1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

ออน ละอองฟอง ควงแฟนหนุ่มฉลองวิวาห์สุดครื้นเครง

ออน ละอองฟอง ควงแฟนหนุ่มฉลองวิวาห์สุดครื้นเครง

สาวเสียงหวาน "ออน - กรกมล ชัยวัฒนเมธิน" นักร้องนำวง "ละอองฟอง" (La-Ong-Fong) ควงคู่มากับแฟนหนุ่ม "พิ - พิริยะ วัชจิตพันธ์" ผู้บริหารบริษัท เจ้าพระยาทัวริสโบ๊ท จำกัด เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างชื่นมื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากทั้งคู่คบหาดูใจกันประมาณ 2 ปี และได้เข้าพิธีหมั้นตามประเพณีในวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากนั้นในวันที่ 14 ธันวาคม 2557 เป็นการจัดงานฉลองพิธีมงคลสมรสอย่างรื่นเริง ณ ท่ามหาราช ซึ่งเป็นสถานที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยงานนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ออกมาให้สัมภาษณ์คู่กัน เพื่อเปิดเผยถึงเรื่องราวความรักของพวกเขาอีกด้วย

งานแต่งงานเป็นอย่างไร

ออน "วันนี้เป็นวันที่มีพิธีรีเซปชัน (Wedding Reception) ของพวกเรา จริงๆ แล้วเมื่อวานเป็นวันที่พวกเราแต่งงานกันจริงๆ ก็มีพิธีที่ครอบครัวทั้งสองฝั่งมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน"

พิ "เมื่อวานจัดเป็นงานเช้าครับ ก็เป็นจัดงานแบบไทยๆ ก็จัดที่บ้านไทยที่นครชัยศรีนะครับ ก็มีพิธีแห่ขันหมาก มีผ่านประตูต่างๆ แล้วก็มีรดน้ำสังข์ แล้วก็มีพิธียกน้ำชาในช่วงเช้า ก็จะเน้นเชิญแขกผู้ใหญ่เป็นหลัก ส่วนวันนี้ก็จะเชิญแขกวัยรุ่นแล้วก็ผู้ใหญ่ที่ยังหัวใจวัยรุ่นมาจอยงานเย็นของเราวันนี้ครับ"

ออน แต่งงานแล้วมีความสุขอย่างไรบ้าง

ออน "ก็เรียกว่าแฮปปี้ค่ะ ช่วงนี้นี่หลายคนรอบๆ ข้างจะทักว่าดูมีความสุข ก็ยังตื่นเต้นอยู่ค่ะ ตื่นเต้นอยู่เรื่อยๆ ก็ยังกังวลว่าทุกคนจะแฮปปี้ไหม เพราะว่าจริงๆ งานวันนี้ที่ตั้งใจจะจัด คือเราจะจัดให้กับคนที่เรารัก คนที่รักเรา มารวมตัวกัน คือจริงๆ มันมีแค่ 2 งานเท่านั้นที่คนรักเรามารวมตัวกัน คืองานแต่งกับงานศพ ซึ่งงานศพ เราจะไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะฉะนั้นตอนที่เราคุยกันว่าอยากจะทำงานแต่ง เราก็คุยกันว่าเราจะทำธีมอะไรค่ะ เราก็ได้ข้อสรุปว่าเราอยากจะทำงานนี้ ให้คนที่มางานทุกคนที่รักเราและคนที่เรารักมีความสุขและรอยยิ้มกลับไป"

รูปแบบของงานแต่งงานเป็นแบบไหน

พิ "รายละเอียดงานนี่ก็งงๆ เหมือนกันครับ คนจัดเองก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร ก็เคยคุยกับเพื่อนว่า น่าจะเรียกว่า ปาหี่นานาชาติ เพราะว่ามันรวมทุกชาติ กิจกรรมเยอะไปหมด แล้วดูจากการ์ดเชิญเราแล้วเนี่ย เราจะใส่กิจกรรมที่เราทำในวันนี้ลงไปเยอะแยะไปหมด ยกตัวอย่างเช่นเราก็จะมีกายกรรม มีสวนสัตว์เล็กๆ มีโชว์ไดโนเสาร์ มีคอนเสิร์ต มีนั่งเรือชมวิว แล้วก็ที่สำคัญที่สุดคือมีทำบุญ รายละเอียดของการทำบุญเป็นยังไงบ้างออน"

ออน "ก็เป็นเลิฟแอนด์แชร์นะคะ คือเราก็คุยกันว่าไหนๆ เนี่ยเรามามีความสุขด้วยกันแล้ว เราน่าจะแชร์ความสุขนี้ให้กับคนอื่นอีกค่ะ ก็เลยเราจะมีทำจับสลากการกุศล ซึ่งเงินทำบุญที่ได้นะคะ จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิเกี่ยวกับผู้ป่วยมะเร็งผู้ยากไร้ 3 โรงพยาบาลค่ะ โรงพยาบาลศิริราช รามาฯ แล้วก็สถาบันมะเร็งแห่งชาติค่ะ ก็เป็นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทุกคนจะได้ผลบุญทันตาเลย พอซื้อสลากทำบุญปุ๊บก็จะได้ของรางวัลที่เกี่ยวกับเราสองคนมอบให้เลย มูลค่ามากกว่าที่ลงทำบุญ แล้วก็จะไปลุ้นผลบุญหล่นทับในงาน เป็นตั๋วเครื่องบินไปที่ไหนก็ได้ที่ชอบๆ (หัวเราะ)"

พิ "ครับ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น"

บททดสอบความรัก

พิ "คือเราสองคนนี่บททดสอบก็ค่อนข้างไม่มาก เพราะว่าเราไม่เคยทะเลาะกันครับ ก็คือเจอกันตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใดๆ ทั้งสิ้น ทุกๆ วันก็รักใคร่กันดีครับ ก็เลยดูแล้วน่าจะอยู่ด้วยกันได้ยั่งยืน"

ออน "ใช่ค่ะ คือเราจะรู้จังหวะกันว่าเมื่อคนหนึ่งเริ่มโมโหอีกคนก็จะหยุด แล้วก็จะมีการเหมือนเปิดเผยเคล็ดลับกันตั้งแต่ต้นนะคะว่าเราเป็นคนยังไง คุณเป็นคนยังไง แล้วก็เหมือนกับพอเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันว่าเราพยายามที่จะทำให้ความสัมพันธ์นี้มันไปรอด แล้วทั้งสองคนก็รู้ว่าแต่ละคนเนี่ยเราก็หวังดีต่อกัน เพราะฉะนั้นมันก็เลยไม่มีเรื่องทะเลาะกันค่ะ"

มาเจอกันได้อย่างไร

พิ "คือผมทำธุรกิจเรือโดยสารอยู่นะครับ แล้วเผอิญว่ามีวันหนึ่งเนี่ยเขามีรายการมาสัมภาษณ์ผมในเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด กิจกรรมทำบุญครับ แล้วก็แจ้งมาว่ามีพิธีกรคือคุณออน ละอองฟอง มาสัมภาษณ์ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครครับ ออน ละอองฟอง ใครก็ไม่รู้ ทางออฟฟิศผมเขาก็เลยไปเสิร์ชรูปในเน็ตมา ซึ่งเป็นรูปที่ดูไม่ได้ มันเป็นรูปคุณออน ละอองฟอง ใส่วิกประหลาด ไม่ใช่คนปกติที่จะใส่กันนะครับ ผมก็ว่าคงไม่ใช่คนปกติแน่ๆ แต่ว่าในเมื่อวันนั้นไม่มีใคร ผมก็เลยจำเป็นที่จะต้องไปสัมภาษณ์ เขาก็สัมภาษณ์ผมครับ แล้วในวันแรกที่สัมภาษณ์ ทีมงานที่มาสัมภาษณ์ก็ค่อนข้างจะไม่พร้อมเท่าไร โดยนำกล้องมาแค่ตัวเดียว เพราะฉะนั้นมันจะถ่ายหลายเทกมาก แล้วเขาก็บังคับให้ผมสบตาคุณออนตลอดเวลาเป็นชั่วโมงครับ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร การที่เราจะมองหน้าเขาไปสักชั่วโมง ทำให้เราเริ่มระทวย พอเราเริ่มระทวยเนี่ยเราก็เกิดความสนใจ แล้วก็ได้คุยกันต่อๆ มา ก็เทียวไล้เทียวขื่อไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างเทียวไล้เทียวขื่อนะครับ ผมไม่ได้จีบคนเดียว"

