แอ๊ด ส่งกำลังใจสร้างแรงต่อสู้อุปสรรคผ่านอัลบั้ม เดินต่อไป

หลังจากร่วมงานกันในอัลบั้ม "ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์" เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ขุนเพลงเพื่อชีวิตอย่าง "ยืนยง โอภากุล" หรือ "แอ๊ด คาราบาว" และ "ทิวา สาระจูฑะ" นักเขียนนักแต่งเพลงที่คลุกคลีกับวงการเพลงมานาน ก็ได้มีโอกาสกลับมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงร่วมกันอีกครั้งในอัลบั้ม "เดินต่อไป" โดยได้เปิดตัวแนะนำงานเพลงดีๆ กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา

อัลบั้มนี้ก็ได้นักดนตรีฝีมือฉกาจมารวมตัวกันในนาม "สหายดนตรี" หรือ "เดอะ มิวสิก คอมราดส์" (The Music Comrades) อย่าง "บี๋ - คณาคำ อภิรดี" "พยัต ภูวิชัย" "หรั่ง - อิสระ สุวรรณณัฐวิภา" "อ๋อ - นล สิงหลกะ" "สมบัติ พรหมมา" "อี๊ด - สุวรรณ มโนษร" "ป๊อป - จักรรินทร์ ดวงมณีรัตนชัย" "เอ็ดดี้ - สุเทพ ปานอำพัน" "ซ้ง - ธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม" และ "แอม - ณัฐวุฒิ ลี้กุล" ที่นอกจากจะมาเล่นดนตรีแล้ว ก็ยังมาร่วมด้วยช่วยกันทำในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียบเรียง แต่งเพลง และร้องเพลงจนทำให้อัลบั้มนี้เสร็จสิ้น

เปิดงานด้วยการเริ่มต้นพูดคุยกับ แอ๊ด และ ทิวา 2 แกนนำหลักในอัลบั้ม โดย แอ๊ด บอกถึงการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งว่า "หลังจากที่ทำ ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์ ตอนนั้น ก็ถามเขาต่อว่าจะมีต่อรึเปล่า เขาก็บอกว่าก็คงจะมีต่อ ผมก็ว่าดีนะครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วก็เหมือนได้เที่ยว เหมือนได้ไปศูนย์การค้า เพราะปกติแล้วซื้อก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านกิน แล้วพอมาร้องเพลงของทิวาเหมือนกับว่าได้เดินเข้าไปในศูนย์การค้า อรรถรสไม่เหมือนกัน การใช้คำก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องทิ้งความเป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับไปเดินเที่ยว สนุกดีครับ แล้วก็ได้ทำงานกับ มิวสิก คอมราดส์ ก็เป็นเกียรติอย่างยิ่ง"

แอ๊ด ยังบอกที่มาของชื่ออัลบั้มให้ฟังว่า "มีความคล้ายๆ สังคมในตอนนี้ที่ทุกคนท้อแท้ สิ้นหวัง อยากจะบอกว่ายังไงก็ต้องเดินต่อไป ต้องมีชีวิตอยู่ แต่ผมว่าน่าจะมีอีกอัลบั้มแน่ ตั้งเป็นนัยๆ (หัวเราะ)" ด้าน ทิวา พูดถึงแนวเพลงในอัลบั้มนี้ว่า "อยากให้มีความเป็นวาไรตี้มากขึ้น ดนตรีละเอียดขึ้นแต่ฟังง่ายขึ้น โดยไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนองหรือว่าจังหวะฟังง่ายขึ้น สิ่งสำคัญก็คือเสียงร้องของแอ๊ดทำให้เพลงมีพลังมากขึ้น แล้วก็ตีความได้อย่างที่คนแต่งเองก็ยังไม่คิดว่าจะตีความได้ขนาดนั้น"

ทิวา เล่าถึงการทำงานที่ต้องทำทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันว่า "อาจจะเป็นทั้งสายของคนในคอมราดส์ก็ได้ที่อยากจะเอาชนะตัวเองเกือบทุกเรื่องจนบางทีก็มากไป แต่ก็ทำจนกระทั่งทุกคนพอใจ แล้วทุกคนมีส่วนในการร่วมโปรดิวซ์ด้วย การคุมร้องก็ผลัดกัน ทุกคนทำงานหมด"

