มินฮยอก พกรอยยิ้มละมุน ลุยเดี่ยวพบปะแฟนไทยครั้งแรก

"คังมินฮยอก" (Kang Min Hyuk) มือกลองหนุ่มหน้าใส จากวง "ซีเอ็นบลู" (CNBLUE) ผู้มาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นละมุนละไมอยู่เสมอ ซึ่งหนุ่มคนนี้นอกจากจะมีผลงานในวงการดนตรีแล้ว ก็ยังได้ฝากฝีมือไว้ในละครยอดนิยมอย่าง "The Heirs" พร้อมแจ้งเกิดกับบท ยุนชันยอง แฟนหนุ่มแสนดีของ อีโบนา ที่แสดงโดยสาว "คริสตัล" (Krystal) หรือ "จองซูจอง" (Jung Soo Jung) ทำเอาแฟนๆ หลงรักหนุ่มสาวคู่นี้กันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียว

ล่าสุดหนุ่ม มินฮยอก ได้บินเดี่ยวมาพบกับแฟนๆ ชาวไทยในงาน "Kang Min Hyuk From CNBLUE 1st Fan Meeting in Thailand 2015 The Moment" โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวันในวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 มือกลองหนุ่มได้มาให้สัมภาษณ์อย่างสนุกสนานเป็นกันเอง ถึงความรู้สึกในการมาพบปะแฟนๆ ครั้งนี้ บริเวณลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่ามกลางแฟนๆ ที่มาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม

ทักทายกันหน่อย

"สวัสดีครับ ผมมินฮยอก ตีกลองครับ (ภาษาไทย) ผมมีอะไรจะบอกครับ ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะครับ คิดถึงมากครับ (ภาษาไทย)"

ถ้าแฟนๆ ยิ้มให้ มินฮยอก ก็จะยิ้มตอบเหมือนกันใช่ไหม

"ไม่ใช่แค่ตอนนี้นะครับ จนถึงจบงานผมจะยิ้มตลอดเลย เพราะว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากครับ ผมรู้สึกได้ถึงความรักของทุกคนที่ส่งมาถึงเวทีนี้อบอุ่นมากๆ ครับ"

ครั้งนี้เป็นการฉายเดี่ยวมาไทยครั้งแรก รู้สึกเหงาไหม

"เมื่อกี้ผมลงมาจากรถแล้วเดินมาหลังเวทีรอแสตนด์บายอยู่ แล้วพอเรียกชื่อผมก็จะมีเพลงของซีเอ็นบลูดังขึ้นมา มีเพลงซีเอ็นบลูแต่ผมยืนคนเดียวก็คิดถึงสมาชิกคนอื่นเหมือนกันครับ พอผมนั่งอยู่ตรงนี้ก็จะเห็นแฟนคลับทุกคน แล้วก็มีป้ายซีเอ็นบลู มีเพลงของซีเอ็นบลู ผมรู้สึกดีมาก เพราะว่าผมมาที่ประเทศไทยก็เหมือนเป็นตัวแทนของซีเอ็นบลู แล้วที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะว่าความรักของทุกคนที่ให้กับซีเอ็นบลู ทำให้ผมมีโอกาสได้จัดงานแฟนมีตติ้งคนเดียวด้วยครับ"

ครั้งนี้มาคนเดียว ครั้งหน้าจะมาทั้งวงเลยไหม

"เร็วๆ นี้ครับผมก็จะมาพร้อมเพื่อนๆ ซีเอ็นบลูทุกคนเลย"

อยากทราบถึงช่วงเวลาที่ประทับใจของ มินฮยอก

"ผมมีช่วงเวลาที่ผมลืมไม่ได้ต้องย้อนไปถึงปี 2010 เดือนที่ 1 วันที่ 14 เป็นวันที่มีโชว์เคสของซีเอ็นบลูครับ แล้วช่วงก่อนเริ่มทำการแสดง จะมีผ้าปิดบนเวทีแล้วผมยืนอยู่หลังผ้าผืนนั้นครับ บนผ้าจะมียิงโปรเจกเตอร์เป็นมิวสิกวิดีโอของซีเอ็นเอ็นบลู แล้วทุกคนก็ยืนอยู่หลังผ้าตอนนั้นผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงมากครับ เป็นช่วงเวลาที่ผมลืมไม่ได้เลย รู้สึกเหมือนเบลอๆ ว่าเราอยู่ที่ไหน เรากำลังทำอะไรอยู่ คือผมสับสนไปหมด ผมยังจำความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงในวันนั้นได้ครับ"

แล้วช่วงเวลาที่เศร้าที่สุดเป็นอย่างไร

"ยังไม่มีโมเมนต์ไหนที่เศร้าขนาดนั้นครับ"

ในงานแฟนมีตติ้งจะมอบช่วงเวลาแบบไหนให้กับแฟนๆ

"ยังไงก็เป็นงานแฟนมีตติ้งของผมครั้งแรกในประเทศไทยที่จะได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ชาวไทย จะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะพลาดทุกวินาทีไปไม่ได้เลย แล้ววทุกคนก็จะไม่มีวันลืมครับ"

ก่อนหน้านี้ มินฮยอก เคยใช้ชีวิตร่วมกับเพื่อนๆ ในวง พอต้องออกมาอยู่คนเดียวรู้สึกอย่างไร

"แต่ก่อนที่อยู่หอด้วยกัน อยู่ดีๆ เราจะไปดูหนังเราก็ชวนกันไป เราจะไปเที่ยวกันเราก็ชวนกันไปเที่ยว หรือว่าไปเล่นบาสกันครับ แต่ว่าตอนนี้ผมอยู่คนเดียว นานๆ ทีจะได้เจอเพื่อนๆ ในวงครับ ผมก็รู้สึกว่าพวกเราเป็นมิตรกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น ทีมเวิร์กก็ดีขึ้นครับ เพราะว่าแต่ละคนก็จะได้มีเวลาส่วนตัวด้วยครับ"

มินฮยอก ชอบทำอาหารหรือ

"คือผมเป็นคนชอบอัพรูปครับ เวลาทำอะไรที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ แล้วก็พอทำอาหารเมนูใหม่ก็เลยถ่ายรูปลงเอสเอ็นเอส อาจจะเป็นเพราะว่ามีหลายคนที่ติดตามเยอะก็เลยเห็นว่าผมทำอาหารเก่งหรือเปล่า ผมเป็นคนที่ชอบลองเมนูใหม่ๆ ครับมันสนุกมาก เมื่อไม่นานมานี้ผมลองทำซุปสาหร่าย แล้วก็เคยทำบุลโกกิ (เนื้อหมักซีอิ๊วเกาหลี) ตามสูตรในอินเตอร์เน็ตที่จดมาครับ ผมว่าก็ไม่เลวนะ ทำไม่ยากด้วยครับ"

ทำเองกินเองหรือเปล่า

"ผมก็เสียใจตรงที่ไม่มีเพื่อนกินด้วยครับ เพราะว่าถ้าเกิดผมทำแล้วไม่อร่อยก็โอเคกินคนเดียวไม่อร่อย แต่ว่าเมนูนี้ที่เราทำเองอร่อยนะ ก็เสียดายจริงๆ ที่ไม่มีเพื่อนมาชิมครับ อย่างทเว็นจังจีแก (ซุปเต้าเจี้ยวเกาหลี) เมนูนี้ผมมั่นใจมากครับ ผมเคยทำให้เพื่อนกิน เขากินข้าวไป 2 ถ้วยเลยครับ"

ได้ยินว่า มินฮยอก ชอบดูดอกไม้ คิดว่าดอกไม้ชนิดไหนเหมาะสมกับแฟนๆ ชาวไทยมากที่สุด

คำถามยากมากเลยครับ (หัวเราะ) ผมเป็นคนที่ชอบดอกไม้มากครับ แต่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่รู้ชื่อดอกไม้ทั้งหมด เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ผมบอกทุกคนว่าผมชอบมากๆ ชื่อว่าดอกสแตติส ดอกไม้ชนิดนี้ตอนที่มันสด หรือตอนที่มันแห้งหน้าตาจะเหมือนกัน มันจะไม่เปลี่ยนแปลง น่าจะเหมือนกับบอยซ์ไทยแลนด์หรือว่าบอยซ์ (ชื่อเรียกแฟนคลับ ซีเอ็นบลู) ทุกคนที่เป็นเหมือนกันไม่มีเปลี่ยนครับ พอผมเห็นดอกสแตติสแล้ว คือดอกไม้ดอกนี้ไม่ได้ใหญ่แค่ดอกเดียวเหมือนกุหลาบ แต่มันเป็นดอกเล็กๆ ที่อยู่รวมกันหลายๆ ดอกจึงทำให้มันเป็นดอกไม้ที่สวยงามครับ สีมันก็ออกฟ้าๆ ม่วงๆ ผมจำได้เวลาแสดงคอนเสิร์ต แฟนๆ จะถือแท่งไฟสีฟ้า น้ำเงิน ผมว่ามันคล้ายกันมากครับ

ถามถึงแมวของ มินฮยอก สักหน่อย ชิชิ กับ ตาต้า มีนิสัยอย่างไรกันบ้าง

"ชิชิเป็นน้องเล็กครับ แล้วรู้ว่าตัวเองเป็นน้องเล็ก เขาจะขี้อ้อนน่ารักตลอด แต่จะเป็นตัวแสบเพราะเขาจะรู้ว่าเขาต้องทำแบบไหนยังไงถึงจะมีคนมารักครับ เขาฉลาด แล้วเวลาจะถ่ายรูปเขาชอบทำหน้าเหมือนบริสุทธิ์ครับ แบบเธอจะทำอะไรฉันเหรอ แล้วก็ตะกละครับ เวลาเห็นของกินนี่เขาจะตะกละมาก ส่วนตาต้าเป็นพี่ครับ เขาจะเป็นคนที่เรียบร้อย เงียบๆ และขี้กลัวครับ พอได้ยินเสียงดังๆ เขาจะวิ่งหนีเลยครับ ผมรักตาต้ามากกว่าครับเพราะว่าเหมือนเป็นลูกคนแรก"

วันเกิดในปีนี้ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตั้งใจจะทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง

"ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากนะครับเพราะว่าอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร แต่สิ่งที่พิเศษที่สุดก็คือได้มีปาร์ตี้ฉลองกับแฟนคลับอย่างใกล้ชิด สิ่งนั้นเป็นวันเกิดที่พิเศษสุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาครับ วันเกิดที่ผ่านมาที่ผมได้ฉลองกับแฟนๆ ตอนนั้นมีแฟนคลับประมาณ 150 คนครับผมก็มีความสุขมาก ถ้าได้ฉลองวันเกิดในประเทศไทยกับแฟนคลับเยอะขนาดนี้ก็คงมีความสุขมากๆ แค่คิดก็ประทับใจแล้วครับ"

คิดว่าตัวเองเหมือนกับตัวละคร ยุนชันยอง จากเรื่อง The Heirs ไหม

"ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ว่าตอนที่แสดงผมอินกับยุนชันยองมากๆ เพื่อนๆ รอบตัวผมก็บอกว่าคล้ายมากถ้าจะให้พูดก็คงเป็นเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษครับ"

ถ้าในชีวิตจริงมีแฟนสาวนิสัยเหมือน อีโบนา จากเรื่อง The Heirs จริงๆ จะรับได้หรือเปล่า

"ถ้างอแงแบบอีโบนาในบท อันนั้นโอเคครับไม่มีปัญหา แต่ถ้ามากกว่านี้ผมก็น่าจะเหนื่อยเหมือนกันครับ ถ้าเป็นผู้หญิงที่ผมรัก แล้วเป็นแฟนที่รักมากๆ ถ้าแฟนงอแงผมก็คงตามใจหมดเลยครับ มีคนบอกว่าหน้าก็ต้องสวยก่อนหรือเปล่า แต่ว่าถ้าผมรักใครเขาจะทำอะไรก็สวยหมดแหละครับ อันนี้พูดจากใจจริงๆ นะครับ"

ช่วงเวลาไหนในละคร The Heirs ที่รู้สึกประทับใจ

"อาจจะเป็นช่วงแรกๆ ของ The Heirs ครับ เป็นฉากที่ผมต้องรอคุณปาร์กชินเฮ (Park Shin Hye) ในเรื่อง แล้วผมอยู่กับอีโบนา หรือคุณคริสตัลครับ พอคุยกันผมก็เหมือนลูบหัวเขา ซึ่งทีแรกผมเข้าใจผิดว่าคัตไปแล้วครับก็เลยทำตามสบาย แต่ว่าตอนนั้นที่ออกมาในละครมันดูเป็นธรรมชาติมาก ตอนนั้นเลยเป็นตอนที่ผมจำได้เพราะว่ายังตื่นเต้นอยู่มากๆ เลยครับ"

ที่ไทยจะถึงวันแม่ในวันที่ 12 สิงหาคม อยากฝากอะไรถึงคุณแม่ และลูกๆ ที่เป็นแฟนคลับ

"คำที่บอกทุกสิ่งให้กับคุณแม่ได้ก็คือ ขอบคุณครับ กับ รักนะครับ แต่ว่า 2 คำนี้เป็นคำที่พูดยากมากกับคุณแม่ ทุกคนน่าจะรู้นะครับ ใจเราอาจจะพูดแต่ว่าพูดออกมาจากปากมันยากมากจริงๆ ผมยืนอยู่บนเวทีก็พูดใส่ไมค์ได้เลยว่าขอบคุณคุณแม่ทุกคน ผมรักคุณแม่ทุกคน แต่ถ้าไปเจอคุณแม่จริงๆ ผมไม่ค่อยกล้าพูดเท่าไรครับ ในใจผมพูดตลอดแต่ว่ามันพูดออกมายากครับ ถ้าคุณแม่ได้ฟังลูกๆ พูดคำว่า ขอบคุณ กับ คำว่ารัก คุณแม่คงดีใจมากๆ อยากให้ทุกคนอย่าลืมพูดนะครับว่ารักคุณแม่ ขอบคุณคุณแม่ ยิ่งในวันแม่ก็อย่าลืมนะครับ"

