ไมเคิล เลิร์น ทู ร็อก มาไทย ใช้ใจสื่อสารกับคนฟัง
"ไมเคิล เลิร์น ทู ร็อก" (Michael Learns to Rock หรือ MLTR) ศิลปินป๊อปร็อกรุ่นเก๋าจากประเทศเดนมาร์ก มีสมาชิก 3 คน คือ นักร้องนำ "จาชา ริชเตอร์" (Jascha Richter) มือกลอง "คาล วอนส์เชอร์" (Kare Wanscher) และมือกีตาร์ "มิกเกล เลนต์ซ" (Mikkel Lentz) โดยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 ไมเคิล เลิร์น ทู ร็อก ได้พร้อมใจลัดฟ้ามาฉลองความสำเร็จบนเส้นทางสายดนตรีตลอด 25 ปีที่ผ่านมากับแฟนๆ ชาวไทยในงาน "Michael Learns to Rock 25 The Anniversary & Celebration" ซึ่งทั้ง 3 หนุ่มได้มาร่วมพูดคุยอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดการแสดงคอนเสิร์ตเล็กๆ สุดอบอุ่น ณ ฮาร์ดร็อค คาเฟ่ สยามสแควร์
รู้สึกอย่างไรกับความสำเร็จตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
คาล "พวกเรารู้สึกซาบซึ้ง แล้วก็เป็นเกียรติมากๆ ครับที่ได้อยู่ในวงการมานานขนาดนี้ เราภูมิใจจริงๆ ครับ"
ความลับแห่งความสำเร็จของวงคืออะไร
จาชา "แฟนเพลงอาจจะจำวงของพวกเราไม่ได้ แต่ทุกคนร้องเพลงของเราได้ผมก็ดีใจแล้วครับ แล้วเมื่อพวกเรากลับมาเมืองไทยอีกครั้งหลังจากผ่านไป 7 ปี แฟนๆ ก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นครับ ผมใช้หัวใจที่โรแมนติกสื่อสารกับคนฟังในเพลงของผมครับ"
เพลงที่ชอบคือเพลงอะไร แล้วเพราะอะไรถึงชอบ
มิกเกล "ผมคิดว่าเพลงที่ผมชอบที่สุด คือเพลง Someday ครับ ผมชอบเสียง ชอบเนื้อเพลง"
จาชา "เพลงที่ผมชอบ คือ The Actor ครับ เพราะว่ามันเป็นเพลงแรกที่ดังระดับนานาชาติครับ เป็นเพลงที่ผมภูมิใจ แล้วผมก็ชอบแสดงสดเพลงนี้ครับ"
คาล "เพลงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ วันนี้ผมชอบเพลงนี้ อีกวันหนึ่งผมชอบอีกเพลงหนึ่ง เพราะว่าตอนทัวร์เพลงทุกเพลงมันเปลี่ยนอยู่ตลอด คืนนี้เพลงนี้ดี คืนต่อไปเป็นอีกเพลงหนึ่ง ผมเลยไม่อยากเจาะจงเป็นเพลงไปครับ"
พูดถึงเพลงใหม่ Silent Times กับ Call On Love
คาล "เป็น 2 เพลงใหม่ที่แตกต่างครับ โดยเฉพาะเพลง Silent Times เป็นเพลงที่ไม่ได้ถูกแต่งขึ้นโดยวงของพวกเราครับ ผมรู้สึกว่ามันแปลกใหม่มาก แล้วผมก็ตกหลุมรักมันครับ"
ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่าจดจำที่สุดคืออะไร
จาชา "พอพวกเรามาเยือนเอเชีย มันมีความแตกต่างระหว่างความดังของพวกเรากับแถบอเมริกาหรือยุโรป มันน่าประทับใจมากที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีครับ ในเอเชียแฟนๆ น่ารักมากไม่ว่าพวกเราจะไปที่ไหนก็ตาม"
คาล "การมาเยือนเมืองไทยเมื่อ 7 ปีก่อน รวมไปถึงครั้งแรกด้วย เป็นครั้งที่อยู่ในความทรงจำของพวกเราครับ"
จำความรู้สึกตอนมาประเทศไทยครั้งแรกได้หรือเปล่า
คาล "ผมรู้สึกเหมือนมันเพิ่งผ่านมาเมื่อวานนี้เองครับ ทุกคนให้การต้อนรับเหมือนกับว่าที่นี่คือบ้านของพวกเราเองครับ"
เปิดการแสดงมาหลายประเทศแล้ว ยังมีประเทศไหนอีกบ้างที่ยังไม่ได้ไปเยือน
จาชา "ในเอเชียที่พวกเรายังไม่ได้ไปก็คือประเทศลาวครับ"
วางแผนจัดการแสดงที่ไหนต่อไปบ้าง
จาชา "พวกเราจะเปิดคอนเสิร์ตที่อินเดีย 7 คอนเสิร์ตครับ แล้วหวังว่าจะได้จัดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยด้วยครับบางทีอาจจะก่อนคริสมาสต์"
ถ้ามาเปิดการแสดงที่ไทย จะเตรียมอะไรมาเป็นพิเศษหรือเปล่า
คาล "เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพวกเราไปเล่นที่เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์มาครับ ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ถ้าพวกเรามาเยือนเมืองไทยก็จะมีอะไรพิเศษๆ มาฝากแน่นอนครับ"
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทย
จาชา "ผมคิดถึงคนไทย แล้วก็เมืองไทยมากครับ"
คาล "ผมขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยมากนะครับ ที่นี่เป็นสถานที่ที่พิเศษจริงๆ ครับ"
บรรยากาศภายในงานคับคั่งไปด้วยแฟนเพลงที่รักวง ไมเคิล เลิร์น ทู ร็อก เรียกว่าร้องตามกันได้แทบทุกเพลง ซึ่งหนุ่มๆ ประเดิมด้วยเพลง "Sleeping Child" ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ต่อด้วยเพลงเพราะๆ "That's Why (You Go Away)" ถัดมาเป็นเพลงใหม่อย่าง "Call On Love" ฝีมือการแต่งเพลงของ "เวย์น เฮกเตอร์" (Wayne Hector) ผู้ที่เคยร่วมแต่งเพลงให้กับศิลปินชื่อดัง อาทิเพลง " World of Our Own" และ "Flying Without Wings" ของ "เวสต์ไลฟ์" (Westlife) จากนั้นไปต่อกันที่เพลง "25 Minutes" ก่อนปิดฉากอย่างน่าประทับใจกับบทเพลงสุดตรึงใจ "Take Me To Your Heart" ที่แฟนๆ ชาวไทยช่วยกันร้องร่วมกับศิลปินอย่างมีความสุข