เอิ้น ฉลองมงคลสมรส เริ่มต้นบทเพลงคู่กับหนุ่มนักธุรกิจ

เขียนเพลงรักให้นักร้องมาแล้วก็หลายคน ถึงเวลาที่คุณหมอนักแต่งเพลง "เอิ้น - พ.ญ.พิยะดา หาชัยภูมิ" เริ่มต้นบทเพลงคู่ร่วมกับนักธุรกิจหนุ่ม "พงศ์ - ธันยพงศ์ สุวรรณโชติ" ซึ่งทั้งคู่ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่รีสอร์ตของฝ่ายเจ้าบ่าว ณ จังหวัดเลย ส่วนงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสมีขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2557 ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นเรียบง่าย โดยมีรูปภาพแต่งงานของคุณพ่อกับคุณแม่มาตกแต่งไว้ภายในงานอีกด้วย

ส่วนของชำร่วยก็คือซีดีเพลงที่มีคำว่า คุณมอบความรักให้ฉัน เขียนติดอยู่หน้าปก พร้อมกับสลักชื่อของทั้งสองคนเอาไว้ ก่อนหน้าที่พิธีการจะเริ่มขึ้น เจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดสูทสีเทาก็ได้ควงคู่เจ้าสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงสีขาวออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกของทั้งคู่ พร้อมกับความพิเศษที่ว่าชุดเจ้าสาวในวันนี้เคยเป็นชุดที่คุณแม่ของ หมอเอิ้น เคยใส่ในงานแต่งงานกับคุณพ่อมาแล้วรวมถึงต่างหูอีกด้วย

ตื่นเต้นไหม

เอิ้น "ก็น้อยกว่าที่เลยนิดนึงอ่ะค่ะ เพราะว่าเราจัดแบบพิธีการไปแล้วรอบหนึ่งที่เลยค่ะ"

ช่วยเล่าบรรยากาศงานแต่งงานที่จังหวัดเลยให้ฟังหน่อย

เอิ้น "โอ้โห เหนื่อยมาก (หัวเราะ) เหนื่อยมากแต่ก็มีความสุข เพราะว่าอย่างที่เลยเราจะไม่มีใครที่จะดูแลหรือออแกไนซ์ให้ ต้องทำทุกอย่างเองหมดค่ะ แต่ก็ดีเพราะว่าคือที่บ้านก็จะช่วยๆ กัน ก็จะเป็นบรรยากาศของครอบครัวที่เรามีกิจกรรมร่วมกันค่ะ"

พิธีการในวันนั้นเป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญใช่ไหม

เอิ้น "ใช่ค่ะ ก็จะเป็นพิธีบายศรีสู่ขวัญแบบอีสานค่ะ"

เล่าจุดเริ่มต้นของความรัก

พงศ์ "ก็จริงๆ แล้วก็มีเพื่อนแนะนำนะครับ เพื่อนที่อยู่จังหวัดเลย เดิมผมก็เป็นคนกรุงเทพฯ คือก็ได้ทำไปธุรกิจอยู่ที่เลย ก็ได้รู้จากเพื่อนที่คอร์ตแบด ตีแบด แล้วก็เพื่อนเนี่ยจะเป็นเพื่อนของเอิ้นก็แนะนำให้รู้จักนะครับ"

เอิ้น "ก็ออกกำลังกายเนอะ รักสุขภาพ (หัวเราะ) ก็เลยทำให้รู้จักกันค่ะ แล้วก็คือเราก็มีความชอบหลายๆ อย่างเหมือนกัน ก็เหมือนกับว่าเราก็เป็นเพื่อนกันได้ ในการใช้ชีวิต ในกิจวัตรประจำวันค่ะ"

ประทับใจอะไรซึ่งกันและกัน

พงศ์ "ความรู้สึกเลยก็คือความเป็นตัวเขานะครับ ความเป็นเอิ้น คือภายนอกเนี่ยกับคนอื่นอาจจะเป็นอีกภาพลักษณ์หนึ่งเนอะ เป็นคุณหมอ เป็นนักแต่งเพลง แต่อยู่กับผมก็จะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง ซึ่งผมรู้สึกว่าก็เข้ากับผมได้ดีนะฮะ"

เอิ้น "ก็เป็นคนดีค่ะ แล้วก็คือรู้สึกว่าเป็นคนที่ให้ความรักเรา จนเรารู้สึกว่าเราต้องตอบแทนเขาด้วยการที่ต้องรักเขาบ้าง แล้วก็ยิ่งนานวันก็ทำให้เรารู้สึกว่าต้องรักเขาให้มากๆ นะคนนี้ (หัวเราะ)"

ศึกษาคบหาดูใจกันมากี่ปี

เอิ้น "วันนี้ก็เกือบ 2 ปี"

พงศ์ "2 ปีแล้วครับ"

เล่าบรรยากาศตอนขอแต่งงานให้ฟังหน่อย

เอิ้น "อันนี้คงต้องให้เจ้าบ่าว (หัวเราะ)"

