ลูซิเฟอร์ รวมตัวระเบิดความมันใส่ Aucifer 10th Anniversary

วงดนตรีร็อกชื่อดังของญี่ปุ่น "ลูซิเฟอร์" (Aucifer) ที่ประกอบไปด้วย "มาโกโตะ โคชินะกะ" (Makoto Koshinaka) (ร้องนำ) "อัตซึโระ" (Atsuro) หรือ "ไดสุเกะ คาโต้" (Daisuke Kato) (กีตาร์) "ยูกิ" (Yuki) หรือ "ยูกิ มาซาฮิโกะ" (Yuuki Masahiko) (กีตาร์) "โทวะ" (Towa) หรือ "ทางุจิ โทโมโนริ" " (Taguchi Tomonori) (เบส) และ " ��ันต� " (Santa) หรือ " ��าเบะ โทร� " (Abe Toru) (กลอง) กลับมารวมตัวทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากแต่ละคนได้แยกย้ายไปทำงานตามความถนัดของตัวเองเมื่อ 7 ปีที่แล้ว

การกลับมาคราวนี้ทั้ง 5 หนุ่ม ขอมาฉลองครบรอบ 10 ปีของวง ร่วมกับแฟนเพลงชาวไทยกับคอนเสิร์ต "Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok 2010" ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา ณ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2553 ทั้ง 5 หนุ่มก็ปรากฏตัวท่ามกลางเสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับที่รัก ลูซิเฟอร์ อย่างเหนียวแน่น ที่มารอให้ต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ลานดิสคัฟเวอร์รี่พลาซ่า สยามดิสคัฟเวอร์รี่ เพื่อร่วมแถลงข่าว พูดคุยถึงคอนเสิร์ตและการรวมตัวในครั้งนี้

ทักทาย

โทวะ "สวัสดีครับ ผมชื่อโทวะครับ (ภาษาไทย)"

มาโกโตะ "สวัสดีครับ ผมชื่อมาโกโตะครับ คิดถึงเมืองไทยมากๆ (ภาษาไทย)"

ยูกิ "สวัสดีครับ ผมชื่อยูกิ (ภาษาไทย)"

อัตซึโระ "สวัสดีครับ ผมอัตซึโระ (ภาษาไทย)"

ซันตะ "ผมชื่อซันตะ (ภาษาไทย)"

การรวมตัวกันครั้งนี้ ในเรื่องของดนตรีทำงานยากหรือง่ายขึ้นกว่าเดิม

มาโกโตะ "7 ปีที่ผ่านมา ทุกคนก็ได้ฝึกฝนทางด้านดนตรีทุกวัน ฝีมือตอนนี้ดีขึ้น ได้มาเจอกัน ได้มาเริ่มโน้ตตัวแรกที่ออกมา ทำให้คิดถึงวันแรกที่เราได้เล่นมาด้วยกันครับ"

แต่ละคนชอบเพลงไหนของ ลูซิเฟอร์ มากที่สุด

โทวะ "ชอบเพลงในอัลบั้มสุดท้าย เพลง Carnation Crime ครับ"

มาโกโตะ "แน่นอนครับ เพลง Datenshi Blue ครับ"

ยูกิ "ชอบ Shooting Star เพราะว่าเป็นคนแต่งเองครับ"

อัตสึโระ "เลือกยากเหมือนกัน ก็ดีทุกเพลง แต่ช่วงนี้ถ้าไปคาราโอเกะ จะร้องเพลง See You ครับ"

ซันตะ "แต่ละคนชอบอะไรที่เป็นของตัวเอง แต่งเองบ้าง ส่วนผมพอได้มารวมวงอีกครั้ง มานั่งฟังเพลง ชอบที่สุดน่าจะเป็นเพลง Regret ครับ"

อะไรคือเสน่ห์ของ ลูซิเฟอร์

มาโกโตะ "เสน่ห์ ก็คือ ความเร่าร้อนของเวทีนี้ครับ พรุ่งนี้คอนเสิร์ตจะร้อนกว่านี้ครับ"

