ซูเปอร์จูเนียร์ อัดแสง สี เสียง สุดอลังการใน Super Show 4
เต็มอิ่มสมใจแฟนๆ ชาวเอลฟ์ที่รอคอยการมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยของหนุ่มๆ "ซูเปอร์จูเนียร์" (Super Junior) ที่ประกอบไปด้วย "อีทึก" (Lee Teuk) หรือ "ปาร์กจองซู" (Park Jung Su) "เยซอง" (Ye Sung) หรือ "คิมจองอุน" (Kim Jong Woon) "ชินดง" (Shin Dong) หรือ "ชินดงฮี" (Shin Dong Hee) "อีซองมิน" (Lee Sung Min) "อึนฮยอก" (Eun Hyuk) หรือ "อีฮยอกแจ" (Lee Hyuk Jae) "ชเวชีวอน" (Choi Si Won) "อีดงแฮ" (Lee Dong Hae) "คิมรยออุก" (Kim Ryeo Wook) และ "โจคยูฮยอน" (Jo Gyu Hyun) กับคอนเสิร์ต "Super Junior World Tour Super Show 4 in Bangkok" ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 16-18 มีนาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งคราวนี้หนุ่มๆ ซูเปอร์จูเนียร์ ก็ขนความพิเศษมาอย่างตระการตาสมกับเป็นเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ต ทั้งเรื่องแสง สี เสียง การแสดงรวมไปถึงเอฟเฟกต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำพุ พลุ เวทีที่สามารถเคลื่อนที่ได้หรือว่าจะเป็นเครนที่ยกสูงขึ้นให้เหล่าแฟนๆ ชั้น 2 และ 3 ได้เห็นหน้าหนุ่มกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้น ซูเปอร์จูเนียร์ ถือได้ว่าเป็นกลุ่มศิลปินต่างประเทศกลุ่มแรกที่เดินทางมาเปิดรอบการแสดงเอาใจแฟนๆ ถึง 3 รอบด้วยกัน
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 มีนาคม 2555 ก่อนการแสดงคอนเสิร์ตรอบสุดท้ายที่เมืองไทยจะเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 9 หนุ่มก็ได้ออกมาทักทายและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงการเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย และความประทับใจในการแสดงคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบที่ผ่านมา
แนะนำตัว
ซูเปอร์จูเนียร์ "สวัสดีครับ วีอาร์ซูเปอร์จูเนียร์"
รยออุก "สวัสดีครับ ผมชื่อรยออุกครับ (ภาษาไทย)"
ดงแฮ "สวัสดีครับ ผมชื่อดงแฮครับ (ภาษาไทย)"
ชีวอน "สวัสดีครับ ผมชื่อชีวอนครับ (ภาษาไทย)"
เยซอง "สวัสดีครับ ผมชื่อเยซองครับ (ภาษาไทย)"
อีทึก "สวัสดีครับ ผมชื่ออีทึกครับ (ภาษาไทย)"
ซองมิน "สวัสดีครับ ผมชื่อซองมินครับ (ภาษาไทย)"
อึนฮยอก "สวัสดีครับ ผมชื่ออึนฮยอกครับ (ภาษาไทย)"
คยูฮยอน "สวัสดีครับ ผมชื่อคยูฮยอนครับ (ภาษาไทย)"
ชินดง "สวัสดีครับ ผมชื่อชินดงครับ (ภาษาไทย)"
Super Show 4 มีความแตกต่างจากคอนเสิร์ตก่อนหน้านี้อย่างไร
