5 หนุ่ม วิกเตอร์ เยือนไทย พร้อมแนะนำตัวเป็นทางการ
5 หนุ่ม "วิกเตอร์" (Victor) ประกอบด้วย คู่แฝด "คิมฮโยอิน" (Kim Hyon In) กับ "คิมฮโยชู" (Kim Hyon Choo) "ยูจุนฮวาน" (Yoo Jun Hwan) "คิมชองกยอม" (Kim Chong Gyum) และหนึ่งในนั้นก็มีหนุ่มลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน "บี้ - ธรรศภาคย์ ชี" เจ้าของรางวัลนักร้องยอดเยี่ยมจากเวทีการประกวด เคพีเอ็น อวอร์ด ครั้งที่ 20 ร่วมเป็นสมาชิกอยู่ด้วย โดย วิกเตอร์ ตั้งเป้าหมายเอาว่าจะเป็นกลุ่มศิลปินชายจากเอเชียที่จะก้าวไปสู่ระดับสากล ซึ่งทั้ง 5 หนุ่มเริ่มออกแนะนำตัวทำความรู้จักกับแฟนๆ บ้างแล้ว ทั้งประเทศในแถบเอเชียและประเทศในแถบยุโรป ที่มีทั้ง เกาหลี ไทย ฮอลแลนด์ และมีแผนที่จะเดินทางไปทักทายแฟนๆ ในหลายๆ ประเทศ
ถึง วิกเตอร์ จะเป็นกลุ่มศิลปินน้องใหม่ แต่สำหรับแฟนๆ ชาวไทยอาจจะมีหลายๆ คนเคยคุ้นเคยกับวงนี้มาบ้าง เพราะนอกจากหนึ่งในนั้นจะมีสมาชิกเป็นคนไทยแล้ว ก็ยังได้มาเปิดตัวเป็นครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ต "Super Joint Concert in Thailand" เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงได้ออกรายการโทรทัศน์อีกหลายๆ รายการ ตอนนี้ 5 หนุ่มได้ปล่อยซิงเกิลออกมาแล้ว 2 ซิงเกิล ได้แก่ "Candy" และ "Mr. Right" ก่อนที่จะเตรียมเปิดตัวเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้ หนุ่มๆ วิกเตอร์ เลยรวมตัวกันมาให้สัมภาษณ์แบบเป็นกันเอง ณ บริษัท เคพีเอ็น อวอร์ด จำกัด เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
แนะนำตัว
ชู "สวัสดีครับ ผมชื่อชูครับ คิมฮโยชู (ภาษาไทย)"
กยอม "สวัสดีครับ ผมชื่อกยอมครับ (ภาษาไทย)"
อิน "สวัสดีครับ ผมชื่ออินครับ คิมฮโยอิน (ภาษาไทย)"
จุน "สวัสดีครับ ผมชื่อจุนครับ (ภาษาไทย)"
บี้ "สวัสดีครับ ผม บี้ เคพีเอ็น ครับ ก็เป็นคนไทยที่อยู่ในวงวิกเตอร์ครับ"
บุคลิกลักษณะของแต่ละคน
อิน "บี้ก็หล่อ น่ารัก ใจดี แล้วก็เป็นคนที่คอยสร้างบรรยากาศให้ทุกคนสนุกๆ ครับ"
บี้ "อินเป็นลีดเดอร์ของวงครับ เวลาที่เรามีปัญหาทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็จะคอยคลี่คลายให้ เป็นพี่ที่ดูแลดีมากๆ เลยครับ เหมือนพี่ชายเลยครับ"
จุน "กยอมเป็นคนที่น่ารักอีกแบบนึง ก็จะต่างจากบี้นิดนึง เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 วัยครับ เขาจะคอยไกล่เกลี่ยระหว่างคนที่อายุเยอะกับอายุน้อย คอยเป็นตัวกลางก็ถือว่าเป็นหลักสำคัญในวงเหมือนกันครับ"