ความพิเศษที่เตรียมมาในคอนเสิร์ต

มาโกโตะ "ที่จริงแล้วคอนเสิร์ตได้แสดงมาถึง 4 ครั้งแล้ว เมืองไทยเป็นครั้งที่ 5 ก็ได้เตรียมเพลงที่แฟนๆ ชาวไทยโปรดและติดหูมาเล่น ได้อะเรนจ์เพลงที่แฟนๆ ชอบอย่างเดียวเลย เพื่อคนไทยโดยเฉพาะครับ"

นอกจากนั้น ทั้ง 5 หนุ่ม ลูซิเฟอร์ ก็ยังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแบบพิเศษอีกด้วย

ระหว่างที่แยกวงกันไป แต่ละคนไปทำอะไรกันบ้าง

โทวะ "หลังจากที่ได้แยกวงไปก็ได้ทำวงของตัวเอง แล้วก็ไปซัปพอร์ตให้กับวงอื่นด้วยครับ"

ยูกิ "หลังจากที่แยกวงไปปีหนึ่งก็ได้ทำวงของตัวเอง ชื่อวง ดัสตาร์-ทรี (Dustar-3) ตอนนี้ก็มา 6 ปีแล้ว นอกจากนั้นก็ได้ไปเล่นกีตาร์ให้กับวง แอกซิก แบล็ก เชอร์รี่ (Acid Black Cherry) ด้วยครับ"

มาโกโตะ "หลังจากที่ได้แยกวงไปแล้ว ก็ได้มาโซโลที่เมืองไทย ประทับใจเมืองไทยมาก ไปพัทยามาด้วย แล้วก็ไปทำงานเกี่ยวกับการแสดงด้วยครับ"

อัตซึโระ "หลังจากที่แยกวง ก็ไม่ได้ทำวงใหม่ของตัวเอง แต่ก็ทำงานเบื้องหลัง ไปเรียบเรียงทำนองให้กับการ์ตูนอนิเมตครับ"

ซันตะ "หลังจากที่ได้แยกวงไปแล้ว ก็ได้ทำวงของตัวเอง แล้วก็มีซัปพอร์ตให้กับวงอื่นด้วย นอกจากเพลงร็อกแล้ว ยังมีซัปพอร์ตในด้านดนตรีอาร์แอนด์บีด้วยครับ"

รู้สึกยังไงบ้าง กับการกลับมารวมตัวครั้งนี้

ซันตะ "เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนที่เป็นลูซิเฟอร์ก็ยังรู้สึกคอมเพล็กซ์อยู่ครับ ตอนนี้มาเจอกันใหม่ ต่างคนต่างฝีมือดีขึ้นแล้ว แสดงถึงลูซิเฟอร์ก็ยังเล่นกันต่อไปได้"

อัตซึโระ "ที่ผ่านมารู้สึกได้ว่าแต่ละคนพัฒนาขึ้น ได้มารวมกันอีกที รู้สึกว่าต้อง 5 คนนี้เท่านั้นถึงจะเป็นลูซิเฟอร์ได้"

มาโกโตะ "หลังจากได้กลับมาเล่นอีกที รู้สึกถึงรอยยิ้มของแฟนๆ แล้วยิ่งครั้งนี้ได้มาเมืองไทย ได้เห็นแฟนๆ ให้รอยยิ้ม ให้การต้อนรับที่ดีมากๆ พวกเราก็อยากให้รอยยิ้มคืนสู่แฟนๆ ด้วยการมาเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ครับ"

ยูกิ "หลังจากที่ห่างหายกันไปแล้วได้มารวมตัวกันอีกที รู้สึกว่าพวกเราสุดยอดนะ"

โทวะ "ได้มารวมวงกันอีกครั้ง รู้สึกสนุก รู้สึกถึงพลังมหัศจรรย์ของวงลูซิเฟอร์ครับ"

ทำไมถึงเลือกประเทศไทยในการจัดคอนเสิร์ต

ซันตะ "เพราะว่าได้มาจัดคอนเสิร์ตอนแยกวงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ส่วนที่ญี่ปุ่นเองพวกเราก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ถ้ากลับมารวมตัวกันอีกครั้งก็น่าจะมาที่ไทยด้วยอีกสักครั้งหนึ่งครับ"

ความรู้สึกถึงแฟนๆ

โทวะ "ยังจำได้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แฟนๆ ให้การต้อนรับอบอุ่นมาก ครั้งนี้ก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเช่นกันครับ"