อีทึก "คอนเสิร์ต Super Show ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมาจะเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย ก็จะได้พบกับแฟนคลับที่อยู่ในเอเชียเท่านั้นครับ แต่ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นแบบเวิลด์ทัวร์ จะได้ไปพบกับแฟนๆ ทั่วโลกเลย ไม่ว่าจะเป็นในเอเชีย ยุโรปหรือว่าออสเตรเลีย พวกเราก็จะได้ไปเจอกับแฟนคลับทุกที่เลยครับ ยังไงก็รอพบกับพวกเราได้นะครับ"
เป็นศิลปินกลุ่มแรกที่เปิดแสดงคอนเสิร์ตจำนวนรอบสูงสุด
อีทึก "ก็รู้สึกดีใจมากเลยครับ เหมือนกับเป็นการทำสถิติใหม่ แต่ถ้าไม่มีแฟนคลับชาวไทยทุกคนพวกเราก็คงจะมาแสดงคอนเสิร์ตไม่ได้ถึง 3 รอบแน่นอนครับ ถ้าในอนาคตพวกเราออกอัลบั้มใหม่ ครั้งหน้าก็อยากให้จัดคอนเสิร์ตสัก 4-5 รอบเลยครับ ยังไงก็มากันให้ได้นะครับ"
ชินดง "ขอบคุณครับ (ภาษาไทย)"
อึนฮยอก "จริงๆ แล้วก็รู้สึกเสียดายอยู่นิดนึงเหมือนกันนะครับ เพราะว่าพวกเรารักเมืองไทยมากๆ ก็เลยอยากจะให้มีการจัดคอนเสิร์ตแบบทั้งวันทั้งคืน 365 รอบเลยครับ"
ความพิเศษของคอนเสิร์ต Super Show 4
อีทึก "ในคอนเสิร์ตจะมีไฮไลต์สำคัญทุกช่วงเลยครับ จะมีอยู่ช่วงนึงที่พวกเราจะแต่งตัวแบบพิเศษๆ กัน เป็นช่วงที่สนุกมากเลยครับ ทุกคนน่าจะชื่นชอบช่วงนี้กันนะครับ"
รู้สึกประทับใจสิ่งที่แฟนคลับทำให้ในงานไหนมากที่สุด
อีทึก "พวกเราก็ประทับใจทุกๆ โปรเจกต์ที่แฟนๆ เตรียมเอาไว้ให้เลยครับ ตลอดคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบที่ผ่านมา แฟนๆ ก็จะชูป้ายชื่อของแต่ละคนแล้วก็มีอีกหลายอย่างเลยครับ พวกเราได้ดูแล้วก็รู้สึกซึ้งมากเลยครับ วันนี้ก็รอลุ้นว่าจะมีโปรเจกต์อะไรที่จะทำให้พวกเรารู้สึกประทับใจจนน้ำตาไหล เดี๋ยวจะรอดูในคอนเสิร์ตวันนี้นะครับ"
เสน่ห์ที่ทำให้แฟนๆ ชื่นชอบ จนประสบความสำเร็จมากขนาดนี้
อีทึก "อย่างแรกเลยนะครับ ก็คือพวกเรามีสมาชิกของวงที่หล่อมากเลยครับ คนนั้นก็คือ... (อึนฮยอก ซองมิน เยซอง ยืนขึ้นแสดงตัว)"
อึนฮยอก "จริงๆ แล้วในวงมีคนที่หล่อถึง 3 คนเลยครับ แต่ว่าคนที่หล่อที่สุดเป็นผมเองครับ"
อีทึก "อีกอย่างนึงก็คือการโชว์ของพวกเราที่โชว์ได้อย่างเต็มที่ ก็คิดว่าแฟนๆ คงจะชื่นชอบพวกเราในจุดนี้ครับ"
สรุปแล้วใครหล่อที่สุดใน ซูเปอร์จูเนียร์
อึนฮยอก "ก็บอกไปแล้วว่าคนที่หล่อที่สุดก็คือผมเองครับ คนที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ต้องเป็นคนที่หล่อที่สุดสิครับ คนหล่อเท่านั้นที่จะยืนอยู่ตรงกลางได้ครับ (ดงแฮ ชีวอน และ อีทึก ชูมือทำเครื่องหมายกากบาท ปฏิเสธว่าไม่จริง) จริงๆ แล้วผมหล่อเป็นอันดับที่ 9 ครับ ยังงั้นผมขอตัวกลับก่อนได้ไหมครับ (ทำท่าจะเดินกลับ)"
ชินดง "ผมว่าคนที่หล่อที่สุดก็น่าจะเป็นอึนฮยอกนั่นแหละครับ ก็ต้องพูดแบบนี้ให้อึนฮยอกดีใจบ้าง ตอนนี้อึนฮยอกยิ้มใหญ่เลยครับ"
