นอทิง บัต ทีฟส์ ตื่นเต้นเล่นคอนเสิร์ตครั้งแรกในไทย
ครั้งแรกในไทยของ 5 หนุ่มวง "นอทิง บัต ทีฟส์" (Nothing But Thieves) ประกอบด้วย นักร้องนำ "คอเนอร์ เมสัน" (Conor Mason) 2 สหายมือกีตาร์อย่าง "โจ แลนกริจ บราวน์" (Joe Langridge-Brown) และ "โดมินิก เครก" (Dominic Craik) มือเบส "ฟิลิป เบลก" (Philip Blake) และอีกหนึ่งหนุ่มมือกลอง "เจมส์ ไพรส์" (James Price) ซึ่งได้มาจัดคอนเสิร์ต "Nothing But Thieves Live in Bangkok" ในวันที่ 2 สิงหาคม 2561 ณ มูนสตาร์ สตูดิโอ ทั้งนี้ทางวง นอทิง บัต ทีฟส์ ได้ยังให้สัมภาษณ์พิเศษและได้พูดถึงความรู้สึกที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่ประเทศไทยอีกด้วย
ทางวงได้รับคำชมว่าเป็นวงที่แสดงคอนเสิร์ตได้อย่างยอดเยี่ยม
ฟิลิป "ถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นอย่างไรก็อาจจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้นะครับ คือวงเราไม่ค่อยได้ซ้อมครับ เพราะว่าต้องแสดงคอนเสิร์ตกันตลอด แต่มันก็เป็นคำชมที่ดีมากๆ เลยนะครับ คือเราไม่เคยคิดว่าวงเราเจ๋งขนาดนั้นนะ แต่ก็ดีมากๆ เลยที่ได้ยินอะไรแบบนี้ครับ"
รู้สึกอย่างไรที่ได้มาแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก
โจ "พวกเราไม่คิดว่าจะได้มาเล่นที่ไทยเลยนะครับ มีวงเจ๋งๆ มาแสดงที่นี่บ่อยๆ เรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาเล่นที่นี่ ส่วนใหญ่เราแต่งเพลงในลานจอดรถ เดินทางไปทั่วโลก ตอนที่เราได้รับข้อเสนอให้มาเล่นที่นี่ เราตื่นเต้นกันมากเลยจริงๆ"
อยากไปเที่ยวที่ไหนในประเทศไทย
คอเนอร์ "ผมจะมาเมืองไทยตอนเดือนตุลาคม ผมจะไปเที่ยวที่เขาหลัก (จังหวัดพังงา) นะ มันสวยมากๆ เลยครับ"
ฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทย
โดมินิก "สวัสดีแฟนเพลงชาวไทยที่น่ารักทุกคนครับ ผมอยากจะขอบคุณทุกคนที่ทำให้เราได้มาที่ประเทศที่สวยงามนี้นะครับ อาหารก็มีมากมาย ทุกคนดูแลพวกเราดีมากจริงๆ ขอบคุณมากๆ เลยครับ นายมีอะไรจะพูดไหมฟิล"
ฟิลิป "สวัสดีครับ (พูดภาษาไทย)"
คอนเสิร์ตในครั้งนี้ได้ศิลปินสายเลือดไทยมาแสดงเป็นวงเปิดอย่าง "โมโนเมเนีย" (Monomania) ตามด้วย "แมตท์นิแมร์" (Mattnimare) ในเพลง "ความทรงจำถาวร (ROM)" เป็นต้น ก่อนจะเป็นการแสดงของ 5 หนุ่ม นอทิง บัต ทีฟส์ ซึ่งก็ได้ขนเอาเพลงมาร้องในคอนเสิร์ตมากมาย อาทิ ปลุกทุกคนให้ตื่นกับ "Wake Up Call" "Soda" "Broken Machine" "Particles" "Trip Switch" เพลงชวนโยกที่คนดูช่วยกันเปล่งเสียงอย่างดังในคำว่า Trip แล้วไปต่อกันที่ "Ban All the Music" "If I Get High" "Sorry" เพลงช้าๆ ซึ้งๆ "Lover, Please Stay" และไม่ลืมที่จะปิดท้ายด้วยเพลงจังหวะสนุกสนานอย่าง "Amsterdam"