ออน "ทางฝั่งออนก็ต้องบอกว่าคนนี้นี่คือมีท่านส่งมาให้นะคะ พอดีว่าหนัง Iron Man (Iron Man 3) ภาคล่าสุดเข้าฉาย แล้วก็เราก็นัดกับเพื่อนแก๊งไปดู แล้วเพื่อนก็เป็นคนชวนว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะ ไปขอพรกันไหม เราก็แบบเหรอจริงเหรอ เรื่องอย่างนี้มีจริงด้วยเหรอ ไม่น่าจะจริงนะ ก็เลยไปขอพรท่านแล้วก็เหมือนกับกึ่งท้าด้วยนะ แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านมีจริงไหมนะ ไม่ได้ลบหลู่นะคะท่าน แต่ว่าถ้าท่านมีจริงช่วยส่งแบบไอรอนแมนมาให้หนูคนหนึ่งเถิด ก็พออินเนี่ยออกจากโรงหนังมาเราก็ไปขอต่อ แล้วก็วันนั้นวันพฤหัสฯ ใช่ไหมคะหนังเข้าวันแรก วันจันทร์ต่อมาก็ไปสัมภาษณ์เขา ก็เลยได้ไอรอนแมนมาคนหนึ่ง"

แปลว่าไปบนบานถึงได้มา

ออน "มันประหลาดมาก เพราะวันนั้นไปประมาณ 6-7 คนค่ะ แล้วก็จะมีโพยที่แบบเวลาต้องซื้อดอกกุหลาบแดง ต้องอะไรแบบนี้ตามตำราใช่ไหมคะ มันก็จะมีโพยที่เป็นบทสวดมนต์อยู่หน้าพระตรีฯ (พระตรีมูรติ) นะคะ หลายฉบับ เราก็หยิบทุกฉบับนั่นแหละแล้วเราก็สวดมนต์ มันก็เป็นภาษาสวดมนต์นะคะ แต่แผ่นสุดท้ายเนี่ยเราสวดไปสองประโยคแล้วก็เอ้ยมันเป็นเพลงนี่นา เราก็เลยร้องเพลง ร้องเพลงให้ท่านฟัง แล้วเสร็จแล้วก็ไม่คิดว่ามีอะไร แต่ออกมาก็คือคุยกับเพื่อนทุกคนว่าเมื่อกี้หยิบได้ใบเดียวกับเราหรือเปล่า ไม่มีใครได้ใบเดียวกับเราเลย แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งเจอเขาแล้วก็คุยกันมาสักพัก เราก็เริ่มรู้สึกว่าหรือว่าพรที่เราขอจะเป็นจริง"

คบกันมากี่ปี

ออน "ก็ 2 ปีเนอะ ประมาณ 2 ปี"

ประทับใจกันและกันตรงไหน

ออน "คือเขาเป็นคนมีกิจกรรมเยอะ สิ่งที่เราจัดในงานทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเราสองคนทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นมินิซูต่างๆ ไดโนเสาร์หรือทั้งหมดทั้งสิ้น แล้วก็ใช้ชีวิตแบบที่เอ็นจอยกับมัน สนุกกับมัน แล้วก็เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยว่าร้ายใครเลยสักคนค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ออนประทับใจ"

พิ "คือน้องออนเนี่ย เขาเป็นคนดูจากภายนอก ดูจากที่เสิร์ชในกูเกิลตอนแรกนะครับ เป็นคนไม่ปกติ เป็นคนที่น่าจะเพี้ยนหน่อยๆ แต่พอได้เจอกันเลยได้รู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้างธรรมดามาก ชีวิตปกติ ไม่ได้ใช้ชีวิตหวือหวาประหลาดอย่างที่เราเห็นในกูเกิล หรือว่าในมิวสิกวิดีโอ คือเป็นคนที่แบบเรียบๆ ง่ายๆ อยู่ง่ายกินง่าย แล้วเราอยู่ด้วยเราก็แฮปปี้ แล้วเขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีครับ คือเขาไม่ค่อยเป็นคนหงุดหงิด เขาจะเป็นคนอารมณ์ดี แล้วก็จะเหมือนกับพูดเกี่ยวกับคนอื่นในสิ่งดีๆ ตลอดเวลา ทำให้ทุกๆ วันเราก็รู้สึกว่าไม่มีเรื่องเครียดอะไร แล้วก็เนื่องจากเขาเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย ก็ดูวี่แววแล้วน่าจะอยู่กันได้ยาวๆ นานๆ ถ้าเกิดบางทีเราเจอความรักที่มันหวือหวา เจออะไรที่เห็นครั้งแรกแล้วปิ๊ง แล้วเหมือนชอบมากอย่างนี้ อะไรที่มันหวือหวามากๆ มักจะแบบอยู่ได้ไม่ยั่งยืน เหมือนกินอะไรที่เผ็ดๆ แล้วกินได้แป๊บเดียว แต่สมมติเรากินข้าวไข่เจียวเนี่ยเรากินได้ทุกวันจนแก่ เขาก็เหมือนข้าวไข่เจียวครับ ก็คือผมก็อยู่กับข้าวไข่เจียวได้ทุกวัน"

ขอแต่งงานกันอย่างไร

พิ "ไม่ได้เชิงขอครับ คือว่าตั้งแต่เราคบกันแต่แรก น้องออนเขามีเหมือนกับความฝันไว้ในใจอย่างหนึ่งว่าเขาจะต้องแต่งงานก่อนอายุ 30 ซึ่งตอนที่เขามาคบผมก็ 29 แล้ว แล้วผมก็โอเคสัญญากับเขาไว้อย่างนั้น เพราะตอนนั้นมันก็ใกล้ที่เขาจะ 30 มากเข้าเต็มทีแล้ว เราก็เลยบอกเขาไว้ตั้งแต่ตอนเราจะคบกันว่ายังไงก่อน 30 เราแต่งงานกัน เราก็เลยมาคุยว่าเราไม่ผิดสัญญานะ รักษาสัญญาว่าได้แต่งงานก่อน 30 แน่นอน"

ออน "(หัวเราะ) ค่ะ เขาจะพูดเรื่อยๆ ว่าไม่ต้องห่วงนะ ใกล้ 30 แล้ว บางทีเขาก็จะเหมือนกับขู่ เลข 3 แล้วนะ"