แฟนๆ ชาวไทยเรียก มินฮยอก ว่า น้องมิน รู้สึกอย่างไร

"น้องมิน (ภาษาไทย) ชอบนะครับ น่ารักดี (แฟนๆ เรียก น้องมิน พร้อมกัน) ครับผม รักนะรู้ยัง (ภาษาไทย)"

อยากให้ มินฮยอก ฝากถึงงานแฟนมีตติ้ง

"ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับที่มาในงานวันนี้ แล้วก็พรุ่งนี้อย่าลืมมาให้กำลังใจกันเยอะๆ มามีความสุขด้วยกันเยอะๆ นะครับ รักมากๆ แล้วก็ขอบคุณมากๆ เจอกันพรุ่งนี้ครับ"

บรรยากาศงาน Kang Min Hyuk From CNBLUE 1st Fan Meeting in Thailand 2015 The Moment ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ณ บางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เริ่มต้นโอบล้อมความรักไปทั่วบริเวณกับเพลง "I'm in Love" จากเสียงร้องของหนุ่ม มินฮยอก หลังจากทักทายพอหอมปากหอมคอก็เริ่มเข้าช่วงพูดคุย โดยมีวิดีโอทักทายจากเพื่อนร่วมวง ด้วยเหตุนี้จึงมีคำถามถามว่า "ถ้าให้มินฮยอกเป็นคนอื่นในซีเอ็นบลูได้หนึ่งวัน คุณอยากเป็นใคร" มินฮยอก คิดอยู่พักหนึ่งก่อนตอบว่า "อยากเป็น พี่ยงฮวา (Jung Yong Hwa) เพราะพี่เขาเสียงเพราะ เขียนเพลงเก่ง แล้วก็ร้องเพลงเก่งมากครับ"

ภายในงาน มินฮยอก ยังมีของขวัญสุดพิเศษเตรียมมาให้แฟนชาวไทย นั่นคือ การตกแต่งหน้าเค้กเป็นรูป มินฮยอก ชิชิ ตาต้า และดอกไม้สีเหลือง ซึ่งหนุ่มคนนี้ก็ตั้งใจเหลือเกิน ถึงกระนั้นตอนมอบเค้ก มินฮยอก ก็บอกกับผู้โชคดีว่า "ที่จริงอยากทำให้สวยกว่านี้ แต่ก็ได้แค่นี้จริงๆ ทำจากใจเลยนะครับ ดีใจด้วยครับ" และยังไม่หนำใจเจ้าตัวขอแจกผ้ากันเปื้อนพร้อมลายเซ็น และมอบไม้กลองคู่ใจที่เหลือเพียงคู่เดียวไม่มีผลิตแล้วให้กับผู้โชคดีด้วย ก็ทำเอาผู้รับชื่นมื่นไปตามระเบียบ

มินฮยอก กล่าวว่า "ขอบคุณทุกคนมากนะครับ นี่เป็นแฟนมีตครั้งแรก ผมอาจจะยังดีไม่พอ แต่ผมก็ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก ตั้งใจเตรียมตัวมากๆ ทุกคนรู้สึกยังไงบ้าง ชอบไหมครับ วันนี้ผมตั้งใจอยากมอบความสุขให้ทุกคน ถ้ามีข้อผิดพลาดก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ขอบคุณซีเอ็นบลูที่ทำให้ผมได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณทุกคนที่รักผม ขอบคุณจริงๆ ครับ" แต่ก่อนจะจากกัน มินฮยอก ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปร่วมกับแฟนคลับชาวไทยเป็นที่ระลึก และแน่นอนว่าต้องมีฉากเด็ดกับท่ากระโดดอันเป็นเอกลักษณ์

และทันทีที่ มินฮยอก กล่าวลา บอยซ์ไทยก็ผสานใจกันร้องเรียก คังมินฮยอก ไม่นานนักก็ได้ยินคำบอกรักเป็นภาษาไทย "รักนะ รู้ยัง" พริบตานั้น มินฮยอก ก็ปรากฏกายบนเวทีในชุดเสื้อยืดสบายๆ กับเพลง "Star" เพลงประจำตัวของเขา แฟนๆ หยิบดาวสีเงินในมือขึ้นโบกตามจังหวะเพลง และช่วยกันร้องไปจนจบ หลังเลิกงานยังคงมีกิจกรรมแปะมือทุกที่นั่ง นอกจากนั้นยังมีแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้รับสิทธิ์ถ่ายภาพหมู่และรับลายเซ็นแบบสดๆ จาก มินฮยอก อีกด้วย