กยอม "จุนเป็นคนที่หน้าตาดีเหมาะสมที่จะเป็นหน้าตาของวงครับ เขาเป็นคนที่ขายาวเหมาะกับกางเกงขาสั้น บางทีก็เชื่อฟังคำพูดของพี่ๆ ในวงบ้าง จุนจะสนิทกับบี้ พอเวลาที่ 2 คนนี้อยู่ด้วยกันก็พลอยทำให้ทุกคนในวงรู้สึกสนุกไปด้วยครับ"
บี้ "พี่ชูมีความเซ็กซี่อยู่ในตัว เวลามูฟเมนต์การเต้นทุกๆ อย่างของเขาจะเซ็กซี่ จริงๆ ตลกกันทั้งวงเลย เวลาเราซ้อมกันซ้อมไปซ้อมมาแล้วอยู่ดีๆ พูดเรื่องตลกแล้วยาวเลยครับ จนต้องมีคนบอกว่าหยุดพูดสักทีแล้วก็ซ้อมกัน ชูกับอินจะเป็นพี่เป็นลีดเดอร์ในวง เขาก็จะดูแลเราเป็นพิเศษ"
มารวมตัวเป็น วิกเตอร์ ได้อย่างไร
อิน "ตอนแรกตั้งใจว่าจะสร้างเป็นกรุ๊ปที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล ตอนแรกจะแค่มีผมกับชูแล้วจากนั้นก็ได้รู้จักกับจุน จากนั้นก็ได้แร็ปเปอร์คือกยอมมาร่วมวง ที่นี้ก็จะเหลือเมมเบอร์ที่เป็นคนเอเชียอีกคนนึง ปรากฏว่าหาไปหามาก็ได้มาเจอกับบี้ รวมเป็นวิกเตอร์ครับ"
เพลงของวงเป็นแนวไหน
อิน "สไตล์ของเพลงจะมี 2 สไตล์ เพลงที่เป็นเพลงสากลก็จะเป็นยูโรเปียนแดนซ์สไตล์ แต่อีก 2 เพลงที่เป็นเพลงเกาหลีก็จะเป็นแนวเคป๊อปไปเลยครับ"
เป้าหมายของวง วิกเตอร์ คืออะไร
ชู "เป้าหมายของวิกเตอร์ก็ตรงตัวเลยครับ ก็คือวิกตอรี การเป็นผู้ชนะครับ"
อิน "คำว่า วิกเตอร์ ก็จะแปลได้ว่า ผู้ชนะในการแข่งขัน แต่อีกอย่างนึงที่ผมคิดก็คือการที่พวกเราได้ทำในสิ่งที่ชอบไปพร้อมๆ กับยึดเป็นอาชีพไปด้วย แล้วทำให้คนชื่นชอบในผลงานของพวกเรา ทำให้ทุกคนมีความสุข พวกเราก็มีความสุขเหมือนกัน ก็เหมือนเป็นชัยชนะของพวกเราเหมือนกันครับ"
หลังจากที่มาคอนเสิร์ต Super Joint มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นไหม
กยอม "ก็มีมากขึ้น เวลาที่อยู่ที่สนามบินไม่ว่าจะไปหรือกลับ ก็จะมีแฟนคลับไปรอ มีเอาของมาให้ด้วยครับ"
บี้ "ของบี้ก็จะชัดเจนเหมือนกัน เพราะว่าไปทุกที่จะไม่ค่อยมีคนเรียก บี้ เคพีเอ็น มีแต่คนเรียก บี้ วิกเตอร์"
เวลาไปแสดงคอนเสิร์ตต่างประเทศ ได้ประสบการณ์อะไรบ้าง
อิน "เวลาที่พวกเราไปแสดงคอนเสิร์ตต่างประเทศ ก็รู้สึกกังวลนิดนึงทั้งในเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่าง เวลาที่ขึ้นไปบนเวทีแล้วเนี่ยแฟนคลับจะชอบไหม แต่พอมีความตั้งใจมีความมั่นใจพอขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้วก็แสดงออกมา ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ได้รับผลตอบรับที่ดี ทำให้รู้สึกว่าตรงนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีที่พวกเราได้รับกลับมาครับ"
คอนเสิร์ตที่ประทับใจ
ชู "อย่างคอนเสิร์ตที่ฮอลแลนด์ ด้วยความที่พวกเราหน้าตาเป็นแบบคนเอเชีย แล้วทางฝั่งนู้นเนี่ยก็จะเป็นฝรั่งไปเลย ก็คิดว่าแฟนคลับจะมีกระแสยังไง เวลาที่พวกเราขึ้นเวทีแล้วจะได้รับการตอบรับไหม จะรู้จักพวกเราไหม ปรากฏว่าพอขึ้นไปบนเวทีก็มีแฟนคลับรู้ว่าพวกเราเป็นใคร รู้ว่าเป็นวิกเตอร์ แล้วก็มีบางคนถึงขั้นกรี๊ดจนสลบไปเลยก็มีครับ"
จุน "อย่างคอนเสิร์ต Super Joint ที่ผ่านมา สำหรับพวกผมแล้วก็ถือว่าเป็นเวทีที่ใหญ่มากๆ ก็รู้สึกกังวลแล้วก็เครียดมากเลยว่าจะได้รับผลตอบรับยังไง แต่พอขึ้นไปบนเวทีแล้วแฟนคลับก็ส่งเสียงต้อนรับเป็นอย่างดี แล้วก็มีตบมือให้ด้วย ก็รู้สึกชอบแล้วก็ประทับใจจนถึงทุกวันนี้เลยครับ"
บี้ "คอนเสิร์ตที่เกาหลีชื่อ K-POP Collection ปกติก็เป็นคนที่ดูสเตจนี้อยู่แล้ว ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตนี้ ก็เป็นเกียรติมากๆ คนเยอะมากแล้วก็สเตจสวยมาก เป็นสิ่งที่ผมดูในยูทูบทุกวันดูศิลปินที่ชื่นชอบ ก็เป็นเกียรติที่ได้ขึ้นครับ ประทับใจดีใจมากๆ แล้วก็ได้ขึ้นกับพี่ๆ ทุกคนวงวิกเตอร์ เป็นฝันของผมเลยแหละ เป็นสิ่งผมไม่เคยคาดว่าตัวเองจะได้มาถึงตรงจุดนี้ครับ ฟีดแบ็กที่เกาหลีก็ดีมากเลยนะครับ ตอนแรกกังวลมากเป็นคนไทยแล้วตอนที่เราทักทายว่า อันยองฮาเซโย จะสวัสดีกับเราหรือเปล่า ก็โอเค ยินดีแล้วก็ดีใจ โล่งใจเยอะเลยครับ ก็จะตั้งใจกับงานเพลงต่อไปครับ"
ก่อนที่จะมาทำวง วิกเตอร์ เคยทำงานอะไรมาบ้าง
กยอม "ก่อนที่จะมาเป็นวิกเตอร์นะครับ ผมก็มีภาพยนตร์ โฆษณา ละคร แล้วแร็ปเนี่ยผมเริ่มตั้งแต่ช่วงมัธยมปลายครับ อยู่ใต้ดินมาตลอดไม่ได้เป็นทางการ ที่ผ่านมาอย่างภาพยนตร์ โฆษณาคือเหมือนกับว่าแค่ผ่านไป แต่ที่ผมมุ่งมั่นแล้วก็ทำบ่อยๆ จริงๆ ทำมาตลอดก็คือแร็ปครับ"
ตั้งแต่ทำงานมาชอบงานแบบไหนมากที่สุด
จุน "เท่าที่ทำมาการที่ได้อยู่ในวงแบบนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบที่สุดครับ เหมือนว่าผมเคยทำงานร่วมกับวงอื่นมาก็เทียบไม่ได้กับการที่ผมอยู่กับที่นี่ ผมก็รู้สึกว่าอยู่กับวงตอนนี้โอเคมาก"
อิน กับ ชู เคยสอนเต้นอยู่เบื้องหลังศิลปิน ทำไมถึงอยากเป็นศิลปินเองบ้าง