งานหมั้นมีอะไร ซึ้งๆ บ้างไหม

ออน "ก็เมื่อวานนี้เนี่ย คือจริงๆ เราเจอกันเมื่อวันที่ 13 แล้วก็วันที่ 13 จะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นทุกๆ ครั้งนะคะ เราก็คุยกันว่าเราจะทำให้ความรักของเราไม่จืดชืด โดยการเราก็ต้องพยายามเติมความรักให้กันทุกๆ เดือน เมื่อวานนี้นี่คือความประทับใจออนนะยังไม่ได้บอก ตอนที่สินสอดที่ให้ พี่บอกว่าทุกวันที่ 13 พี่ก็จะมีของขวัญให้ ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยพี่พิให้อยู่แล้ว แล้วเมื่อวานพี่บอกว่าวันที่ 13 พี่ไม่มีอะไรให้หนูออน แต่พี่ให้ทั้งชีวิต เมื่อวานเขาพูดค่ะ ซึ้งค่ะ ซึ้ง เขาเป็นคนน่ารักนี่แหละ เขาเป็นคนน่ารักแบบนี้ แล้วก็ทั้งครอบครัวออนทุกคนสัมผัสได้ อย่างคุณพ่อเองคุณพ่อก็พูดว่าสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดี"

ทำไมถึงตัดสินใจเลือก ออน เป็นคู่ชีวิต

พิ "ก็เราคิดว่าเราคงอยู่กับคนนี้ได้จนแก่เฒ่าครับ ผมเชื่อว่าเขาเป็นอย่างนี้วันนี้ อีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี หรือ 40 ปีข้างหน้าเขาก็ยังเป็นอย่างนี้ เพราะว่าเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตธรรมดา แล้วก็พูดง่ายๆ คือตั้งแต่เด็กเป็นต้นมา คือเรามองหาคนที่ปกติที่สุด แล้วเขาดูเป็นคนที่ปกติมาก ซึ่งบางมุมเขาอาจจะดูแปลก แต่คือมันก็สนุกดี มันทำให้ชีวิตยิ่งมีสีสัน ซึ่งเขาเป็นคนปกติที่มีสีสันครับ เราว่าเราอยู่ได้ อยู่กับเขาคนนี้ได้จนตลอดไป"

วางแผนอนาคตอย่างไรบ้าง

ออน "ก็พี่เอ๊ะ (พงศ์จักร พิษฐานพร เพื่อนร่วมวง) ถามเหมือนกันนะ ก็สอบถามว่าน้องยังจะร้องเพลงต่ออยู่ไหมนะคะ ละอองฟองเป็นชีวิตออนนะคะ ออนก็จะร้องต่อไป เพราะว่าทุกครั้งเวลาที่ออนร้องเพลง ตั้งแต่ก่อนที่เริ่มเข้ามาทำงานเพลงจนถึงวันนี้ ก็คือมันทำให้ออนมีรอยยิ้มได้ทุกครั้ง แล้วทุกวันนี้ละอองฟองยังทำอย่างนั้นอยู่ แล้วก็หวังว่าสิ่งที่ออนทำจะกลับสู่ละอองแฟน เพราะฉะนั้นไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ เรื่องของมีน้องก็คงจะไว้อีกสักพักเนอะ (หัวเราะ)"

อยากมีลูกเลยไหม

พิ "ยังๆ ดีกว่าครับ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป"

พิ "ผมก็คิดว่าผมจะดูแลน้องออนไปให้ดีที่สุด แล้วก็ตลอดชีวิตที่ผมจะทำได้นะครับ ก็อยากจะบอกทุกคนว่าคนเราเกิดมามันก็ไม่ได้ชีวิตยืนยาวอะไรนะครับ อยากทำอะไรรีบๆ ทำนะครับ ก็ถ้าเจอคนที่ใช่อย่ามัวแต่คิดเยอะ อยู่กับเขาไปเถอะครับ ยังไงเนี่ยโอกาสอาจจะไม่มาครั้งที่สอง เจอคนที่ใช่ก็แนะนำว่าแต่งไปเลยครับ"

สินสอดมูลค่าเท่าไร

ออน "ก็จริงๆ เนี่ยคือมันจะเป็นของประหลาดนะคะ เป็นของแปลก เพราะว่าจะเห็นว่าจากไอเดียพวกเราเนี่ยจะแปลกๆ กันหมดเลย ก็พี่พิก็จะยกแบบมันจะตีมูลค่ายาก ยกตัวอย่างเช่นเป็นแรดพันธุ์ใหม่"

