เดอะเวิร์ดอะไลฟ์ ปลดปล่อยค่ำคืนแห่งจังหวะเร้าใจ
"เดอะเวิร์ดอะไลฟ์" (The Word Alive) วงเมทัลคอร์สุดร้อนแรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วย นักร้องนำ "เทลล์ สมิธ" (Telle Smith) หรือ "ไทเลอร์ สมิธ" (Tyler Smith) มือเบส "แดเนียล ชาพิโร" (Daniel Shapiro) "ลุก ฮอลล์แลนด์" (Luke Holland) ประจำที่กลอง และ "โทนี พิซซูติ" (Tony Pizzuti) กับ "แซก ฮานเซน" (Zack Hansen) ในตำแหน่งกีตาร์ กับการตะลุยแถบเอเชียครั้งแรกของวง ซึ่งเวียนมาถึงประเทศไทยแล้วในงาน "The Word Alive Live In Bangkok" โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2558 ณ เดอะร็อคผับ ย่านราชเทวี
งานนี้สาวกดนตรีเมทัลชาวไทยก็ไม่มีพลาดตบเท้าเข้ามาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เดอะเวิร์ดอะไลฟ์ เปิดค่ำคืนแห่งความมันด้วยเพลงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่าง "Dragon Spell" ต่อเนื่องไปกับเพลง "2012" จากนั้นหนุ่ม เทลล์ ก็กล่าวทักทายแฟนๆ ว่า "สนุกกันไหมทุกคน นี่เป็นครั้งแรกของพวกเราจริงๆ ในประเทศไทย พวกเราอยู่ที่นี่แล้วเพื่อพวกคุณ มันก็ผ่านมา 7 ปีนะครับตั้งแต่อัลบั้มแรก ในที่สุดก็ได้มาเล่นให้พวกคุณได้ฟัง ขอบคุณมากๆ ที่สนับสนุนพวกเราตลอดมาครับ เพลงต่อไปเป็นเพลงใหม่ Play The Victim ครับ" ไม่รอช้าหนุ่มๆ ก็จัดหนักในเพลง "Play The Victim" ให้แฟนๆ ได้โยกกันอย่างสนุกสนานถึงใจ
ไปต่อกันที่เพลง "Lighthouse" กับท่วงทำนองอันหนักแน่น ซึ่งหนุ่ม เทลล์ ชักนำให้แฟนๆ ร้องตามกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งหลังจบเพลงนักร้องนำมาดเท่ถึงกับเอ่ยปากชม "พวกคุณน่าทึ่งมาก ไม่เคยมีใครร้องเพลงนี้ได้ดังขนาดนี้มาก่อน ขอบคุณมากครับประเทศไทย ใครเป็นแฟนเพลงมาตั้งแต่อัลบั้มชุด Deceiver บ้าง เราเตรียมอะไรมาแสดงเพื่อคุณนะ เพลงต่อไปเป็นเพลงที่ 1 ของอัลบั้มแรก เราจะเล่นเพลงนี้ตอบแทนคุณสำหรับการสนับสนุนพวกเรา เพลงนี้คือ The Hounds Of Anubis" หลังจากจบเพลง "The Hounds Of Anubis" ทางวงก็ชวนแฟนๆ ยกมือขึ้นสูงและตบมือเข้าจังหวะไปกับเพลง "Evolution" ตามด้วยเพลงสุดมัน "The Wretched"
ความสนุกยังไม่หมดเพียงเท่านี้เมื่อ ลุก มือกลองหนุ่มได้วาดลวดลายสุดเท่กับการแสดงเดี่ยวกลอง ในเพลง "Dirty Vibes" ของวง "สกริลเลกซ์" (Skrillex) จากนั้นไปสัมผัสเสียงร้องอันทรงพลังกับเพลง "Entirety" ต่อด้วย "Never Forget" และ "Glass Castle" ซึ่งเป็นอีก 2 เพลงสุดมันที่ขนมาจากอัลบั้ม "Real" ความสนุกดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ซึ่งหนุ่มๆ ได้เตรียมเพลงสนุกๆ "Life Cycles" มาให้แฟนๆ ได้ปลดปล่อยตัวตน กระโดดกันให้สุดแรง ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยเพลงจังหวะหนักๆ "Casanova Rodeo"