พงศ์ "เป็นธีมใช่ไหมครับ บรรยากาศก็จะเป็นสถานที่หนึ่งในจังหวัดเลยนะครับ อยู่เหมือนอยู่ริมอ่างเก็บน้ำนะฮะ ก็เป็นช่วงเย็นล่ะโพล้เพล้ล่ะ ตอนนั้นก็คิดว่าก็ถึงเวลาแล้วล่ะ เพราะว่าช่วงนั้นเราก็เหมือนกับว่ามีกิจวัตรประจำวันใช้ชีวิตเนี่ยเหมือนกับว่าจะเกี่ยวพันกันมาก ที่นี้พงศ์ก็เลยคิดว่า เอ๊ะ มันถึงเวลาที่เราจะอยู่ร่วมกันแล้วเลยตัดสินใจที่จะขอเขาแต่งงานในวันนั้น"

เตรียมตัวนานไหมกว่าที่จะขอแต่งงาน

พงศ์ "ก็ไม่นานนะครับ (หัวเราะ) ไม่นานฮะ"

รู้สึกตกใจไหมตอนที่เจ้าบ่าวขอแต่งงาน

เอิ้น "(หัวเราะ) ก็เซอร์ไพรส์ค่ะ เพราะว่าคือตอนแรกเขาทำเป็นเหมือนกับว่าจะพาเราไปในที่ที่เหมือนกับว่าเราคุ้นเคย ซึ่งที่นี่คือจะมีแค่เราสองคนที่รู้ว่ามันสวยงามมาก แต่เงียบสงบมาก ไม่มีใครไปตรงนั้นค่ะ แล้วเราก็เหมือนกับว่าเราก็ชอบไปนั่งแต่งเพลง เขียนหนังสือ อย่างคุณพงศ์เขาก็จะทำโรงแรมค่ะแล้วก็ทำหมู่บ้านด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็จะไปคิดสร้างสรรค์งานที่นั่นค่ะ แล้ววันหนึ่งเขาก็พาเราไปแล้วก็เอาแหวนออกมา ก็น้ำตาไหลเฉยๆ เนอะ (หันหน้าไปถามเจ้าบ่าว) (หัวเราะ) ตกใจนิดนึงค่ะ ตกใจนิดนึง ตอนนั้นก็จะมีช่วงว่า จริงเหรออะไรอย่างนี้"

สินสอดทองหมั้น

พงศ์ "(หัวเราะ) ก็มีเงินประมาณล้านหนึ่งฮะ แล้วก็มีทอง"

เอิ้น "แล้วก็เป็นที่ดิน แล้วก็เป็นเรือนหอ"

วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน

เอิ้น "ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีเวลาคิดเรื่องฮันนีมูนเท่าไรค่ะ เพราะว่าคือสิ่งหนึ่งเลยที่อย่างทุกคนก็จะเห็นว่า คือข้างหลังเราจะเป็นรูปๆ หนึ่ง สถานที่ที่หนึ่งค่ะก็คือโรงแรม คือมันมีความสำคัญตรงที่มันเป็นที่ที่ทำให้เอิ้นกับพงศ์เนี่ยรักกันแล้วก็ตกลงแต่งงานกัน แล้วก็คิดว่าต่อไปจะใช้ชีวิตอยู่กับเขา แล้วก็ทำให้เขาเติบโตขึ้นค่ะ แล้วตอนนี้เราก็เหมือนกำลังเลี้ยงลูกเราอยู่ ก็คือตัวโรงแรม เลยพาวิลเลี่ยน เนี่ยค่ะ คือตอนนั้นเลยที่พงศ์ขอแต่งงานแล้วก็น้ำตาไหลออกมา แล้วก็เราก็คือตกลงไปเพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้อ่ะค่ะ คือสิ่งที่พงศ์ทำให้เอิ้นก็คือว่าการที่เขาเลือกที่จะวางความฝันของเขา เขาอ่ะมีความฝันว่าเขาจะทำบ้านจัดสรรค่ะแล้วก็จะขายโรงแรม แต่คือตอนนั้นเนี่ยเอิ้นมองว่ามันเป็นความมั่นคงของชีวิตอย่างหนึ่ง ก็ขอร้องเขาบอกว่าถ้าเราใช้ชีวิตร่วมกันเนี่ยเธอไม่ขายได้ไหม แต่เราก็พูดไปด้วยความไม่คิดอะไร แต่กลายเป็นว่าวันหนึ่งเขาเดินเข้ามาแล้วเขาก็บอกว่า เนี่ยเขาบอกกับป๊าแล้วนะว่าเขาจะไม่ขาย แล้วเขาก็จะอยู่ที่นี่ เขาก็จะทำเหมือนเขาจะเป็นความมั่นคงของเรา ก็เลยทำเรารู้สึกว่า โห ผู้ชายคนนี้เขาให้เราได้ทั้งชีวิตขนาดนี้เลยเหรอ เรายังไม่เคยคิดว่าเราจะวางความฝันของเราเพื่อใคร"

คิดว่าความรักเหมือนกับเพลงไหนที่ตัวเองแต่งขึ้น

เอิ้น "เดี๋ยวไปฟังในงานดีกว่านะ (หัวเราะ)"