พิ "คือเรื่องมันมีอยู่ว่าปกติในบ้านเราเนี่ยครับ มันจะเจอสัตว์ชนิดใหม่ของโลกอยู่บ่อยๆ แล้วผมก็จะไปเจอสัตว์ชนิดนู้นชนิดนี้ ล่าสุดผมก็เพิ่งตั้งชื่อแรดจิ๋วตัวหนึ่งตามชื่อพ่อของผมไป เพราะว่าไม่มีใครยอมตั้งชื่อแรดเป็นชื่อตัวเอง แล้วก็เนี่ยครับผมก็มีช้าง มีลิง มีอะไรต่างๆ ที่ตั้งชื่อตามคน คือเหมือนเราเวลาค้นพบดาวดวงใหม่ เหมือนเจอดาวเคราะห์ คนที่ค้นพบเนี่ยจะมีสิทธิ์ตั้งชื่อ แล้วผมก็มีแรดอีกหลายชนิด แล้วมันมีตัวหนึ่งที่มันเป็นโคตรแรด ก็คือแรดยักษ์ตัวใหญ่กว่าช้าง ก็เห็นน้องออนเขาอยากจะได้โคตรแรดเป็นชื่อตัวเอง ก็ตอนนี้ก็เลยทำเปเปอร์เขียนขึ้นมาให้แรดเป็นชื่อน้องออนอยู่ ก็รอตีพิมพ์ ต้องรอให้ลงนิตยสารต่างๆ แล้วก็เป็นทางการแล้วก็คงจะเห็นในข่าว"

ออน "ก็จะเป็นแนวอย่างนี้ค่ะ เป็นไอเดียอย่างนี้ อย่างทะเบียนรถค่ะ เพราะว่าอย่างที่บอกว่าเราเจอกันวันที่ 13 แล้วก็อยู่ดีๆ เขาก็เซอร์ไพรส์ ก็คือเอาทะเบียนรถ ธค 13 คือเมื่อวานวันที่เราแต่งงานกัน ก็อยู่ในพานหมั้นด้วยค่ะ เราก็นึกว่ามาแต่ทะเบียน ก็จะมีรถหน้าตา เขาบอกว่ามันเป็นรถที่หน้าตาเหมือนออนก็เลยอยากให้ออนขับ เป็นรถที่หน้าตาดูเบยๆ ดูเหมือนกบ เขาว่าออนหน้าเหมือนกบ รถโบราณค่ะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยอย่างที่บอก เรื่องมูลค่าเราไม่มองกันที่ตัวเงิน สิ่งที่ออนแฮปปี้มากๆ วันนี้คือครอบครัวพี่พิน่ารักมาก วันที่ไปคุยกันนะคะ ครอบครัวออนกับครอบครัวพี่พิไปคุยกัน ครอบครัวออนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร แล้วก็ครอบครัวของพี่พิเขาก็จัดให้อย่างเหมาะสมค่ะ"

แหวนแต่งงานเป็นอย่างไร

ออน "แหวนอันนี้คุณป้าใหญ่ให้นะคะ เป็นคุณป้าของพี่พิ ป้าบอกว่าป้าขออนุญาตดูแล เพราะว่าป้าดูแลหลานๆ ทุกคน เนื่องจากคุณแม่ของพี่พิเสียชีวิตไปตั้งแต่พี่พิอายุ 6 ขวบค่ะ คุณแม่พี่พิก็เป็นตัวเอส เอสแอนด์พี เพราะฉะนั้นเนี่ยป้าใหญ่ก็เลยบอกว่าก็ถือว่าเป็นลูกเป็นหลานป้าใหญ่ ป้าใหญ่ขอดูแล ก็เลยให้ป้าใหญ่ดูแลให้ค่ะ"

