สลา ร่วมแสดงความอาลัยผ่านบทเพลง เล่าสู่หลานฟัง
นักแต่งเพลงมากประสบการณ์ "สลา คุณวุฒิ" ได้แสดงความอาลัยแด่ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ผ่านการถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลง "เล่าสู่หลานฟัง" โดยพูดถึงแรงบันดาลใจของการแต่งเพลงนี้ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ว่า "แรงบันดาลใจก็คือสำนึกของคนไทยคนหนึ่งนะครับว่าในวันที่ในหลวงท่านจากไปนั้น เราในฐานะเป็นพสกนิกรของในหลวง เราจะทำอะไรนะครับ ก็ไปจุดประกายตรงนี้ ผมก็ได้หารือกับ อาจารย์บอย - ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว แล้วก็เพื่อนทุกคน แล้วก็ลูกศิษย์ลูกหานะครับว่า สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือสิ่งที่เราทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็คือการเขียนเพลง การร้องเพลง ก็เลยตัดสินใจร่วมแสดงออกตรงนี้"
ครูเพลงฝีมือล้นเล่าถึงจุดเริ่มต้นเรื่องราวในบทเพลงว่า "ส่วนเรื่องราวในบทเพลงนั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากในวันที่ในหลวงจากไป ที่ผมบอกกับตัวเองว่าในความรู้สึกมันเหมือนเกิดอาการไฟดับในความรู้สึก เหมือนมืดมิด ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยนั่งเปิดไอจีดูภาพต่างๆ ว่าสังคมกำลังทำอะไรอยู่ ก็ไปเห็นภาพๆ หนึ่งที่เขาโพสต์ลงไปนะครับ แต่ผมจำชื่อไม่ได้ว่าเป็นใคร เป็นภาพในหลวงติดอยู่ข้างฝาบ้านเก่าๆ แล้วก็มีรูปอยู่ใกล้ๆ หิ้งพระ แล้วก็คนนั่งกราบ ทำให้ตัวเองนึกถึงครอบครัวของเรา บนเส้นทางของครู แล้วก็เชื่อว่าหลายๆ คนนะครับ เราเคยอยู่บ้านหลังเล็กหลังใหญ่ขนาดไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีก็คือรูปในหลวง และนาทีนี้ถ้าหากว่าเราอยู่ตรงนั้น เราก็จะนั่งตรงนั้น แค่คิดก็มีน้ำตา ก็เลยจินตนาการว่าเรื่องเล่าที่จะเล่าก็คือเริ่มจากตรงนี้ สมมติถ้ามีหลานสักคนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เดินมาถามว่าทำไมลุงต้องร้องไห้ ก็จะเล่าให้เขาฟัง"
สลา เผยว่าใช้เวลาแต่งและเรียบเรียงเพลงนี้ไม่นานนัก "ก็ไม่ถึงกับนาน เพราะว่าเรื่องราวของในหลวงจะอยู่ในใจเราตลอด คนทำงานด้านนี้เวลาคิดจะนานแต่เวลาเขียนจะไม่นาน แต่เผอิญว่าเรื่องของพระองค์ท่านเป็นเรื่องที่อยู่ในจิตสำนึกเราอยู่แล้ว ก็เลยใช้เวลาไม่นานมากนัก" ส่วนเหตุที่ถ่ายทอดเพลง เล่าสู่หลานฟัง เป็นภาษาอีสานก็เพราะว่าเป็นสิ่งที่ตนเองสามารถสื่อสารออกมาได้ง่าย "ด้วยความว่าในพื้นที่ของวงการเพลง เรามีเพลงหลายประเภทนะครับ ผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมน่าจะสื่อสารได้ง่าย ก็น่าจะเป็นเพลงลูกทุ่งอีสาน รวมไปถึงผมอยากพูดกับพี่น้องซึ่งเป็นพสกนิกรของในหลวงในพื้นที่ของความเป็นชาวบ้าน ก็เลยเลือกใช้วิธีการนี้ครับ"
ครูสลา กล่าวว่าสิ่งที่ชาวไทยทำได้ในห้วงเวลานี้คือการทำตามคำสอนของพระองค์ท่าน "ในนามของคนที่ทำงานในวิชาชีพนี้นะครับ ผมขออนุญาตใช้โอกาสนี้เป็นตัวแทนบอกเล่าผ่านบทเพลงนี้ไปถึงพี่น้องชาวไทยทุกคน ในห้วงเวลาที่เราสูญเสีย ในห้วงเวลาที่เราต้องการความเข้มแข็งทางจิตใจ ผมก็คิดว่าบารมีของในหลวงยังอยู่กับเรา ให้รักท่าน และเอาความเข้มแข็งตรงนั้นมาดูแลหัวใจของพวกเรา เพราะสิ่งที่เราบอกรักในหลวงได้ดีที่สุดก็คือการทำตามคำสอนของท่าน รักสามัคคี ทำความดี แล้วก็ถวายท่านด้วยการพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า ผมว่านั่นคือสิ่งที่พ่อจะภูมิใจที่สุดครับ"