มาคราวนี้มีคำพูดภาษาไทยเด็ดๆ พูดให้ฟังไหม
อีทึก "มีเตรียมมาเยอะมากเลยครับ น่ารักอ่ะ ชอบเธอ เธอชอบฉันเหมือนกันใช่ไหม (ภาษาไทย)"
ซองมิน "ผมน่ารักไหมครับ (ภาษาไทยพร้อมทำท่าน่ารัก)"
อึนฮยอก "ผมหล่อไหม (ภาษาไทย) ผมไม่ใช่แค่น่ารักเท่านั้นนะครับ"
คยูฮยอน "จริงๆ แล้วพวกเราก็มาเยี่ยมเมืองไทยกันบ่อยมากเลยนะครับ แต่ก็ยังรู้สึกกังวลว่าแฟนคลับจะลืมพวกเรา ผมก็เลยเตรียมคำนี้มาให้กับทุกๆ ครับ อย่าลืมความรักของผมนะครับ (ภาษาไทย)"
ชินดง "เป็นคำที่ผมพูดประจำเลยครับ แต่ขอเริ่มจากนับเลขก่อนนะครับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ (ภาษาไทย) ผมนับเร็วๆ ก็ได้นะครับ (นับ 1-10 แบบเร็วๆ) ผมชินดงน่ารักอ่ะ (ภาษาไทย)"
รยออุก "ผมชอบผัดขี้เมาทะเล ซื้อให้หน่อยครับ (ภาษาไทย)"
ดงแฮ "ถึงผมจะมาเมืองไทยบ่อยมาก แต่ก็คิดถึงแฟนๆ อยู่เสมอนะครับ ผมก็เลยเขียนจดหมายมาให้ทุกๆ คนครับ (หยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน) ที่รักของผมสบายดีไหม รอโอป้านานใช่ไหม วันนี้อย่าคิดจะกลับบ้านนะ มานอนกับโอป้ากัน รักนะจุ๊บๆ (ภาษาไทย)"
ชีวอน "คิดถึงมากเลย (ภาษาไทย) ของผมเป็นประโยคสั้นๆ ครับ"
เยซอง "ผมมีคำถามอยากถามทุกคนเลยครับ เธอชอบฉันจริงเหรอ (ภาษาไทย)"
ฝากทิ้งท้ายถึงแฟนๆ ชาวไทย
อีทึก "ตอนนี้พวกเราก็ได้เดบิวต์มา 7 ปีแล้วนะครับ ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงปัจจุบันก็ต้องขอขอบคุณแฟนเพลงชาวไทยด้วยนะครับ ที่ให้ความรัก กำลังใจและความห่วงใยกับพวกเราตลอดเวลา พวกเราดีใจมากๆ แล้วก็ต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ ยังไงพวกเราก็จะตอบแทนกลับไปหาทุกคนแน่นอนครับ"
สำหรับบรรยากาศในคอนเสิร์ตวันที่ 18 มีนาคม 2555 เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าทั้งอิมแพ็คจะต้องเนื่องแน่นไปด้วยเหล่าแฟนคลับ พื้นที่เต็มทุกพื้นที่ แถมแต่ละคนก็เตรียมตัวมารอชมคอนเสิร์ตกันตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว แต่คอนเสิร์ตยังไม่ทันจะเริ่ม เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้น เพราะว่าเหล่าแฟนคลับตาดีหันไปเจอคุณพ่อของ เยซอง รวมไปถึงคุณแม่และพี่ชายของ ดงแฮ ที่มาร่วมชมคอนเสิร์ตให้กำลังใจกับทั้ง 2 หนุ่มด้วย ทำเอาแฟนคลับที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ต่างไปรุมถ่ายรูปกันยกใหญ่
