok chang khrap ao lai ni

man ko muean kap ngan chedi thi ban rao
dek noi ayak khao ran sak makkwa ying puen rue pa pao
pho set khao ko hai wa sali nop ok ao pai tha khao
kon doen ma non na bokhat o khoi ha khai muai nai yam chao

chao ma ko thuk rai lom duai win motoe sai
khao tham wa ban yu nai nia eng ma non trong ni thammai
phom ayak pen nak muai khrap phi ruchak khai muai haimai
khai arai kotai phi thi man yu klai klai

khao bok wa chok dilaeo thi eng ma mueang chan
chok di thinon trong ni mi win khon nueng pen adit nak muai dang
eng ro thi ni lae aya pai nai na ro man
samai thi man yang chok nia man chai chue wa romran

wang chan mi wang phainai chai roem mi wang
wang chan mi wang phainai chai roem mi wang
mi khon tang makmai khong mai leo rai pai thuk khon rok
mi khon tang makmai khong mai leo rai pai thuk khon rok

wang chan mi wang phainai chai roem mi wang
wang chan mi wang phainai chai roem mi wang
mi khon tang makmai khong mai leo rai pai thuk khon rok
mi khon tang makmai khong mai leo rai pai thuk khon rok

lae muea khao ma khao pha pai ban khong na ae a
thot suea chang nam nak na ae a chom wa nuai kan chaeo
tae tha toi nam nak ni na eng cha choe tae khongkhaeng
nak muai khao toi kan tangtae dek suan eng tang ka yang po ng paeng

na khrap phom ma klai hai phom long noi
cha hai phom tham arai kotai khrap khae hai phom long toi
phom tangchai ma laeo khrap yang ngai phom ko cha pai to
mai dai ko mai penrai khrap phom la la phom pai kon

khao khong hen khwam tangchai rue at songsan kotai
khao bok kap phi romran ao man pai song thi na khai
khai ko o rom si thong ton nan yu thaeo khlong narai
mong khaopai hen nak muai khao som kan yang ao pen aotai

phi khao pha pai yokmue wai khon thi riak kan wa achan
achan ko ha thinon hai khlai hong kep khong khang lang ban
khao bok man mai sabai na yu thi ni tong thamngan
chuai kep kwat chuai tham kapkhao chuai lang thuai chuai lang chan

eng du run phi laeo cham na khao tham arai ko tham na
khao wing eng ko tong wing khao son arai eng ko tong fang na
khon ni chue atsawin na khao keng phoeng dai khemkhat na
khon ni chue kamlai yok nan bu reng nong nan kong mueang chan na

suan eng na thang na ae a khao tang chue hai wa bun long
khao hai sueapha ma duai lae hai ngoen wai sue khanom
khao mai khoi hai khrai na eng tong tangchai na
mai keng ko mai penrai tae aya khi kiat tua pen khon

fan chan mi fan roem khaochai nai khwam fan
fan chan mi fan roem khaochai nai khwam fan
man cha nak thaorai tong thon hai wai chan tong katfan
man cha nak thaorai tong thon hai wai chan tong katfan

fan chan mi fan roem khaochai nai khwam fan
fan chan mi fan roem khaochai nai khwam fan
man cha nak thaorai tong thon hai wai chan tong katfan
man cha nak thaorai tong thon hai wai chan tong katfan

thamklang suan thurian ngo sala lae longkong
ko mi siang nalika pluk thuk khon ton chao muet
dek noi ok chak phahom luk ok ma chak thi rong non
chuai khao tha namman muai du khao wo du khao yuet

fuen tua eng wing tam khabuan chon namta khlo
te krasop sai hai dang thisut chon achan mong
ton khi ko loei lambak mae ng khot cha puat kha wela ngo
plam khao chon chep sikhrong don wiang chon lom luk ma don khao to

bang khuen ko non mai lap mue kai na phak non ronghai
tae wa sanchatayan man sang wa tong phan pai hai dai
khoi khoi khaochai chiwit wa nai bangthi man mai ngai
lae ni khae som yang mai dai chok khom chai mai hai phai

otthon dai nueng duean kotai choe rueang thi soephrai
phro achan khao kho boe mae tangtae wan raek ko hai wai
muean kamlang cha mi muaiwat muean kamlang cha dai fai
khao khong thon pai bok thi ban tham pho kap mae wa dai haimai

chao wan to ma rot ra chot tem na khai
ma kan thang ban mai at cha ni rue lop na dai
ma thang pho mae thang phi nong ma thang pa yai
ma nang pat namta chueng dai khaochai kham wa na la-ai

dek noi chueng tong cham chai klap ban nai wan nan
man muean wa pen wan raek thi rusuek mi kha lae samkhan
sam duean thi hai pai klai pen rueang lao dai baeng dai pan
rusuek chok di thi phan ma dai chueng mi okat ma lao ma raep hai fang

ni mai wa ni pai dai klai sak phiang nai
ni mai wa ni pai dai klai sak phiang nai
sutthai chan tong yomrap lae chan tong klap ma yu kap man
sutthai chan tong yomrap lae chan tong klap ma yu kap man

ni mai wa ni pai dai klai sak phiang nai
ni mai wa ni pai dai klai sak phiang nai
sutthai chan tong yomrap lae chan tong klap ma yu kap man
sutthai chan tong yomrap lae chan tong klap ma yu kap man

yu kap khwam ching
yu kap khwam ching
yu kap khwam ching o
yu kap khwam ching

เกี่ยวกับเพลง อย่าหนี

คำร้อง/ทำนอง ณัฐพงษ์ หอมเทียน

เพลง อย่าหนี นี้ ถอดคำร้องและตรวจสอบโดย สยามโซน.คอม หากนำไปเผยแพร่ต่อกรุณาให้เครดิต สยามโซน.คอม หรือใส่ลิงก์กลับมาที่หน้า เนื้อเพลง อย่าหนี ด้วย

คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้

เนื้อเพลง อย่าหนี ที่แสดงบนเว็บก็เพื่อประโยชน์ในการศึกษาเท่านั้น สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม - เนื้อเพลงแบบคาราโอเกะได้มาจากการแปลงโดยอัตโนมัติ อาจมีความผิดพลาดได้บ้าง - ทางเว็บไซต์ไม่มีบริการดาวน์โหลด MP3 เพลง อย่าหนี หรือบริการดาวน์โหลดใดๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดลิขสิทธิ์