ร็อกไม่มียั้งกับ Thirty Seconds To Mars Live In Bangkok
คุ้มค่าสำหรับการรอคอยจริงๆ สำหรับคอนเสิร์ต "Thirty Seconds To Mars Live In Bangkok" ของ 3 หนุ่มร็อก "เธอร์ตี เซเคินด์ส ทู มาร์ส" (Thirty Seconds To Mars) ที่ประกอบไปด้วย "จาเรด เลโต" (Jared Leto) รับหน้าที่ร้องนำ เล่นกีตาร์ เบส และคีย์บอร์ด "แชนนอน เลโต" (Shannon Leto) มือกลองและเพอร์คัสชัน "โทโม มิลิซวิก" (Tomo Milicevic) เล่นกีตาร์ เบส และคีย์บอร์ด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2557 ณ ไบเทค บางนา อาคาร 106
ทั้ง 3 หนุ่มไม่ทำให้ทุกคนต้องรอนานออกมาพร้อมเพลง "Birth" ที่ทำให้แฟนๆ พากันส่งเสียงกรี๊ดแบบไม่ยอมหยุด พร้อมกับทำมือเป็นรูปสามเหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ประจำวง ก่อนที่จะไปสนุกกันต่อกับเพลง "Night Of The Hunter" ที่ จาเรด ทักทายเป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีครับ" ให้แฟนๆ ได้กรี๊ดดังขึ้นไปอีก มาที่เพลงจังหวะเร้าใจ "Search And Destroy" และไปมันแบบไม่มียั้งกับเพลงที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้มชุดที่ 3 อย่าง "This Is War" ที่ระหว่างเพลงมีการปล่อยลูกโป่งหลากสีออกมาให้แฟนๆ ได้เล่นกันอีกด้วย และแน่นอนเมื่อมาถึงเพลง "Kings and Queens" ยังคงมีลูกโป่งลอยละล่อง ต่อเนื่องกับเพลงสุดมัน "Conquistador" แล้ว จาเรด ออกมาพร้อมกับธงชาติไทยโบกสะบัดในเพลง "Do Or Die" และมุ่งตรงไปที่เพลงเบาๆ "City Of Angels"
จาเรด เผยความรู้สึกที่มีต่อประเทศไทยว่า "มีความสุขมากครับที่ได้มาที่นี่ ผมเคยมากรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อปี 2003 แล้วผมก็ตกหลุมรักที่นี่ สถานที่วิเศษแห่งนี้ ภูมิใจมากครับที่ได้กลับมาอีก ประเทศไทยเป็นประเทศที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง ผู้คนที่เยี่ยมยอด เต็มไปด้วยความรัก ความใจดี และบางทีอาจจะมีอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก" ก่อนเจ้าตัวจะเว้นช่วงเล็กน้อยแล้วเปิดใจว่า "ผมอยากจะแสดงความเคารพของผม ที่มีต่อพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของไทย" แล้วเข้าสู่ช่วงอะคูสติกด้วยเพลง "Hurricane" ทันที ต่อเนื่องกับ "The Kill" ที่มีผู้โชคดี 2 คนร้องเพลงนี้ร่วมกับหนุ่ม จาเรด บนเวที ตามมาด้วยเพลงช้าๆ "Stay" และเพลงที่เหล่าบรรดาสาวกของทั้ง 3 หนุ่มรอคอยอย่าง "Closer To The Edge" เรียกได้ว่าไม่มีใครยืนอยู่เฉยๆ ต่างพากันโยกไปตามจังหวะของเพลงกันทั่ว ก่อนที่ จาเรด จะบอกรักแฟนเพลง กล่าวขอบคุณกรุงเทพฯ ประเทศไทย แล้วโบกมือลาแฟนๆ ไป
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อแฟนเพลงต่างพากันตะโกนเรียกทั้ง 3 หนุ่มแบบไม่ยอมหยุด และพวกเขาก็ออกมายืนบนเวทีอีกครั้ง พร้อมกับเพลง "Up In The Air" นอกจากนี้สมาชิกในวงต่างพากันใส่กางเกงมวยไทยปักชื่อตัวเองไว้ แถมเพิ่มความพิเศษในคอนเสิร์ต ด้วยการชวนแฟนๆ ที่อยู่ด้านหน้าขึ้นมาร่วมร้องเพลงถึงข้างบนเวที ปิดฉากการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเขาในประเทศไทยอย่างเป็นกันเอง