จนกระทั่งได้เวลา 16.30 น. บรรยากาศในฮอลล์ก็เปลี่ยนเป็นทะเลสีน้ำเงินจากแท่งไฟที่ทุกคนชูขึ้นอย่างพร้อมเพรียง แล้วเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนๆ ก็ดังกระหึ่มขึ้นพร้อมกับพร้อมภาพวีทีอาร์เปิดตัวของสมาชิกแต่ละคน แล้วทั้ง 9 หนุ่มก็ปรากฏตัวลักษณะเงาในขณะที่จอภาพด้านหลังเป็นสีแดงตัดกับแท่งไฟสีน้ำเงิน มาพร้อมกับเพลง "Superman" ต่อเนื่องด้วยเพลง "Opera" "Twins (Knockout)" และ "Bonamana (Remix Version)" แล้วทั้ง 9 หนุ่มก็หายเข้าไปหลังเวทีก่อนจะกลับมาอีกครั้งในชุดสูทสีดำกับเพลง "A Man in Love"
จากนั้นก็เป็นการทักทายแนะนำตัวกับเหล่าแฟนๆ พร้อมกับต้อนรับทุกคนเข้าสู่คอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ ซึ่ง อีทึก ก็ตะโกนถามแฟนๆ เป็นภาษาไทยว่า "สนุกไหมครับ" เจ้าตัวก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนเพลงว่า สนุก แล้วพูดต่อเป็นภาษาไทยอีกว่า "ดีมาก คิดถึงมาก" ส่วน ชีวอน ก็ไม่ยอมน้อยหน้าถามชาวเอลฟ์ว่า "เมื่อคืนตัวเองนอนหลับฝันดีไหมครับ วันนี้จะแสดงให้เต็มที่ ต้องช่วยกันกรี๊ดให้เสียงดังๆ นะครับ" เมื่อพูดคุยกันหอมปากหอมคอ หนุ่มๆ ก็ขอเปลี่ยนบรรยากาศไปกับเพลงซึ้งๆ "You're My Endless Love"
สลับอารมณ์มาสนุกกันด้วยเพลง "Oops!!" ของ 4 หนุ่ม อีทึก ดงแฮ อึนฮยอก และ ชินดง ที่ได้ 2 สาว "แอมเบอร์" (Amber) หรือ "แอมเบอร์ โจซิฟิน หลิว" (Amber Josephine Liu) และ "ซอลลี" (Sulli) หรือ "ชเวจินลิ" (Choi Jin-Li) จาก "เอฟเอ็กซ์" (f(x)) มาร่วมร้องสร้างความสนุกสนาน แถม ชีวอน ยังกระโดดขึ้นมาในมาดเท่ ก่อนจะพูดเป็นภาษาไทยกับ อึนฮยอก ว่า "คิดถึงมากเลยรู้ไหม" ซึ่ง อึนฮยอก ก็เลยจุ๊บ ชีวอน เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ และถึงแม้ว่าในคอนเสิร์ตนี้หนุ่ม "คิมฮีชอล" (Kim Hee Chul) จะติดภารกิจไปรับใช้ชาติ แต่ก็ยังส่งภาพวีทีอาร์มาร่วมร้องแร็ปในเพลงนี้ด้วย
หลังจากนั้นต่อด้วย "Wonder Boy" เพลงจังหวะมันอย่าง "Rokkuko!!!" ที่ดูเหมือนว่า อีทึก จะเต้นมันไปหน่อย ทำให้พลาดลื่นล้ม จนเพื่อนๆ ต้องส่งเข้าไปปฐมพยาบาลหลังเวทีกันก่อน จากนั้นไปต่อกันที่เพลงฟังสบายๆ "Walkin'" ที่หนุ่มๆ ผลัดกันออกมาเดินบ้าง ผลัดกันขึ้นสลิงปั่นจักรยานกลางอากาศร้องเพลงกับการจำลองบรรยากาศในสวนสาธารณะมาไว้บนเวทีคอนเสิร์ต ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเดี่ยวของแต่จะคน เริ่มจากสมาชิกชาวจีน หนุ่มตี๋ "เฮนรี่ หลิว" (Henry Lau) ที่มาในเพลง "Billionaire" "Lazy Song" และ "Lighters" พร้อมกับอวดความสามารถทางด้านดนตรีทั้งเล่นกีตาร์ เปียโน และที่ขาดไม่ได้กับการสีไวโอลิน
