พิน-เอก พิสูจน์รักมั่นคง อยากเคียงคู่กันจนลมหายใจสุดท้าย

เป็นคู่รักคู่หวานที่ใช้ระยะเวลาคบหาดูใจกันมายาวนานถึง 14 ปี สำหรับคู่ของอดีตนักร้องสาวที่ผันตัวไปตามฝันเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน "พิน - กรพินธุ์ พ่วงโพธิ์" กับนักจัดรายการวิทยุหนุ่ม "เอก กฤษณาวารินทร์" ได้ฤกษ์ดีประกาศสละโสดใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ จัดงานฉลองมงคลสมรส เมื่อค่ำของวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้าก็มีพิธีหมั้นและจดทะเบียนสมรส ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี

รูปแบบของงานนั้นเน้นจัดด้วยความเรียบง่ายแต่อบอวลไปด้วยความหวานของทั้งคู่ โดยมีของชำร่วยที่ใช้มอบแทนคำขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานเป็นซีดี ซึ่งมีเพลง "ข้างข้างเธอ" ที่ พิน แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อมอบแทนความรู้สึกให้ เอก โดยเฉพาะ และก่อนจะเริ่มพิธี เวลาประมาณ 17.00 น. คู่บ่าวสาวก็จูงมือกันมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงงานสำคัญในครั้งนี้

ครั้งแรกที่เจอกันเป็นอย่างไร

พิน "ตอนแรกที่เจอกัน พินเป็นคนที่ชอบร้องเพลงอยู่แล้วตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ไปประกวดโครงการ นัท มีเรีย ซิงกิ้ง คอสเทสต์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ แล้วก็มีโอกาสได้ไปโชว์ในรายการที่พี่เอกเป็นพิธีกรพอดี ก็เลยได้เจอกันครั้งแรกวันนั้น"

เจอครั้งแรก ปิ๊งทันทีเลยไหม

เอก "ตอนแรกก็ยังไม่ค่อยครับ เขาดูเรียบๆ ตอนนั้นเขายังเด็กมากครับ ยังเรียนไม่จบเลยแล้วเขาไปประกวด เผอิญชนะแล้วก็มาออกในรายการ ปกติแล้วรายการผมเป็นรายการเพลง ก็จะมีแขกรับเชิญเป็นศิลปิน ดารา แล้วก็เป็นวีกนี้ที่เป็นพิเศษเพิ่มมา คือ เขาชนะซิงกิ้งของ นัท มีเรีย ก็เลยมาโชว์ในรายการ เจอครั้งแรกก็ประทับใจเลยครับ ยิ้มให้แล้วไม่ยิ้มตอบ"

พิน "(หัวเราะ) มองไม่เห็นค่ะ จริงๆ แล้ว พอหลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสไปโชว์อีกครั้งหนึ่ง ครั้งที่ 2 ก็เลยได้คุยกัน พี่เอกบอกว่าร้องเพลงเพราะเหมือนเดิมเลยนะครับ จำได้"

เจอกันก่อนที่จะมาเป็นนักร้อง

พิน "ตอนนั้นยังเรียนอยู่ปี 2 ปี 3"

เอก "ชอบเด็กครับ ชอบเด็กในเครื่องแบบ"

ประทับใจซึ่งกันและกันตรงไหน

เอก "ผมประทับใจตรงที่เขาเป็นคนง่ายๆ มองโลกในแง่ดี สบายๆ ไม่ได้มีอะไรลึกๆ ในใจ เป็นคนไม่ซับซ้อน เป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้ววงรอบตัวผมไม่อึดอัด เขาอยู่ด้วยแล้วเขาอยู่กับเราได้"

พิน "รู้สึกว่าพี่เอกเขาเป็นคนที่ตั้งแต่รู้จักจนถึงทุกวันนี้เขาเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นตลอด เราสามารถจะปรึกษาได้ทุกเรื่อง อยู่กับเขาก็รู้สึกอบอุ่น เขาเป็นทุกๆ อย่างจริงๆ ในชีวิต ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงทุกวันนี้ ด้วยอาชีพการงานด้วยมั้งคะที่ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร เมื่อก่อนเป็นนักร้อง ก็เจอกันยากนิดหนึ่ง ตอนนี้ก็ไปเป็นแอร์โฮสเตสแล้ว ตอนไปบินก็จะที 10 กว่าวัน แต่เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ตอนที่ไปบินก็โทรคุยกัน ติดต่อกันตลอด เหมือนเราไม่ได้ห่างกันไปไหน"