ความแตกต่างระหว่างอัลบั้ม ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์ กับอัลบั้ม เดินต่อไป แอ๊ด กล่าวว่า "จริงๆ แล้วผมมีเวลาเตรียมตัวที่จะร้องมากกว่าตอน ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์ เพราะได้เอาเพลงที่ร้องไกด์ไว้ให้เอาไปฝึก แล้วก็ร้องในสไตล์เสียงของตัวเอง แล้วก็ซ้อมร้องเพลงซึ่งใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ยกเว้นเพลงเดียวคือเพลง สามวัน ที่ร้องไปเลย ถ้าได้ฝึกก่อนน่าจะดีกว่านี้ แล้วบางทีตัวโน้ตบอกตรงๆ ว่าพอเราร้องตัวโน้ตของคนอื่น จะมีโน้ตที่เราไม่เคยร้องเลยมันจะหลง มันจะต้องฝึกก่อนเพื่อจะได้เกลี่ยเสียงร้องให้คุ้นเคยถึงจะร้องจริง ครั้งนี้ผมได้ทำงานแบบนั้นก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำ ซึ่งมันดีกว่าคราวก่อนนี้"

แอ๊ด พูดถึงการร่วมงานกับสหายดนตรีว่า "มิวสิก คอมราดส์ เป็นนักดนตรีอาชีพ ทุกคนถือได้ว่ามาจากสุดยอดของแต่ละวง แล้วก็มารวมตัวกันภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งกันและกัน ผมว่าการได้ทำงานกับพวกเขามีความสุขครับ รวมไปถึงเวลาที่จะออกไปเล่นคอนเสิร์ตด้วยไม่ต้องห่วง ห่วงตัวเองว่าให้จำเนื้อให้ได้เถอะ เพราะว่าเวลาจำเนื้อของทิวาจำยาก เวลาไปร้องจริงก็จะผิด ก็เลยต้องกางเนื้อ"

แอ๊ด ฝากถึงผลงานอัลบั้มชุดนี้ไว้ว่า "ถ้าเปรียบเทียบกับ ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์ อัลบั้มชุดนี้จะฟังง่ายเบาๆ ผมว่ามันกลับเข้ามาใกล้กับเด็กมากขึ้นนะครับ ตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้าย ผมคิดว่าในเจเนอร์เรชั่นนี้ฟังได้หมด ชุดแรกค่อนข้างจะฟังยาก แต่ในชุดแรกก็มีคุณภาพของเนื้อเพลงที่ถูกเก็บไว้เหมือนเหล้าที่บ่ม ชุดแรก ซึม เศร้า เหงา แฮ้งก์ ถ้าใครยังไม่มีผมอยากแนะนำให้กลับไปเก็บ พร้อมกับเก็บชุดนี้ไว้ด้วย แล้วเอามาเปรียบเทียบกัน มีข้อแตกต่าง แต่ว่าก็มีจุดดีกันคนละอย่างนะครับ"

ด้าน ทิวา ก็ฝากว่า "อยากจะฝากให้ช่วยเผยแพร่กระจายข่าว แล้วก็พยายามซื้อของจริง ถ้าทุกคนซื้อของจริงแล้ว ไม่ใช่เฉพาะเราคนเดียวจะมีกำลังใจ ผมว่าวงการดนตรีทั้งหมดก็น่าจะมีกำลังใจ ต้องช่วยกัน ฝากไว้ด้วยนะครับ" จากนั้นมาฟังเสียงของ 2 นักร้องที่เข้ามาร่วมร้องในอัลบั้ม เริ่มกันที่ ซ้ง กับเพลง "ทางแยก" ต่อด้วยเพลง "ดาวนำทาง" เสียงร้องของ บี๋ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเสียงร้องของ แอ๊ด ในเพลง "เติมไฟฟัน" และ "เดินต่อไป"

รับรู้กำลังใจดีๆ ที่จะทำให้ทุกคนมีแรงต่อสู้กับอุปสรรคผ่านบทเพลงของ แอ๊ด และ สหายดนตรี ไปพร้อมๆ กับอัลบั้ม เดินต่อไป เตรียมวางแผงปลายเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน