จุดเริ่มต้นสู่ Old Tyme Religion อัลบั้มเดี่ยวสากลของ ฮิวโก้

นักร้องมาดเซอร์ "ฮิวโก้" หรือ "เล็ก - จุลจักร จักรพงษ์" หนึ่งในสมาชิกวง "สิบล้อ" เดินทางกลับมาเมืองไทย เพื่อเปิดตัวการทำงานอัลบั้มเดี่ยวเพลงสากลของตัวเองในต่างประเทศที่มีชื่อว่า "Old Tyme Religion" ภายใต้สังกัดร็อกเนชัน ที่มีเจ้าของค่ายอย่างเจ้าพ่อเพลงแร็ป "เจย์-ซี" (Jay-Z)

เรื่องราวการทำเพลงครั้งนี้ของ ฮิวโก้ เริ่มจากการที่นักแต่งเพลงชาวอังกฤษอย่าง "อแมนดา โกส" (Amanda Ghost) ได้ฟังเพลง "26/12/04" จากอัลบั้ม ซับน้ำตาอันดามัน ที่เขาเป็นคนแต่ง "เราไม่ได้ไปเจอเขาเลยครับ เรื่องจริงๆ มันเริ่มต้นตรงที่ว่าเราได้โอกาสไปแต่งเพลงกับนักแต่งเพลงที่กำลังรุ่งอยู่ตอนนั้นเป็นผู้หญิงชื่อ อแมนดา โกส เขาชวนเราไปแต่งเพลง พอเขาได้ฟังผลงานของเราที่เราทำที่เมืองไทยเป็นภาษาอังกฤษ 1 เพลงในอัลบั้มการกุศลที่เราทำกับพี่แอ๊ด (ยืนยง โอภากุล) เขาได้ฟังเพลงนั้นแล้วเขาก็ได้เบอร์มาจากญาติเรา แล้วก็ชวนเราไปแต่งเพลง

เขาได้ฟังประมาณกลางปี 2005 เขาเลยชวนเราไปแต่งเพลงด้วย เราก็แต่ง 2 เพลงแล้วเราก็กลับมาเมืองไทย ทีนี้ 2 เพลงนั้นเขาไปเปิดให้คนค่ายที่ลอนดอนฟัง เขาก็เซ็นเรา เราก็ย้ายไปอยู่ลอนดอน ทำอัลบั้ม โดนดร็อปประมาณปี 2007 คนที่เซ็นเราไปโดนไล่ออกจากบริษัท เราก็เคว้งอยู่ ก็เริ่มแต่งเพลงให้คนอื่น แล้วอัลบั้มเราที่เราทำเสร็จเรียบร้อยแล้วที่ค่ายนั้นก็ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ไป อแมนดาก็เป็นนักแต่งเพลงที่คนต้องการเยอะในเวลานั้น เพราะเขาแต่งเพลง You're Beautiful ของ เจมส์ บลันต์ (James Blunt) ในเวลานั้น แล้วกำลังดังมาก แล้วเขาก็รุ่งของเขาไปเรื่อยๆ เราก็นั่งหงอยอยู่ลอนดอน"

หลังจากผิดหวังในครั้งนั้น ฮิวโก้ เผยว่ารู้สึกสมน้ำหน้าตัวเอง แต่นับเป็นโชคดีของเขาที่ อแมนดา นำเพลงในอัลบั้มนั้น ไปให้ บียอนเซ (Beyonce Knowles) ฟัง ซึ่ง บียอนเซ ก็ชอบและนำเพลง Disappear จากอัลบั้มนั้นของเขา มาใส่ในอัลบั้ม I Am... Sasha Fierce ของเธอ "เราเก็บทุกอย่าง เก็บกระเป๋าจะกลับเมืองไทยแล้ว ชวนเพื่อนๆ มาร่ำลา เพื่อนฝรั่ง บอกว่าโอเค ก็สนุกดีนะ 2 ปีที่อยู่อังกฤษก็มันดีนะ แต่สำหรับเรา เรากลับไปเมืองไทยแล้วกอบกู้ทำงานในวงการ (หัวเราะ) กลับไปเล่นละคร ทำอะไร ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เรากำลังนั่งมองจ้องกระเป๋าอยู่ข้างประตู กระเป๋าเราแพ็กเรียบร้อย โทรศัพท์ดัง อแมนดาโทรมาบอกว่า นี่รู้ไหมว่าใครเพิ่งร้องเพลง... บียอนเซ"

ฮิวโก้ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็ได้รับการติดต่อจากค่ายของ เจย์-ซี แต่เจ้าตัวก็ยังไม่คิดร้องเพลงเอง "หลังจากนั้นก็มีคนบริษัท เจย์-ซี ซึ่งบียอนเซก็เป็นภรรยา มีลูกน้องเขามาพบเราที่ลอนดอนแล้วก็บอก เนี่ย มาอยู่กับเราไหมล่ะ มาแต่งเพลงเถอะ เราบอก ได้ๆ เราเป็นนักแต่งเพลงได้ เขาก็บอกว่าเราก็แต่งเพลงไปให้เขาเรื่อยๆ เขาก็ฟังแล้วบอก เนี่ย ร้องเพราะนะ น่าจะเป็นศิลปิน เราบอกไม่แล้ว ผิดหวัง อกหัก ไม่สามารถ ผมพอแล้ว แบบว่าตอนแรกจะกลับบ้านแล้ว ไม่ไหว คิดถึงบ้าน คิดถึงแฟน"

แต่แล้วในที่สุดก็ทนการรบเร้าไม่ไหว และมีโอกาสได้แต่งเนื้อเพลง "Old Tyme Religion" ดนตรีเปล่าๆ จาก เจย์-ซี และกลายมาเป็นเพลงหนึ่งของเขาในอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกันนี้ "แล้วก็ในที่สุดเขาโทรมาอีกที เขาก็โทรมากับเพื่อนเขา แล้วก็เปิดสปีกเกอร์โฟน เราก็ได้ยินเสียงเขาตะโกน เขามาฟังเพลงของเรา ประมาณตี 2 เราหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงตะโกน นี่ จะบ้าเหรอ จะไม่ออกเทปจริงๆ เหรอ จะบ้าเหรอ ลองดูสิอะไรอย่างนี้ แล้วส่งเพลง Old Tyme Religion มาให้เรา ส่งดนตรีแล้วก็ตั้งชื่อเพลงนี้ว่า Old Tyme Religion มันเป็นเพลงที่ เจย์-ซี ตอนแรกจะใช้สำหรับอัลบั้ม American Gangster มันก็หลงๆ เหลืออยู่ คนก็พยายามจะแต่งเพลงแต่ก็ไม่เวิร์กสักที เขาก็เอามาให้เราแล้วก็บอกว่าอย่างหนึ่งคือต้องมีคนตายในเพลงนี้ ทำได้ไหม โอ้โห พอค่ายว่ามาอย่างนี้ อยากได้อะไรแรงๆ เราก็ เออ น่าสน"

สำหรับแนวดนตรีในอัลบั้มนี้นั้น ฮิวโก้ บอกว่ามีความหลายหลายอยู่พอสมควร "หลากหลายพอสมควรครับ เพราะว่าพอมันเป็นอัลบั้มเดี่ยวเนี่ยมันสามารถแสดงหลายอารมณ์ หลายอย่าง ด้วยตัวเราเป็นจุดกลาง พอเราทำวงเนี่ยมันต้องค่อนข้างเป็นลักษณะเดียวกัน เพราะเรามีแบนด์ที่ชัดเจน"

นอกจากนี้ ฮิวโก้ ยังบอกด้วยว่า เสน่ห์ของงานดนตรียุคเก่าที่เป็นแรงบันดาลใจของเขานั้น อยู่ที่ความบริสุทธิ์ในเจตนาของการทำเพลง "เราก็ชอบมันเพราะว่าเรารู้สึกว่าเจตนาในการบันทึก ในการทำดนตรีสมัยก่อนเนี่ยมันอาจจะบริสุทธิ์กว่าเจตนาของดนตรีปัจจุบัน แล้วก็มันมีความเพียว มีความชัดเจน แล้วมีความบ้าระห่ำด้วยครับ ที่คนสมัยนี้บางทีอาจจะคิดว่าดนตรีเป็นเส้นทางสู่ความโด่งดัง หรือสู่อะไรต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วต้องเอาดนตรีเป็นหลัก ดนตรีนี่แหละ คือเราทำยังไงก็ได้ให้รักษาตัวเองในอาชีพนี้ฮะ ไม่ว่าจะแต่งให้คนอื่นหรือแต่งให้ตัวเอง"

สำหรับแรงบันดาลใจในการทำเพลงแต่ละเพลง ฮิวโก้ กล่าวว่าไม่ยาก เพราะเป็นสิ่งที่อยากทำ "อย่างว่าแหละครับ การทำเพลงเนี่ยมันไม่ยาก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากทำ สิ่งที่ยากคืออย่างอื่นที่ต้องหล่อเลี้ยงตัวเองไว้ในวงการดนตรี บางวันที่พอไม่มี เหมือนไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา การรักษาแรงบันดาลใจตัวเอง การรักษาความอยาก ความหิวที่อาจจะไม่มี แล้วบางทีเราท้อแต่เราก็ต้องไม่บอก เราห้ามเล่าให้ใครฟัง เพราะถ้าใครรู้ว่าเราท้อปุ๊บเนี่ย เขาอาจจะไม่อยากทำงานกับเราแล้ว เลยบางทีเราต้องสวมหน้ากากเหมือนกันว่า เฮ้ย โอเค กู้ด เลยมันก็ยากตรงนั้น"

ฮิวโก้ บอกถึงผลดีของการเป็นคนไทยในการทำงานเพลงที่ต่างประเทศว่า "มันมีผลดีตรงที่ว่า ผมเป็นคนใจเย็นที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอ แล้วเป็นคนที่ง่าย คนบอกว่า เฮ้ย พรุ่งนี้ไปทำงานกับคนนี้ได้ไหม เราก็ เออ ได้ๆ เราเปิดรับ เราไม่มีอีโก้เหมือนฝรั่งทั่วไป เพราะว่าเราติด เราเคารพคนที่อายุมากกว่าเรา หรือมีประสบการณ์มากกว่าเรา ในทางที่ฝรั่งโดยเฉพาะร็อกแอนด์โรลห้าวอยู่แล้ว ปฏิเสธรุ่นพี่อยู่แล้ว เขาก็คงตกใจกับความนิ่งแล้วก็ความใจเย็น ความขี้เกรงใจของเราด้วย บางทีเราอาจจะโดนเอาเปรียบด้วย แต่ว่าเราก็รู้สึกว่าเราต้องใช้วิจารณญาณพอสมควร เพราะเราก็มีประสบการณ์อยู่ในวงการเพลง"

ส่วนการทำอัลบั้มเพลงไทย หรือการเล่นสดในไทยนั้น นักร้องหนุ่มกล่าวว่าจะมาเล่นสดที่ไทยให้ได้ แต่สำหรับการทำอัลบั้มเพลงไทยคงพักไว้และทำสากลให้ถึงที่สุดก่อน "ก็แน่นอนครับ อยากกลับมาอยู่เมืองไทยนะครับ แต่ช่วงนี้ผมก็จะพยายามทำดนตรีแบบสากลให้ถึงที่สุด แน่นอนวันหนึ่งผมต้องกลับมาอาศัยอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้วครับ เพราะว่ามันคือประเทศของผม"

ท้ายสุด ฮิวโก้ สรุปถึงอัลบั้ม Old Tyme Religion ของเขาว่า "มันก็เป็นเรื่องราวของชีวิตผมใน 5 ปีที่ผ่านมา แล้วก็ถ่ายทอดในวิธี และที่ๆ คนเข้าถึงได้ เข้าถึงง่าย แล้วก็เข้าใจ แล้วก็สามารถเข้ากับชีวิตทุกๆ คนด้วย เพราะว่ามันเป็นเรื่องกว้างๆ เรื่องความรัก เรื่องความหวัง เรื่องอะไรต่างๆ"

สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบแนวดนตรีร็อกยุคเก่าในรูปแบบของ ฮิวโก้ รอติดตามอัลบั้มเต็ม Old Tyme Religion จำนวน 12 เพลงได้ในช่วงต้นปี 2554