ช่วงที่คบหาดูใจช่วงนั้นยากไหม

พิน "จริงๆ ก็ยากนะ"

เอก "เป็นยุคมากกว่าครับ เผอิญยุคนั้นค่อนข้างจะต่างจากยุคนี้ ยุคนี้ค่อนข้างจะเปิดเผยมากกว่า ยุคนั้นค่อนข้างปิดบังพอสมควร กลัวเสียภาพลักษณ์นักร้องรุ่นใหม่มีแฟนแล้ว กลัวคนไม่ยอมรับมากกว่า"

อึดอัดไหมช่วงนั้น

เอก "ไม่ ก็เข้าใจครับ เราก็อยู่ตรงนี้ เราก็เห็นอะไรมาเยอะพอสมควร คิดว่าก็คงต้องมีเรื่องแบบนี้แหละ รู้ตั้งแต่วันแรกที่คิดจะจีบเขาแล้วว่าจะต้องเป็นยังไงต่อไปในอนาคต"

พิน "ก่อนที่จะไปเป็นนักร้อง เขาก็จะเตือนว่าพอเข้าวงการนี้เราจะต้องเจออะไรบ้าง ก็เตรียมใจกันไว้แล้ว"

ผันจากนักร้องไปเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

พิน "ตอนแรกเป็นนักร้อง 7-8 ปีได้นะคะ แล้วก็ไปสมัครแอร์ฯ (แอร์โฮสเตส) ก็ประมาณ 7-8 ปีเหมือนกัน ตอนนี้อยู่สายบินของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งค่ะ"

บรรยากาศตอนขอแต่งงานเป็นอย่างไร

เอก "จริงๆ เรื่องแต่งงาน ผมเฟลมา 2 รอบ ผมขอเขามา 2 ครั้งแล้ว เพิ่งมาสำเร็จครั้งที่ 3 ครั้งแรกเมื่อประมาณสัก 7 ปีที่แล้ว ครึ่งหนึ่งพอดี พอเลยหลัก 7 ไป ซึ่งเป็นเลขอาถรรพ์ หลายๆ คนบอกว่าจะเรียบร้อยแน่นอน ไม่น่าจะรอดกัน แต่ว่าเราก็ผ่านมาได้ ก็เลยลองแย็บๆ ถามเขา ไม่ได้จริงจัง ทีเล่นทีจริง ฟอร์มเยอะ ก็เลยเฟลเลย แต่งงานกันไหม ยังไม่พร้อม ตอนนั้นเขามีอะไรยังต้องทำอีกเยอะ ต้องดูแลคุณแม่เขา เขาอยู่กับคุณแม่ 2 คน เพิ่งจะเปลี่ยนอาชีพ เพิ่งจะเริ่มต้นการเป็นแอร์ฯ เขาก็เลยรู้สึกยังสนุกกับชีวิตในตรงนั้น ก็เลยยังไม่พร้อมมีครอบครัว ครั้งที่ 2 ประมาณ 3 ปีที่แล้ว"

พิน "ก็ไปงานแต่งงานเพื่อน พี่เอกก็จะประมาณว่าเมื่อไรล่ะ งานแต่งงานเราเมื่อไร"

เอก "เขาก็บอกว่างานน่ารักเนอะ งานดูดีนะ ผมก็เสียบเลย เมื่อไรจะมีงานของเราล่ะ"

พิน "พินก็อึ้ง ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เขาก็หน้าสลดไปเลย"

เอก "โดนตบหน้าเน็ตไป 2 รอบ ก็เลยเฟลไป แล้วก็ล่าสุดคือหลังจากนั้นอีก 2 ปี ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาก็เริ่มลงตัวกับชีวิตมากขึ้น เห็นคนนู่นคนนี้แต่งงานกัน ก็เลยอยากจะมีอะไรแบบนี้บ้างกับชีวิต เขาก็เกริ่น น่าแต่งงานเนอะ พร้อมแล้วนะ พูดลอยๆ มาตลอดเวลา ผมก็นิ่งบ้าง"

พิน "เห็นเงียบไปแล้ว ไม่พูดถึงอีกเลย สรุปบอกว่าหมดโปรโมชันแล้ว พี่จะไม่ขออีกแล้ว เริ่มเล่นตัวแล้วค่ะ (หัวเราะ)"

เอก "มันหมดโปรโมชันไปแล้ว เพราะว่า 2 ครั้ง แต่จริงๆ แล้วผมก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ในใจ แต่จะแกล้งเขาคืน ทำนิ่งๆ ไป รอไปเรื่อยๆ ไม่สนใจ จนวันเกิดปีที่แล้ว วันเกิดเขาเดือนมีนาคม ปกติผมจัดรายการตอนกลางคืน 2 ทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืน ตอนช่วงหัวค่ำก็ไม่มีเวลากินข้าวเย็นด้วยกันอยู่แล้วปกติ แล้วโดยที่ผ่านมาโมเมนต์สำคัญ วันเกิด วันวาเลนไทน์ วันปีใหม่ เขาจะติดบินตลอด ก็ไม่มีโอกาสอยู่ด้วยกัน จนปีที่แล้วโอกาสเหมาะ วันคล้ายวันเกิดเขาอยู่กรุงเทพฯ พอดี อยู่เป็นช่วงพักระหว่างการบินของเขาแล้วก็ที่จะบินต่อ

ผมก็วางแผนเลย ปีนี้ไม่ได้ลาไว้ เดี๋ยวไปจัดรายการตามปกตินะ ก็ไม่เป็นไรหรอก ปกติก็ไม่อยู่ด้วยกันอยู่แล้ววันคล้ายวันเกิด เขาก็อยู่บ้าน ก็โอเคไม่เป็นไร เขาก็เข้าใจ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติไปแล้ว เหมือนผมไปจัดรายการปกติ แต่เขาไม่ได้ฟังรายการที่ผมจัด เขาก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆ แล้วผมไม่ได้ไป เพราะผมลาไว้แล้ว ผมลาปุ๊บผมก็เอาเวลาช่วงเย็นไปเดินหาซื้อของขวัญ ไปซื้อเค้กมา เป็นแยมโรลกรีนที เขาชอบกินชาเขียว แล้วก็ไปซื้อแหวนเพชรวงหนึ่ง เหมือนในหนังเลย ซื้อมาปุ๊บก็เอาแหวนใส่เข้าไปในแยมโรล ซ่อนเอาไว้

แล้วก็แอบไปเซอร์ไพรส์ที่บ้านเขาประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ เกือบ 3 ทุ่ม เขาเห็นเขาก็ตกใจ อ้าว ไหนบอกว่าไปจัดรายการ ผมก็บอกว่าตั้งใจไว้ จริงๆ ผมจะชอบเซอร์ไพรส์เขาตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่ได้หวานนะ แต่ชอบแกล้งมากกว่า ให้แปลกใจ ตกใจ ดีใจ ก็อะเนี่ยซื้อเค้กมาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ก็นั่งกินกัน ปกติเขาเป็นคนดูแลสุขภาพค่อนข้างเยอะ เลย 6 โมงไปแล้วอะไรที่หวานๆ อย่าได้มาเลย ไม่กิน ข้าวก็ยังแทบจะไม่กินเลยช่วงนั้น ผมก็อะกินหน่อย วาระพิเศษ ก็นั่งกินกัน ตักช้อนคนละคันกินด้วยกัน ผมก็รู้แล้วแหวนอยู่ตรงไหน ผมก็รอตัก เขาก็ตัก ไม่เข้าเป้าสักที กะให้ตักแล้วพอดี ไม่ได้ล่ะเสียเวลา ผมก็ตักๆ ป้อนเลย สุดท้ายก็ไม่โดน จนต้องเหลือคำสุดท้ายให้เขา เขากินเข้าไปแล้วเจอ"

พิน "ก็ดีใจ น้ำตาร่วงตรงนั้นเลย แผละๆ พี่เอกก็บอกว่าแต่งงานกับพี่นะ ตกลงเลย

14 ปีที่ผ่านมาดูแลความรักกันอย่างไร เพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน

พิน " ��าจจะเป็นโชคดีด้วย เหมือนเรา 2 คนก็มีโอกาสที่จะเจอคนเยอะนะคะ ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้เรารู้สึกว่าคนอื่นไม่ใช่ เราคือกันและกันนี่แหละ ก็ไม่ได้มีใจวอกแว� "

เอก " ��หมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เรียนรู้ด้วยระยะเวลาที่ยาวพอสมควรทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้กัน ในระหว่างนั้นอย่างที่น้องเขาบอก อาชีพของเรา 2 คนมีโอกาสเจอะเจอคนนู่นคนนี้บ้าง แต่ว่าพอไปศึกษากันจริงๆ หรือว่าไปลองคุยแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่ คนนี้แหละใช่ที่สุดแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราลงตัวด้วยมุมมองความคิดต่างๆ เหมือนกันหมด จริงๆ แล้วพื้นเพค่อนข้างจะแตกต่างกันด้วยซ้ำไป นิสัย ความชอบอะไรแตกต่างกัน แต่ปรากฏว่าความแตกต่างของเรากลับมาเติมเต็มความแตกต่างซึ่งกันและกัน ก็เลยลงตัว

เขาก็มีในสิ่งที่ผมไม่มี ผมก็มีในสิ่งที่เขาไม่มี แล้วพอมาอยู่ด้วยกันไม่รู้สึกว่ากดดันมาก เขาไม่ได้พุชในความเป็นผมมาก ต้องการมาอยู่ในโลกส่วนตัวของผมมากจนเกินไป ผมก็รู้สึกว่าอยู่กับผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น ไม่ต้องพยายามเอาใจ ต้องเป็นคนดีเพื่อเอาใจเขาเพื่อให้เขารักเรา เราสามารถเป็นตัวของเราเองได้ เราสามารถมีมุมแย่ๆ ได้ สามารถทำอะไรไม่ดีได้ ทำอะไรน่าเกลียดได้ เขาก็รับได้ ซึ่งกับคนอื่นทำไม่ได้ เขาก็โอเ� "

พิน " ��รา 2 คนก็มีโลกส่วนตัวเหมือนกัน ด้วยความที่มีโลกส่วนตัว เราก็ยังมีกันและกันอยู่ตลอดเวล� "

หลังแต่งงานยังทำงานบนเครื่องบินเหมือนเดิมไหม

พิน " ��ังมีสัญญาเหลืออีก 2 ปีค่ะ เดี๋ยวค่อยคิดอีกท� "

วางแผนเรื่องทายาทไว้อย่างไร

พิน " ��ังชอบเที่ยวกันอยู่เล� "

เอก " ��ิ่งหนึ่งที่ทำให้เรา 2 คนเข้ากันได้ดี คือเรา 2 คนเป็นคนชอบเที่ยวด้วยกัน ชอบเดินทาง ลุยๆ เราก็เคยคุยกันว่าถ้าเกิดเรามีลูก แผนชีวิตจะเปลี่ยนไปหมดเลยนะ ไม่สามารถไปเที่ยวต่อไปแล้วแหละ ต้องวางแผนเผื่อเขาในอนาคตอีกหลายปีเลยทีเดียว กว่าเขาจะโต กว่าเขาจะดูแลตัวเองได้ กว่าเราจะปล่อยเขาไปสู่โลกได้ต้องใช้เวลาอีกเยอะ คงจะตัดขาดจากเรื่องราวของการที่เป็นส่วนตัวของเราไปเล� "

พิน " ��ดี๋ยวขอประสบการณ์ชีวิตอีกสักหน่อย เดี๋ยวต้องคุยกันอีกท� "

เอก " ��ราเคยคุยกันว่าเราจะไม่มี เพราะว่าที่บ้านผมหลานเยอะ เบื่อเด็กมากเลย ไม่ได้เกลียดเด็กนะครับ เบื่อเพราะว่าเยอะมาก เขาเองก็ไม่ค่อยรู้สึกอยากจะมีเท่าไร กลัวโดนแย่งความรัก ก็เลยไม่อยากมี (หัวเราะ "

พิน " ��นาคตก็ยังไม่แน่นอ� "

ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ไหน

พิน " ��ริงๆ มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันกุมภาฯ นี้ แต่ไม่ทราบจะเรียกว่าฮันนีมูนหรือเปล่า เพราะว่ามีเพื่อนไปอีก 10 กว่าค� "