อยากสัญญาอะไรกับคุณพ่อของ ออน ไหม

พิ "ก็ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องออนให้ดีครับ ถึงจะดูแลไม่ดีเท่าป๊า แต่ก็จะให้ดีที่สุดเท่าที่ผมทำได้ครับ"

คำมั่นถึงกันและกัน

ออน "ก็อยากจะบอกว่าขอบคุณนะคะที่เข้ามาทำให้ครอบครัวออนทุกคนแฮปปี้ ไม่ใช่แค่ตัวออนนะคะ ก็สัญญาว่าจะรักให้เหมือนวันแรกทุกวัน แล้วก็จะทำให้ดี แบบที่ไม่มีคำว่าเสียดายค่ะ"

งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเริ่มต้นขึ้นโดยการเปิดวีทีอาร์บรรยากาศงานหมั้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2557 จากนั้นพิธีกรก็ได้ขึ้นมาดำเนินรายการและเชิญชวนให้ทุกคนชมละครเวทีเก๋ๆ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของบ่าวสาวคู่นี้ ซึ่งนักแสดงจะเปลี่ยนจุดการแสดงไปถึง 3 เวทีด้วยกันเพื่อความทั่วถึง และทำให้น่าสนใจโดยการเล่นแสงและเงากับการแสดง ต่อด้วยคลิปวิดีโอรายการที่สาว ออน ได้เจอกับหนุ่ม พิ ครั้งแรก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ จากนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ขึ้นมากล่าวทักทายแขกที่มาร่วมงาน โดยพูดถึงรูปแบบงานและชุดฉลองมงคลสมรสอันแหวกแนว โดยหนุ่ม พิ พูดอย่างติดตลกว่า "อันนี้ชุดอยู่บ้านครับ" ก่อนที่เจ้าสาวคนสวยจะอธิบายว่า "คือตอนไปตัดชุดค่ะ ดีไซน์เนอร์ก็พยายามที่จะตัดให้หล่อ พี่พิก็บอกดีไซน์เนอร์ว่าผมไม่ต้องการหล่อขอใส่แบบที่มีทองๆ เยอะๆ ได้ไหมเหมือนเทวดา"

ช่วงต่อมาเป็นการเชิญแขกผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมอวยพรบนเวทีเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่เจ้าบ่าวเจ้าสาว นำโดย "อมเรศ ศิลาอ่อน" คุณลุงของหนุ่ม พิ ต่อด้วยเจ้าของค่ายเพลง สไปร์ซซี่ ดิสก์ อย่าง "เต้ง - พิชัย จิราธิวัฒน์" จากนั้นเป็นการอวยพรจาก "กมล ชัยวัฒนเมธิน" และ "อรุณี ชัยวัฒนเมธิน" คุณพ่อคุณแม่ของสาว ออน ตามด้วยคุณแม่บุญธรรมของเจ้าบ่าว "ประไพ ประสาททองโอสถ" คุณป้าของเจ้าบ่าว "ภัทรา ศิลาอ่อน" รวมถึงเจ้าของท่ามหาราชและเรือด่วนเจ้าพระยา "สุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม" จากนั้นปิดท้ายการอวยพรที่คุณพ่อของเจ้าบ่าว "รองศาสตราจารย์ ดร.พอพันธ์ วัชจิตพันธ์" โดยกล่าวนำทุกคนร่วม "ไชโย" 3 ครั้งและดื่มฉลองให้กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว

จากนั้นเจ้าสาวคนสวยก็สร้างความประทับใจให้กับทุกคน โดยการขับร้องบทเพลงหวานๆ ที่แต่งขึ้นให้กับเจ้าบ่าวถ่ายทอดเรื่องราวความรักของทั้งคู่ออกมาผ่านเสียงเพลง "ขออนุญาตไม่ค่อยอยากจะพูดเท่าไร อยากจะร้องเพลงให้ฟังแล้วกันนะคะ เพลงนี้แต่งพิเศษให้กับพี่พินะคะ แล้วก็เนื้อหาเป็นเรื่องของเรา พี่พิเป็นคนที่ฟ้าส่งมาให้ออน ไม่รู้เซอร์ไพรส์หรือเปล่า (ยิ้ม)" เมื่อทำนองดนตรีมาถึงช่วงท้าย ออน ก็ให้คำสัญญาว่า "จะรักให้เหมือนวันแรกทุกวันนะคะ จะรักและดูแลพี่พิตลอดไป สัญญาว่าจะทำให้ดีในแบบที่ไม่มีคำว่าเสียดาย"

จากอารมณ์ซาบซึ้งในความรัก คู่บ่าวสาวก็พาให้อารมณ์ของแขกเหรื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้งเมื่อมาถึงพิธีตัดเค้กที่ครอบหลอกไว้ด้วยเค้กก้อนใหญ่ แต่เพิ่มอารมณ์ขันไว้ด้วยเค้กถ้วยเล็กน่ารักๆ ที่อยู่ด้านในทำเอาอมยิ้มไปตามๆ กัน เมื่อตัดเค้กเสร็จเรียบร้อบบ่าวสาวก็ลงไปด้านล่างเวทีเพื่อนำเค้กให้ญาติผู้ใหญ่เป็นอันจบพิธีอย่างเป็นทางการ แต่ความสนุกสนานยังคงดำเนินต่อไปเมื่อสองหนุ่ม "เอ๊ะ - พงศ์จักร พิษฐานพร" และ "แมน - ตนุภพ โนทยานนท์" เพื่อนร่วมวง ละอองฟอง ขึ้นมาดำเนินรายการเป็นพิธีกรต่อ ก่อนจะเชิญชวนให้ทุกคนดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีจากเพื่อนๆ ร่วมวงการที่มาขับกล่อมภายในงาน อาทิ "บอย - ตรัย ภูมิรัตน" และ "บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์" เป็นต้น

ในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสุขนี้ ท่ามหาราช ได้จัดซุ้มกิจกรรมมากมายให้ผู้มางานได้สนุกสนานและมีส่วนร่วมไปด้วยกัน อาทิ การเขียนคำอวยพรแด่คู่บ่าวสาวบรรจุใส่ขวดแก้วรูปทรงสวยงาม กิจกรรมเลิฟแอนด์แชร์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งที่ยากไร้ การแสดงกายกรรม การแสดงละครใบ้ การแสดงมายากล และการแสดงสัตว์แปลกๆ หายาก อีกทั้งผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเลือกของตกแต่งมาใช้ประกอบการถ่ายรูปได้ เช่น หน้ากากแฟนซี หนวด หมวก ผม เป็นต้น ส่วนการแต่งกายจะเป็นแนวสร้างสรรค์ หรือย้อนยุค แบบใดชาติใดก็ได้ไม่จำกัด สร้างสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี ส่วนของชำร่วยจะเป็นครีมบำรุงผิวที่คิดค้นเองโดยสาว ออน ที่มีอีกอาชีพหนึ่งคือเภสัชกรอีกด้วย

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60
  • รูปภาพ 61
  • รูปภาพ 62
  • รูปภาพ 63
  • รูปภาพ 64
  • รูปภาพ 65
  • รูปภาพ 66
  • รูปภาพ 67
  • รูปภาพ 68
  • รูปภาพ 69
  • รูปภาพ 70
  • รูปภาพ 71
  • รูปภาพ 72
  • รูปภาพ 73
  • รูปภาพ 74
  • รูปภาพ 75
  • รูปภาพ 76
  • รูปภาพ 77
  • รูปภาพ 78
  • รูปภาพ 79
  • รูปภาพ 80

ความคิดเห็น