อิน "ผมสองคนชื่นชอบการเต้นแล้วก็ชอบเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็กแล้ว เหมือนเป็นกิจกรรมยามว่างมากกว่า จนวันนึงผมเข้าไปประกวดในรายการนึงทางช่องเอ็มบีซี แล้วก็ได้รางวัลที่ 1 มา ผมเลยรู้สึกว่าเริ่มเข้ามาอยู่ในวงการตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ การที่ผมเป็นโครีโอกราฟให้กับศิลปินวงอื่นก็เหมือนกับเป็นการเตรียมตัวของตัวเองไปด้วย เตรียมตัวให้คนอื่นไปด้วยพร้อมๆ กัน ช่วงที่เตรียมตัวก็จะอยู่ทั้งเบื้องหลังแต่บางทีก็ขึ้นเพอร์ฟอร์แมนซ์กับศิลปินด้วย จนมาถึงวันนี้ก็ได้ออกมาเป็นออฟฟิเชียลแล้วครับ"
มีวิธีสังเกตระหว่าง อิน คนพี่ กับ ชู คนน้อง อย่างไร
จุน "ชูเนี่ยจมูกโด่งกว่าอินนิดนึง เป็นความรู้สึกที่ผมพูดออกมาไม่ได้อ่ะครับว่าสองคนนี้แตกต่างกันอย่างไง แต่ผมรู้สึกได้ว่าสองคนนี้ต่างกัน"
บี้ "พูดไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะว่าสองคนเขาเหมือนกันมาก แต่มาอยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่ามันแตกต่าง"
บี้ ทำงานทั้งที่เกาหลีและไทย แบ่งเวลาทำงานอย่างไร
บี้ "ก็บินตลอดครับ เพราะว่าตอนนี้บี้มีถ่ายละครอยู่ที่ไทย ถ่าย เดอะ ซิกซ์เซ้นส์ ภาค 2 (The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ภาค 2) ถ้ามีคิวละครมีงานที่ไทยก็บินกลับมา ช่วงนี้ว่างๆ ก็บินไปที่เกาหลีซ้อมร้องซ้อมเต้น หรือถ้าคิวไม่ว่างจริงๆ แล้วพี่ๆ ทุกคนถ้าไม่มีงานที่เกาหลีก็อาจจะบินมาที่ไทย มาซ้อมด้วยกัน"
เรื่องภาษามีอุปสรรคไหม
บี้ "ตอนนี้ก็เรียนภาษาเกาหลีอยู่อาทิตย์ละประมาณ 3-4 วัน ก็โอเคนะ เพราะว่าบี้โชคดีมากจริงๆ คือบี้ได้ภาษาจีนอยู่แล้ว บี้เป็นคนไต้หวันแล้วก็ได้ภาษาไทยด้วย 2 ภาษาผสมกันเหมือนภาษาเกาหลีมากเลยก็โชคดีมากๆ โชคดีว่าอินกับชูเขาพูดภาษาจีนได้ครับ เขาไปทำงานที่ฮ่องกง 2 ปี แล้วกยอมกับจุนก็พูดภาษาอังกฤษได้ดี ตอนนี้เราก็คุ้นเคยกันมาก จริงๆ แล้วไม่ต้องพูดคุยอะไรกันมากก็รู้แล้วว่าจะพูดอะไรจะปรึกษาอะไร"
เคยเป็นนักร้องเดี่ยวมาก่อนต้องปรับอะไรไหม
บี้ "ปรับเยอะ เพราะว่าผมเป็นนักร้องเดี่ยวอยู่ก่อนแล้วก็จะมีแดนเซอร์อยู่รอบข้างๆ ตลอด แล้วทีนี้ไม่ใช่แดนเซอร์ เป็นเพื่อนร่วมวง แล้วก็เป็นสมาชิกที่มาอยู่บนเวทีด้วยกัน คอนเสิร์ตของผมคือผมจะอิมโพรไวซ์เยอะ ซึ่งไม่มันควรเพราะเราเป็นวง ไม่ใช่พาร์ตเราต้องไม่ควรร้องไงฮะ ก็เป็นประสบการณ์ ทุกอย่างคือความสามารถของแต่ละคน กลายเป็นว่าอยู่ที่ไทยแล้วมีเพื่อนผมไม่รู้สึกเหงา รู้สึกอบอุ่นมีเพื่อนอยู่บนสเตจด้วยกัน"