คานาเมะ เยือนไทยร่วมคอนเสิร์ตเชื่อมสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น
ศิลปินจากแดนอาทิตย์อุทัย "คานาเมะ คาวาบาตะ" (Kaname Kawabata) หนึ่งในสมาชิกวงป๊อปอาร์แอนด์บี "เคมิสทรี" (Chemistry) หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับคู่หูอย่าง "โยชิคุนิ โดจิน" (Yoshikuni Dochin) มาตลอด 11 ปี จนเมื่อช่วงต้นปี 2012 ทั้งคู่ได้ประกาศหยุดทำงานเพลงในฐานะศิลปินคู่ชั่วคราว แยกย้ายไปทำงานเพลงเดี่ยวของตัวเอง ซึ่งในปีเดียวกันหนุ่ม คานาเมะ ก็มีโอกาสประเดิมเข้าสู่วงการโทรทัศน์ร่วมแสดงในละครเรื่อง "Hungry!" ก่อนจะเริ่มทำงานเพลงเดี่ยวของตัวเอง โดยปล่อยซิงเกิลที่มีชื่อว่า "Tokyo Girl" และ "Breakthrough / Let's Say I Do" ก่อนวางจำหน่ายอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า "0 (Zero)" ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2556 และได้มีการจัดจำหน่ายให้แฟนๆ ชาวไทยได้จับจองไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา
คานาเมะ ได้บินลัดฟ้ามาไทยเพื่อร่วมคอนเสิร์ต "J-Pop Signature in Bangkok" พร้อมกับเพื่อนร่วมชาติ "มิจิ" (Michi) และศิลปินฮิปฮอปวง "ไทยเทเนี่ยม" ตัวแทนของประเทศไทย เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางดนตรีระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงาน "Bangkok International Auto Salon 2013" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2556 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยก่อนที่ คานาเมะ จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ตให้แฟนๆ ได้ชมกัน ก็ได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแบบเป็นกันเอง ณ ห้องบิสซิเนส เซ็นเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
แนะนำตัว
"สวัสดีครับ ผมชื่อคานาเมะครับ ผมมาจากญี่ปุ่นครับ (ภาษาไทย)"
เคยมาประเทศไทยก่อนหน้านี้ไหม
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกครับ"
ความรู้สึกที่ได้มาประเทศไทย
"มาเมืองไทยเป็นครั้งแรกก็ได้มาจัดคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกเลยครับ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากสำหรับตัวผมครับ"
ไปเที่ยวไหนมาบ้างหรือยัง
"ยังไม่ได้ไปไหนเลยครับ ไปแค่เมื่อวาน (21 มิถุนายน 2556) ตอนเย็นที่สีลมวิลเลจครับ"
ได้ทานอาหารไทยบ้างหรือยัง
"ชอบอาหารไทยครับ ที่กินไปแล้วก็มีผัดไทย แกงเขียวหวาน แกงส้มไปแล้วครับ เมื่อกี้ก็เพิ่งกินข้าวผัดกะเพราไปครับ อร่อย (ภาษาไทย)"
ลองพูดภาษาไทย
"สาวไทยน่ารัก ไม่เป็นไรครับ อิ่มมากครับ อร่อยมากครับ (หัวเราะ) ขอบคุณครับ"
ความแตกต่างในการทำอัลบั้มเดี่ยวกับการทำอัลบั้มคู่
"ตอนที่ทำเป็นคู่นะครับ เนื่องจากทั้ง 2 คนเป็นคนที่มีลักษณะไม่เหมือนกันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเวลาทำงานร่วมกัน การบาลานซ์ระหว่างคน 2 คนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามมากเหมือนกันในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้มาทำอัลบั้มคนเดียวเป็นนักร้องเดี่ยวสามารถที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ ผลงานอะไรก็ตามที่ผมอยากจะทำผมก็จะทำ แต่ว่าแน่นอนก็ต้องมีความรับผิดชอบยิ่งขึ้นนะครับ รู้สึกว่ามีความท้าทายมากครับ"
ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม
"อย่างที่ได้เห็นกันก็คือต้องถอดหมวก (หัวเราะ) ที่เหลือก็ไม่ได้พยายามจะเปลี่ยนแปลงอะไรมากครับ ก็คือยังคงสไตล์ของตัวเองสมัยที่เป็นเคมิสทรีอยู่ครับ ยังรู้สึกว่าอยากที่จะรักษาสไตล์นั้นอยู่ ชอบอะไรแบบไหนก็ทำแบบนั้น ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นพิเศษครับ"
แนวเพลงในอัลบั้ม
"ก็มีหลากหลายสไตล์มากครับ มีตั้งแต่ อาร์แอนด์บี ร็อก ผสมผสานกัน คือผมจินตนาการว่าถ้าจัดคอนเสิร์ตด้วยเพลงลักษณะนี้น่าจะมีความสนุกสนานนะครับ ซึ่งก็น่าจะทำให้แฟนเพลงได้สนุกไปกับผมถ้านำเพลงเหล่านี้ไปเล่นในคอนเสิร์ตครับ"
ท่าเต้นในอัลบั้ม
"จะเน้นไปทางสไตล์ แจ๊ส ฮิปฮอป ที่ผมชอบอยู่แล้ว ก็คือมีอาจารย์สอนเต้นเป็นผู้รับผิดชอบ จะเป็นสไตล์ที่เข้าใจง่าย คนทั่วไปรวมถึงแฟนเพลงดูแล้วสามารถเต้นตามได้นะครับ มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้างครับ"
ฝากผลงานเพลง
"ดีใจนะครับที่อัลบั้มแรกของตัวเองได้ปล่อยออกมาแล้วนะครับทั้งไทยและญี่ปุ่น ต่อจากนี้ก็คือจะหาโอกาสมาเมืองไทยให้บ่อยขึ้น จะไม่หายไปนาน จะมาเมืองไทยบ่อยๆ จะให้แฟนเพลงและคนไทยรู้จักผมเยอะยิ่งขึ้นครับ"
