ดา ส่งผลงานใหม่ Damatic ลงมือปั้นด้วยตัวเอง

การกลับมาของนักร้องหญิงเสียงทรงพลัง "ดา เอ็นโดรฟิน" หรือ "ดา - ธนิดา ธรรมวิมล" ที่ห่างหายจากการทำงานเพลงไปเกือบ 2 ปี และ "Damatic" คืออัลบัมเเรกในชีวิตการทำงานกว่า 14 ปี ที่เจ้าตัวเป็นผู้คิดงาน ควบคุมการผลิต และลงมือปั้นด้วยตัวเอง นักร้องสาวกล่าวว่า "Damatic คือตัวตนของดา ถ่ายทอดหลายๆ อารมณ์ความรู้สึกการเเสดงออกต่างๆ ของผู้หญิง โดยใส่มุมมองทัศนคติเเละวิธีการร้องของดาเข้าไป ถ่ายทอดไปสู่เเฟนเพลงกับ 5 ซิงเกิล 5 เเนวดนตรี พร้อมเเขกรับเชิญพิเศษ"

ดา เล่าว่า "ซิงเกิล 1 ฉันยังอยู่ เพลงนี้เกิดจากดากับวงเล่นเเจมในห้องซ้อมกันเเละได้เมโลดีมา ตอนเขียนเนื้อก็คิดถึงพี่หมู มูซู (บัณฑิต แซ่โง้ว) ก็เลยชวนมาช่วยเเต่งเนื้อร้อง มีการปรับเนื้อหรือความหมายให้เข้ากับตัวตนของดา สำหรับดนตรีเป็นการอัดเครื่องดนตรีสด ดาเชื่อว่าทุกคนต้องการกำลังใจ ดาเองก็ต้องการกำลังใจในช่วงที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของดาเช่นกัน เเละอยากส่งเพลงนี้ไปยังเเฟนเพลงของดาว่าเราจะไม่ทอดทิ้งกันเเละเรายังอยู่ตรงนี้"

นักร้องสาวเผยว่าเพลง "คำอำลา (Have To Say Good Bye)" เป็นการกลับมาทำงานเพลงร่วมกันอีกครั้งกับ "หนึ่ง - ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์" "ซิงเกิล 2 คำอำลา อีกครั้งที่ได้ร่วมงานกับพี่หนึ่ง ณรงค์วิทย์ เป็นเพลงช้าที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มาถึงทางตัน โดยผ่านมุมมองของดา คือถึงเเม้ว่าการเลิกรากันจะทำให้เราเสียใจขนาดไหนเราก็ต้องลุกขึ้นต่อ ตอนได้ทำนองมาก็เลยชวนพี่หนึ่งมาช่วยเขียนเนื้อให้ รวมถึงพี่หนึ่งเข้ามาช่วยฟังในตอนอัดร้องเพลงนี้ด้วย"

สำหรับเพลง "ระหว่างเรา...คืออะไร" ก็เป็นการโคจรมาทำงานร่วมกันระหว่างดากับวง "เดอะ พาร์กินสัน" (The Parkinson) "ซิงเกิล 3 ระหว่างเรา...คืออะไร โจทย์ของอัลบัมนี้คือสามารถร่วมงานกับใครก็ได้ ดานึกถึงวงเดอะ พาร์กินสัน เพราะรู้สึกว่าดาเเละเดอะ พาร์กินสัน มีเคมีใกล้กัน เพลงของเราไปด้วยกันได้ โดยเฉพาะเพลงช้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ ดาชอบร้องเพลงรักที่ผู้ชายเขียนเนื้อ เพราะว่ามีความพอดีกับตัวตนดา เเละอยากได้ลายมือเเบบวงเดอะ พาร์กินสัน เลยยกเพลงนี้ให้ กานต์ (นิภัทร์ กำจรปรีชา) คิดเเละเขียนออกมา โดยดาเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเพราะต้องร้องด้วยกัน เพลงนี้เหมือนเป็นเพลงที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์เเบบคลุมเครือ ซึ่งได้ไอเดียต่อยอดมาจากเพลง ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันเเบบไหน"

ส่วน "You'll Be Mine" เจ้าตัวได้ดึงหนุ่มคนสนิทอย่าง "อเล็กซ์ ซิปโซมอส" (Alex Sypsomos) มาทำงานร่วมกันครั้งแรกในเพลงนี้ "ซิงเกิล 4 You'll Be Mine เพลงนี้ดากับอเล็กซ์เคยเล่นคีย์บอร์ดเเจมกันเเละได้คอรัสเพลงนี้มาเเละเก็บไว้ ในทางคอร์ดคิดว่านี่น่าจะเป็นเพลงรักที่อบอุ่นโรแมนติกมากเพลงหนึ่ง พอมีโปรเจกต์นี้ก็อยากชวนอเล็กซ์มาจอย ซึ่งเป็นการดูเอตกันครั้งเเรก อเล็กซ์เป็นคนเเต่งทั้งหมดเเละเรื่องราวในเพลงก็มาจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ จึงเป็นเพลงที่พิเศษเเละมีความหมายมาก"

ในเพลง "Revolution" นักร้องสาวได้คว้า "ทูพี" (Twopee) หรือ "โต้ง - พิทวัส พฤกษกิจ" มาร่วมในเพลงนี้ "ซิงเกิล 5 Revolution โจทย์เพลงนี้มาจากนักร้องที่ดาอยากร่วมงานด้วยคือโต้ง ทูพี จริงๆ ดากับโต้งรู้จักกันมานานเเล้ว ตั้งเเต่ตอนได้ไปร่วมงานกับไทยเทเนี่ยม ซึ่งโต้งอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เพลงนี้เป็นการร่วมมือกันหลายคน อเล็กซ์ทำทำนองเเละดนตรีให้ ดากับพี่หมูช่วยกันเเต่งเนื้อ ได้โต้งมาเเต่งเเละร้องท่อนแร็ป ดาอยากให้เพลงมีพลังลุกขึ้นต่อสู้ในสิ่งที่เราต้องการ ไม่ยอมทำในสิ่งที่ฝืนตัวเรา ออกมาปฎิวัติเพื่อตัวเอง เป็นเพลงที่มีพลังที่สุดในอัลบัมนี้"