ส่วนหนุ่ม อึนฮยอก เปิดตัวมาในกล่องรูปเพชรพร้อมกับเพลง "Say My Name" ที่เจ้าตัวขอความร่วมมือจากแฟนๆ ว่าถ้าร้องว่า Say My Name ให้ชาวเอลฟ์ร้องตอบกลับมาเป็นชื่อนักแสดงของไทย ซึ่ง อึนฮยอก ก็พูดเป็นภาษาไทยว่า "วันนี้ผมเป็นณเดชน์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) บอย ปกรณ์ (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) เคน ธีรเดช (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) และ มาริโอ้ (มาริโอ้ เมาเร่อ) นะครับ" แต่พอ อึนฮยอก ร้อง Say My Name เหล่าแฟนคลับก็ตะโกนกลับมาว่า อีฮยอกแจ กันทั้งนั้น เจ้าตัวก็เลยปล่อยให้เลยตามเลย ยอมให้ร้องกลับมาว่า อีฮยอกแจ จนจบเพลง
ต่อด้วย ซองมิน ที่ขอเปลี่ยนเป็นหนุ่มเท้าไฟมาร้องในเพลง "One in A Million" แค่เจ้าตัวประกบคู่เต้นกับเหล่านักเต้น ก็ทำให้แฟนๆ อดอิจฉากันไม่ได้แล้ว แต่ ซองมิน ก็ทำให้ทุกคนตาร้อนขึ้นไปอีกกับฉากจบที่ทั้งกอดและหอมแก้มสาวให้ได้เห็นกันเต็มตา จากนั้นไปพบกับหนุ่มมาดนุ่ม คยูฮยอน ที่ในตอนแรกออกมาพร้อมเปียโนกับดนตรีบัลลาดในเพลง "Isn't She Lovely" แต่ช่วงที่เล่นๆ อยู่ก็มีภาพวีทีอาร์ของตัวเองมาพูดว่า คิดที่จะร้องแต่เพลงบัลลาดอย่างเดียวเหรอ คยูฮยอน ก็เลยขอเปลี่ยนจังหวะดนตรีให้มันขึ้นในช่วงหลังของเพลงและยังหยิบฮาร์โมนิกามาเป่าให้ฟังอีกด้วย
ฟากหนุ่ม รยออุก ขอเปิดตัวด้วยท่านั่งสุดเท่บนโซฟา ออกมาทั้งร้องทั้งเต้นในเพลง "Move Like Jagger" แถมยังเก็บเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับไปได้อีก เมื่อสาวที่เต้นคู่กันได้เปิดเสื้ออวดกล้ามท้องของ รยออุก มาทางด้าน อีทึก ที่ตามกำหนดแล้วต้องเล่นเปียโนพร้อมกับเป่าแซกโซโฟน แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บ เจ้าตัวก็เลยเอ่ยขอโทษแฟนๆ ก่อนที่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งแฟนๆ ต่างๆ ก็ส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เป็นไร หนุ่ม อีทึก ก็เลยร้องเพลงหวานเบาๆ กับ "She" ที่ถือดอกกุหลาบสีแดงนำไปมอบให้กับแฟนคลับด้านล่างเวทีอีกด้วย ฟาก ชินดง สลับร่างมาเป็นผู้หญิงทั้งร้องทั้งเต้นในเพลง "Trouble Maker" และ "Bubble Pop"
จากนั้นเข้าสู่ช่วงสุดฮาที่เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากแฟนๆ กับการแต่งตัวของแต่ละหนุ่ม ซึ่ง ซองมิน มาในชุดกระโปรงขาวสุดพริ้วในแบบนักแสดงสาวชื่อดัง มาริลีน มอนโร ฟาก รยออุก มาแปลกแบบไม่ห่วงหล่อสวมชุดเป็นตัวละคร กอลลัม จากภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Rings ด้าน คยูฮยอน มาในมาดนักธุรกิจและนักประดิษฐ์โทรศัพท์มือถือชื่อดัง สตีฟ จอบส์ ที่ในมือได้ถือตะกร้าเที่ยวเดินแจกแอปเปิ้ลรอบๆ ฮอลล์