แหวน

เอก " ��ระมาณ 2-3 กะรัต จำไม่ได้เหมือนกั� "

สินสอดเป็นอะไรบ้าง

เอก " ��ป็นเครื่องเพชรที่พินเขาใส่อยู่ แล้วก็มีทองอีกชุดหนึ่ง เป็นสร้อยทอง ทองคำแท่ง รวมๆ แล้วก็น่าจะอยู่ที่ล้านกว่า� "

คำมั่นสัญญาที่ให้กัน

เอก " ��ราอยู่กันมาจนถึงขั้นที่คงไม่ต้องมีคำสัญญาแล้วล่ะ สิ่งที่เราผ่านมาทั้งหมด สิ่งที่เราปฏิบัติเคยทำกัน มันมากกว่าคำสัญญา ผ่านจุดของคำว่า ฉันจะรักเธอไปจนตายนะ ไม่ใช่แล้� "

พิน " ��ี่เอกเคยพูดว่าพี่เอกจะไม่สัญญาอะไร อยากให้ดูที่การกระทำของเขามากกว่า 14 ปีก็พิสูจน์กันมาแล้ว ก็รอหลังจากนี้ไปอีกตลอดชีวิ� "

เรือนหออยู่แถวไหน

เอก " ��ยู่ตรงแถวซอยนาคนิวาสครับ เป็นทาวน์โฮมหลังเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะอยู่กัน 2 คนไม่รู้จะอยู่หลังใหญ่ไปทำไ� "

มีเตรียมของขวัญพิเศษให้กันไหม

เอก " ��ีสายสืบแว่วๆ มาว่าเขาเตรียมเซอร์ไพรส์อะไรผมสักอย่างบนเวที แต่ไม่ยอมบอกชัดเจนแน่นอ� "

พิน " ��้องรอดูกันเอ� "

เอก " ��มก็ไม่น้อยหน้า ต้องคอยดูกันต่อไ� "

จากนั้นทั้งคู่ก็ไปเตรียมตัวเพื่อต้อนรับแขก ญาติผู้ใหญ่ ดาราและศิลปินนักร้องในวงการมาร่วมแสดงความยินดี ก็มี " ��อย - ถกลเกียรติ วีรวรร� " มาคู่กับภรรยา " ��ริม - กณิการ์ วีรวรร� " ด้าน " ��้อม - พิยดา จุฑารัตนกุ� " ควงมากับ " ��าท - ศรา จุฑารัตนกุ� " ส่วน " ��ิมพ์ - พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภก� " ก็มากับ " ��่าน - ธนกฤต พานิชวิทย� " ตามมาด้วย " ��อย - ชีวิน โกสิยพงษ� " " ��ก๋ - ชลลดา เมฆราตร� " " ��บล - สุพล พัวศิริรักษ� " " ��ูริ หิรัญพฤกษ� " และ " ��อิร์น - จิรวรรณ เตชะหรูวิจิต� "

รวมถึงเพื่อนๆ ร่วมอาชีพดีเจ อาทิ " ��้อม - สุนิสา สุขบุญสังข� " " ��ู๋ - มนทิพย์ ลิปิสุนท� " " ��ัฟ - สุธิดา พลาวงศ� " " ��ชาเชา - ชวลิต ศรีมั่นคงธรร� " " ��๋อง - เขมรัชต์ สุนทรนนท� " " ��ป๊ก - เปรมณัช สุวรรณนานนท� " " ��ป้ง - ณัฏฐพงษ์ แตงเกษ� " " ��าร์ต - มารุต ชื่นชมบูรณ� " " ��จม - จิตตริน กุลกัลยาด� " ด้าน " ��อม - ภัสสร พัชรสรวุฒ� " ก็ควงหนุ่ม " ��ด่ง - ศิระ รัตนโภคาสถิ� " มาร่วมงาน

ในส่วนของพิธีการก็ได้ 2 ดีเจอารมณ์ดี " ��อก - เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ� " และ " ��ฟี๊ยต - สิปปพล จารุพัชน� " ทำหน้าที่เป็นพิธีกร โดยมีหัวเรือใหญ่แห่ง เอไทม์ มีเดีย " ��อด - สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธย� " เป็นประธานในพิธีขึ้นคล้องมาลัยมงคล และกล่าวอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว

จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เล่าเรื่องราวความรักหวานปนเสียงหัวเราะให้แขกที่มาร่วมงานได้ทราบ ซึ่งเจ้าสาวก็แอบทำให้เจ้าบ่าวออกอาการเขิน เมื่อเอาเทปที่แสดงมุมหวานและน่ารักของ เอก ซึ่งเป็นเทปที่ เอก เคยอัดเสียงในสมัยที่เพิ่งเริ่มคบกันแรกๆ เอาไว้ให้ พิน ฟังในเวลาที่ต้องห่างกัน มาเปิดให้ได้ฟังกัน แล้ว พิน ก็ขอมอบของขวัญพิเศษสุดหวานให้ เอก เป็นบทเพลงที่แต่งขึ้นมาเองกับเพลง " ��้างข้างเธ� "

พิน พูดความรู้สึกกับ เอก ว่า " ��อบคุณพี่เอกมากๆ แล้วก็ขอบคุณทุกๆ อย่างที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ได้มารักกันนะคะ สิ่งที่พี่เอกได้ทำมาตั้งแต่รู้จักกันมา ก็ประทับใจในทุกๆ อย่าง พี่เอกเป็นคนจริงใจ บางทีก็เป็นคนตรงๆ ซึ่งตรงมากเกินไปในบางที แต่เขาก็พยายามที่จะปรับตัวให้กับพิน ทำให้เราคบกันได้อย่างไม่มีปัญหา พี่เอกบอกว่าพินได้เปลี่ยนนิสัยเขา ทำให้เขาใจเย็นลง ซึ่งบางทีพินก็มีอารมณ์ที่ใจร้อนบ้างเหมือนกัน จากวันนี้ไปก็พยายามจะเป็นคนที่เหตุผลแล้วก็ใจเย็นลงเหมือนกันนะคะ ก็จะเป็นภรรยาที่ดีของพี่เอกตลอดไ� "

ด้านเจ้าบ่าวก็ไม่น้อยหน้าขอบอกความรู้สึกที่มีต่อเจ้าสาวเป็นเพลงแทน ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่แต่ยังไม่มีชื่อเพลง ที่เจ้าตัวไปขอให้ " ��ตน - จักรธร ขจรไชยกู� " หรือ " ��ตน โซฟ� " แต่งให้ โดย เจ้าตัว อธิบายถึงเนื้อเพลงว่า " ��มก็อธิบายคอนเซปต์ว่าอยากได้เพลงประมาณว่าเจอคนที่เราอยู่กันมา ได้ระยะเวลาที่พิสูจน์อะไรหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างแล้ว แล้วก็รู้สึกมั่นคงกับเขาคนนี้ แล้วก็อยากจะเดินไปด้วยกับเขาไปจนลมหายใจสุดท้า� " นอกจาก เอก จะกล่าวขอบคุณครอบครัวของตัวเองที่เลี้ยงดูแล้ว ก็ยังฝากคำขอบคุณไปถึงคุณแม่ของ พิน ว่า " ��อบคุณคุณแม่พินนะครับ ที่เลี้ยงดูพินมาเป็นอย่างดี ที่ทำให้ผมได้เจ้าสาวที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในชีวิตของผมคนนี้ครั� "

จากนั้นก็ได้เวลาของการตัดเค้กซึ่งเป็นคัฟเค้กสีหวานๆ นำไปมอบให้กับประธาน ผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย โดยในระหว่างที่ตัดเค้กก็มีเสียงเพลงจาก " ��อร์ด - สบชัย ไกรยูรเส� " " ��้าร์ - สุรชัย วงษ์บัวขา� " หรือ " ��้าร์ มิสเตอร์ที� " และ " ��ู๋ - ธรรพ์ณธร ปาละกะวงศ์ ณ อยุธย� " มาช่วยขับกล่อมหวานให้กับเพลง " ��ยุดตรงนี้ที่เธ� " และ " ��ม่ต้องมีคำบรรยาย" ก่อนจะเป็นการโยนช่อดอกไม้ แล้วก็ยังมีบทเพลงเพราะๆ จากเพื่อนศิลปินที่พลัดกันมาขับกล่อมเพิ่มบรรยากาศหวานซึ้งกันตลอดงาน