ยูกิ "รู้สึกว่าแฟนๆ ชาวไทยแอ็กทีฟตลอดเวลานะครับ"

มาโกโตะ "ตอนนี้อยากเอาแฟนๆ ทั้งหมดมาบีบๆ รวมกัน แล้วค่อยๆ แงะออกมากอดทีละคนครับ (หัวเราะ)"

อัตซึโระ "รู้สึกว่าแฟนๆ ชาวไทยใจดีครับ ให้การต้อนรับที่อบอุ่นมาก ก็หวังว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้คงจะได้รับการต้อนรับที่ดีเช่นกันครับ"

ซันตะ "แฟนเพลงชาวไทยทุกคนอบอุ่น รู้สึกแฮปปี้ มีความสุขมากครับ"

ฝากถึงแฟนเพลงชาวไทย

ซันตะ "คิดว่าเมืองไทยเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของผม นอกจากคราวนี้ที่มาคอนเสิร์ตแล้ว หลังจากนี้คิดว่าจะมาอีกเรื่อยๆ ถ้าเจอบนถนนอย่าลืมเรียกด้วยนะครับ"

อัตซึโระ "ชอบอาหารไทยมาก จะมาทานอาหารไทยที่เมืองไทยอีก ถ้ามีโอกาสรบกวนแฟนๆ เรียกร้องหน่อยนะครับ ให้มาอีกนะครับ"

มาโกโตะ "อยากจะฝากคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้ ให้เป็นคอนเสิร์ตที่อยู่ในใจแฟนเพลงตลอดไปนะครับ"

ยูกิ "อยากจะขอบคุณแฟนเพลง คอนเสิร์ตครั้งนี้เกิดขึ้นได้ ก็เพราะแฟนเพลงชาวไทยยังให้การต้อนรับที่อบอุ่นอยู่นะครับ ขอบคุณครับ"

โทวะ "ฝากคอนเสิร์ตวันพรุ่งนี้ด้วยนะครับ อยากให้มาร่วมสนุกกัน แล้วก็ขอฝากลูซิเฟอร์ด้วยนะครับ"

และแล้วเวลาที่เหล่าสาวกเพลงเจร็อกรอคอยก็มาถึง กับคอนเสิร์ต Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok 2010 ที่พอทั้ง 5 หนุ่มเริ่มต้นระเบิดความมันก็เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้อย่างดังกระหึ่ม และทำเอาแฟนๆ ถึงกับนั่งไม่ติด ลุกขึ้นโยกตั้งแต่เพลงแรกกับ "Datenshi Blue" ตามมาด้วย "Carnation Crime" และ "Furueru Maguma" จากนั้น มาโกโตะ ก็พูดกับแฟนเพลงเป็นภาษาไทยว่า "เราคือลูซิเฟอร์ พร้อมหรือยัง ช่วยกันร้องด้วย" จากนั้นไปสนุกกันต่อกับ "Plasmagic" ต่อด้วย "Jealousy" ตามมาติดๆ กับ "Dummy" ที่มีดอกกุหลาบสีแดงก้านยาวมาโยนมอบให้กับแฟนเพลง

แล้วสมาชิกแต่ละคนก็ทักทายเป็นภาษาไทย เริ่มที่ โทวะ พูดว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อโทวะครับ ขอเสียงหน่อย ผมชอบคนไทย" ต่อด้วยมือกลอง ซันตะ ที่บอกว่า "ผมชื่อซันตะ จุ๊บๆ ผมจะตีให้สุดชีวิต" ด้าน ยูกิ ถึงขั้นหยิบกระดาษที่เตรียมคำพูดเอาไว้ขึ้นมาอ่านให้แฟนๆ ฟัง "สวัสดีครับ ผมชื่อยูกิ ผมหล่อไหม ผมหล่อที่สุด อยากขี่ช้าง ช้างน่ารักมาก คนไทยน่ารักมาก" ส่วน มาโกโตะ บอกว่า "ผมชื่อมาโกโตะ" และ อัตซึโระ ที่กล่าวว่า "ผมชื่ออัตซึโระ รักนะจุ๊บๆ ทุกคนน่ารักมาก ผมรักเมืองไทยมาก ดีใจที่ได้กลับมาอีก" ซึ่งแต่ละประโยคที่ทั้ง 5 หนุ่มพูดมาก็เรียกเสียงกรี๊ดได้อย่างต่อเนื่อง

จากนั้น มาโกโตะ ก็ถามความพร้อมของแฟนๆ แล้วไปต่อกันด้วย "Tsubasa" และ "Tokyo Illusion" คั่นจังหวะด้วยเพลงช้าๆ กันบ้างกับ "Love & Pain" ต่อด้วย "Orange" แล้วมาเพิ่มระดับความมันด้วยเพลง "Junk City" และ "C no Binetsu" แล้ว มาโกโตะ ก็พักมาพูดกับแฟนๆ เป็นภาษาไทย "ผมรักทุกคนเลย ขอบคุณทุกคนที่มาดูนะครับ ดีใจที่ทุกคนมาดูลูซิเฟอร์วันนี้" แล้วชวนมาช่วยกันร้องในเพลง "Lucy" ที่ทำเอาแฟนเพลงถึงกับกลั้นเสียงกรี๊ดไว้ไม่อยู่ ก็เมื่อ มาโกโตะ กอดคอ ยูกิ ร้องเพลงก่อนจะหอมแก้มไปแบบเต็มๆ

ไม่รอช้าทั้ง 5 หนุ่ม ก็ใส่มาอีกกับเพลง "Egovision" ที่เมามันขนาดที่ มาโกโตะ ลงไปนอนร้องกับพื้นเลยทีเดียว พร้อมกับถามแฟนๆ ว่า "สนุกใช่ไหม" ซึ่งก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่า "สนุก" ด้าน ยูกิ ก็ออกมาแสดงฝีมือการเล่นกีตาร์แบบพริ้วไหวให้ได้ฟังกันก่อนจะต่อด้วยเพลง "Poker Face" ซึ่งก็ทำเอาแฟนๆ โห่ร้องด้วยความดีใจที่ มาโกโตะ กระโดดลงมาเล่นกับคนดูด้านล่างของเวที

ไม่ปล่อยให้ความมันขาดตอน ไปต่อด้วยเพลง "Labyrinth" และ "Midnight Crow" แล้วทั้ง 5 หนุ่มก็หายเข้าไปด้านหลังของเวที ในระหว่างนั้นแฟนๆ ต่างช่วยกันร้องเรียก ลูซิเฟอร์ กันอย่างดังกระหึ่ม จากนั้นหนุ่มๆ ลูซิเฟอร์ ก็กลับออกมาด้วยเสื้อยืดสีขาวและสีดำ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดต้อนรับที่ดังไปทั่วทั้งฮอลล์ ด้าน อัตซึโระ พูดขึ้นมาว่า "รักนะจุ๊บๆ" ส่วน มาโกโตะ ก็บอกว่า "สุดยอด" ก่อนจะตามมาด้วยเพลงที่ขาดไม่ได้กับ "Regret" และ "Castaway" แล้วโบกมือลาแฟนๆ กันไป

แต่แฟนๆ ก็ยังปักหลักตะโกนเรียกทั้ง 5 หนุ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนุ่มๆ ก็กลับมาตามคำเรียกร้อง มาโกโตะ ก็เลยอ้อนให้แฟนๆ ช่วยกันร้องตามกับเพลง "See You" แล้วทั้งหมดโค้งคำนับพร้อมโบกมือลาทุกคน ซึ่งแฟนๆ ก็ยังไม่ไปไหนเช่นเคย แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อหนุ่มๆ ลูซิเฟอร์ เดินกลับมาบนเวทีอีกครั้ง แล้วชวนแฟนเพลงไปมันกันต่อกับ "Datenshi Blue" ก่อนกลับทั้ง 5 หนุ่ม ขอเก็บความประทับใจร่วมกับแฟนๆ ด้วยการถ่ายภาพ พร้อมทั้งชวนทุกคนให้จับมือแล้วกระโดดไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง มาโกโตะ ทิ้งท้ายบอกแฟนๆ ว่า "See You Again" ก่อนอำลาแฟนๆ ไปแบบจริงๆ