ดงแฮ แต่งตัวเป็นนักแสดงชื่อดัง ผู้มีท่าเดินเป็นเอกลักษณ์ ชาร์ลี แชปลิน ส่วน ชีวอน มาในมาดผู้พิทักษ์กับชุดซูเปอร์แมน ขณะที่ อีทึก ขอแปลงร่างเป็นหนุ่มนักมวยปล้ำทรงพลัง ฮอล์ก โฮแกน สำหรับ เยซอง มาแนวโหดกับเจ้าตุ๊กตาแค้นฝังหุ่น ชักกี้ ที่เที่ยวเอามีดไล่แทงคนอื่นๆ ไปทั่ว ด้าน อึนฮยอก มาในชุด ไก่สีขาว และ ชินดง แต่งเป็นนักร้องสาว บริตนีย์ สเปียร์ส ซึ่งทั้ง 9 หนุ่มมาสนุกสนานกันในเพลง "Good Friends" และ "Pajama Party"
จากนั้นมามันกันอย่างต่อเนื่องกับเพลง "Feels Good" แล้วหนุ่มๆ กลุ่ม "ซูเปอร์จูเนียร์ เอ็ม" (Super Junior M) ที่มี 2 หนุ่ม เฮนรี่ และ "โจวมี่" (Zhou Mi) มาในเพลง "Perfection" แล้วมาสนุกกันต่อกับ ซูเปอร์จูเนียร์ ด้วยเพลง "A-CHA" "Mr. Simple" และ "Don't Don" แล้วสลับมาที่เพลงเดี่ยวกันต่อ เริ่มด้วยชายหนุ่มจากแดนมังกร โจวมี่ ในเพลง "Goodbye My Love" งานนี้ก็ได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ไปไม่แพ้ใคร ต่อด้วยคุณพ่อขาของชาวเอลฟ์ ชีวอน มาเล่นกีตาร์พร้อมกับร้องเพลง "Your Grace is Enough" หนุ่ม เยซอง มาอวดพลังเสียงกับเพลง "A Man" สลับขั้วมามันกับ 2 หนุ่ม ดงแฮ และ อึนฮยอก ในเพลง "Oppa Oppa"
เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงช้าๆ ซึ้งๆ กันบ้างในเพลง "Storm" และ "You & I" ก่อนจะสอนท่าเต้นให้เหล่าแฟนๆ รอบๆ ฮอลล์ได้เต้นตามไปพร้อมๆ กันกับเพลง "Lovely Day" แล้วทั้ง 9 หนุ่มก็มานั่งร้องเพลงแบบสบายๆ "Our Love" ที่ทุกคนช่วยกันร้องได้อย่างเสียงดัง แถมยังร่วมกันชูป้าย 6 Years of Us แสดงถึงความรักและความผูกพันระหว่าง ซูเปอร์จูเนียร์ และเอลฟ์ไทยที่มีต่อกันมาตลอด 6 ปีได้เป็นอย่างดี
ยังไม่หมดแค่นั้นทั้ง 9 หนุ่ม ยังส่งวีทีอาร์ล้อเลียนภาพยนตร์เพลงเรื่อง The Sound of Music มาเรียกเสียงหัวเราะกันก่อนที่ทั้งหมดจะออกมาในเพลง "Do Re Mi" ซึ่ง ชินดง รับบทเป็น มาเรีย แม่ชีสาว ประกบกับ ชีวอน ในบทบาทของนายทหาร ผู้กอง ฟอน แทรปป์ ส่วน 7 หนุ่มที่เหลือรับบทลูกๆ ของ ชีวอน ในภาพลักษณ์สุดน่ารัก แล้วมาต่อกันที่เพลง "White Christmas" และ "Dancing Out"
จากนั้นหนุ่มๆ ก็ลาเข้าไปหลังเวที แต่เหล่าแฟนคลับก็ต่างตะโกน ซูเปอร์จูเนียร์ กันดังสนั่น ซึ่งทั้ง 9 หนุ่มก็ออกมาปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับเพลง "Sorry Sorry" แล้วมาต่อกันที่ "Miracle" จากนั้นสมาชิก ซูเปอร์จูเนียร์ ยังได้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อแฟนเพลงชาวไทยและประเทศไทย โดยแต่ละคนคิดตรงกันว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านที่สองของวง ที่มีทั้งความรักและความผูกพัน ก่อนจะปิดท้ายจริงๆ กับเพลง "Destiny" เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาในคอนเสิร์ตเป็น 4 ชั่วโมงสุดคุ้มและประทับใจทั้งตัวศิลปินและเหล่าแฟนคลับกันเลยทีเดียว