จะมีทายาทเลยไหม

เอิ้น "ก็คิดว่าจะมีเลยค่ะ ถ้าเกิดเขามาเนอะ (หันหน้าไปหาเจ้าบ่าว) เพราะว่าตอนนี้ก็อายุอานามไม่น้อยละค่ะ เดี๋ยวต้องเจาะน้ำคร่ำแล้ว (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่ามีเลยดีกว่าค่ะ"

อยากมีกี่คน

พงศ์ "2 เนอะ เป็นเพื่อนกันได้ครับ"

เอิ้น "ถ้าเป็นไปได้ก็ 2 ค่ะ เป็นเพื่อนกันได้"

มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันไหม

พงศ์ "คำมั่นสัญญาเหรอครับก็คือก็จะเป็นอย่างนี้ตลอดไปนะฮะ"

เอิ้น "ก็จะรักพงศ์ให้มากๆ (หัวเราะ)"

ในช่วงพิธีการตอนเย็นนั้นมีญาติผู้ใหญ่จากทางฝั่งของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมาร่วมงานกันมากมาย นอกจากนี้ยังคนบันเทิง อาทิ "แอน - ธิติมา ประทุมทิพย์" "เอส - วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย" "อ้อย - นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล" อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก "ฉอด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา" ขึ้นมาเป็นประธานในพิธีกล่าวอวยพร พร้อมกับสวมมงกุฎดอกไม้ ติดเข็มกลัดดอกไม้ให้กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว งานนี้ ฉอด ยังมอบเพลง "สิ่งสำคัญ" ที่ขับร้องโดย 3 หนุ่ม "ขลุ่ย - วชิระ พุกพบสุข" "เต - เตชินท์ ชยุติ" และหนุ่ม "เป้ - บดินทร์ เจริญราษฎร์" ให้เป็นของขวัญสำหรับทั้งคู่อีกด้วย

บรรยากาศภายในงานถูกเนรมิตให้เป็นรายการวิทยุ Club Fine Day แนะนำเพลงเน้นที่ท่อนจำบ่งบอกความรักของทั้งคู่ เริ่มจากฝ่ายหญิงที่ขอพูดถึงความรู้สึกก่อนที่จะแต่งงานด้วยเพลง "เลือกที่จะเหงา" ร้องโดย "ลูกหว้า - พิจิกา จิตตะปุตตะ" มาแทนความรู้สึกในตอนนั้น นอกจากนี้ยังมีเพลง "ยังอยากรู้" ที่ได้ ขลุ่ย และ ลูกหว้า มาร้อง และ "เจ้าสาวที่กลัวฝน" จากน้ำเสียงของ ลูกหว้า มาทางฝ่ายของเจ้าบ่าวขอพูดถึงความรู้สึกด้วยเพลง "ทำไมต้องรักเธอ" โดย ขลุ่ย และ ลูกหว้า

นอกจากนี้เจ้าบ่าวยังขอส่งเพลง "คิดถึงคนไกล" แทนความรู้สึกของเจ้าบ่าวที่มีต่อเจ้าสาว โดยได้นักร้องสาวเสียงหวาน "ลุลา" หรือ "ตุ๊กตา - กันยารัตน์ ติยะพรไชย" มารับหน้าที่เป็นผู้ขับกล่อม หลังจากนั้นฝ่ายเจ้าสาวก็ขอถ่ายทอดความรู้สึกด้วยเพลง "รัก" ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวถึงน้ำตาคลอกันเลยทีเดียว ด้านเจ้าบ่าวถึงแม้จะออกตัวว่าร้องเพลงไม่เก่งแต่ก็ขอเลือกเพลง "ไม่บอกรัก..แต่รักมาก" เพื่อเจ้าสาว ทำเอา เอิ้น ยิ้มไม่หุบในความน่ารักของเจ้าบ่าว หลังจากนั้นฝ่ายชายก็หยิบยกเพลง "เธอทั้งนั้น" มาเป็นเพลงสุดท้ายที่ใช้แทนความรู้สึกรับหน้าที่โดยหนุ่ม ขลุ่ย

หลังจากนั้นทางเจ้าบ่าวก็ให้คำมั่นกับเจ้าสาวว่า "ก็อยากให้แน่ใจ ให้มั่นใจในตัวผม ผมก็จะพยายามทำให้ครอบครัวไปได้ด้วยดีแล้วก็มั่นคง" ด้าน เอิ้น ขอพูดว่า "ก็ขอบคุณพงศ์มากๆ นะคะที่ทำให้รู้จักกับคำว่ารัก" สำหรับช่วงสนุกสนานการโยนช่อดอกไม้ ปลายทางก็ตกไปอยู่กับนักร้องสาวเสียงหวานอย่าง ลุลา ก่อนที่ทั้งคู่จะควงคู่กันออกมาร้องเพลง "เธอทำให้ฉันรัก" งานนี้ทำเอาทั้งคู่ต่างยิ้มทั้งน้ำตากันเลยทีเดียว