กำปั้น บินเดี่ยวพร้อมเปิดตัวซิงเกิลล่าสุด ยังรักกันหรือเปล่า
ห่างหายไปนานกับวงการเพลงไทย กลับมาคราวนี้ "กำปั้น - พีระ พาณิชย์พงส์" อดีตสมาชิกวง "บาซู" พร้อมบินเดี่ยวกับซิงเกิลเปิดตัว "ยังรักกันหรือเปล่า" ภายใต้สังกัด เบาซ์ มิวสิก กับแนวเพลงสนุกที่มีกลิ่นอายเกาหลีเข้าผสมผสานแต่ไม่ทิ้งความเป็นไทย เผยอยากทำให้เห็นว่าศิลปินไทยก็ทำได้หวังทำเพลงที่เน้นการเต้นให้เกิดกระแส ที-ป๊อป โดยเจ้าตัวกล่าวว่า
"ผมไม่ได้คาดหวังว่าเพลง ยังรักกันหรือเปล่า จะประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ แต่ผมหวังให้เพลงนี้ประสบความสำเร็จในแง่ของความแปลกใหม่กับวงการเพลงไทย ยอมรับว่าตัวผมเองก็ห่างหายจากวงการเพลงไปช่วงเวลาหนึ่ง เพราะหลังจากสมาชิกบาซูได้แยกย้ายกันไปทำตามฝันของตัวเอง แต่ผมกลับยังอยากจะร้องเพลงและยังอยากจะเต้นอยู่
คงเป็นความโชคดีของผมด้วยมั้งครับที่ในระหว่างผมกำลังเตรียมตัวทำงานเพลงชุดนี้อยู่บังเอิญผมได้ไปรู้จัก บงวอนชิน (Bong Won Shin) (คนทำเพลงให้กับศิลปินหลายๆ คนในสังกัดเจวายพี) เขาก็เลยแนะนำให้ผมรู้จักกับ ชเวกีซอก (Choi Ki Seok) ซึ่งทำงานอยู่ที่เจวายพีเช่นกัน คือกีซอกเองเขามีทีมทำดนตรีชื่อว่า เอสพีทีเอ็กซ์ (SPTX) ผมเลยคุยโปรเจ็กต์อัลบั้มเดี่ยวกับเขา จากนั้นไม่นานก็ตอบตกลงทำให้ผม ตัวเขาเองได้นำความเป็นมืออาชีพของเขามารวมกับงานเพลงของผม ให้ถ่ายทอดออกมาเป็นเรามากที่สุด เพราะผมอยากทำให้เห็นว่าศิลปินไทยก็ทำได้ ไม่ได้ลอกเกาหลีมาทั้งหมด ผมอยากสร้างกระแสที-ป๊อป ให้รู้จักเหมือนเค-ป๊อป และผมอยากทำให้เห็นว่าอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคในการสร้างฝัน ผมอยากทำให้เห็นว่าถ้าเรามีใจรักที่จะทำอะไรมันย่อมทำได้ครับ
กับเพลง ยังรักกันหรือเปล่า ในเรื่องเนื้อหาของเพลงผมได้ สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา ซึ่งเป็นทั้งนักแต่งเพลงที่มีชื่อและเป็นโปรดิวเซอร์ที่ผมเคยร่วมงานตั้งแต่สมัยบาซูมาช่วยดูให้ในเนื้อหา เพลงต้องการถามคนรักว่าตอนนี้เรายังรักกันดีอยู่ไหมหรือคุณรักคนใหม่แล้ว อีกนัยหนึ่ง ผมก็อยากถามแฟนๆ ที่ยังจำกันได้ว่ายังรักกันหรือเปล่า หรือยังรักกำปั้นอยู่ไหม (ยิ้มๆ) ด้านเมโลดีของเพลงเป็นจังหวะแดนซ์เลยครับ แม้เนื้อหาจะเศร้าแต่ก็แดนซ์ได้ ผมอยากให้เพลงของผมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนฟังครับ"
นอกจากนี้ กำปั้น ยังทุ่มสุดตัวกับการถ่ายมิวสิกวิดีโอ ตะลุยเต้นเต็มที่ถึง 2 วัน 2 คืน ซึ่งนักร้องหนุ่มเผยความรู้สึกว่า "สนุกมากครับ ถือว่าโปรดักชันใหญ่มากเหมือนกัน เพราะเซ็ตถ่ายทั้งสตูดิโอและโกดัง ถึง 2 วัน 2 คืน แล้วด้วยความที่เพลงนี้เป็นเพลงเร็ว จังหวะแดนซ์ผมก็ต้องโชว์สเต็ปตลอดเวลา เหนื่อยมากครับ เพราะก่อนจะถ่ายเอ็มวี ผมก็ต้องเข้าฟิตเนสเฟิร์มร่างกายให้พร้อมก่อนที่จะถ่ายอยู่เป็นเดือนๆ เหมือนกัน
คือในเอ็มวี ผมต้องเต้นให้ออกมาดูเข้มแข็ง เคร่งขรึม สเต็ปท่าเต้นมันก็จะต้องเป๊ะ ซึ่งท่าเต้นผมก็ได้ ทีมของชเวกีซอกจากเกาหลีมาช่วยออกแบบท่าเต้นให้ด้วย แล้วเขาค่อนข้างที่จะมีวินัยมาก อย่างที่บอกกว่าจะได้ท่าเต้นในเอ็มวีนี้ เราก็มีการปรับกันอยู่หลายท่าเหมือนกัน เพราะของเขาจะเกาหลีมากๆ แต่ผมเองก็อยากจะผสมความเป็นตัวตนของเราเข้าไปด้วย เพราะยังไงเราก็คนไทยยังไงเราก็อยากจะนำเสนอความเป็นที-ป๊อปให้มันชัดเจนด้วยเหมือนกัน กับสเต็ปท่าเต้นของเพลงนี้ค่อนข้างจำง่าย ผมว่าน่าจะเต้นตามกันได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องเสื้อผ้าในเอ็มวีตัวนี้ สไตลิสต์ที่มาทำให้ก็จัดเสื้อผ้าชุดใหญ่มาเต็มที่ มีชุดหนึ่งที่ตอกเข็มหมุดมาเกือบทั้งชุด เป็นอะไรที่หนักมาก เวลาออกสเต็ปก็จะหนักเป็น 2 เท่า แต่พอได้ดูเอ็มวีแล้วก็หายเหนื่อยครับ ยังไงก็ฝากติดตามชมกันเยอะๆ นะครับ เพราะผมแล้วก็ทีมงานทุกคนเต็มที่กับเอ็มวีตัวนี้กันมากๆ ครับ"