ปาน กับประสบการณ์ที่โตขึ้นตามอายุในอัลบั้ม พรหมลิขิต
"ปาน - ธนพร แวกประยูร" นักร้องสาวเสียงคุณภาพ ที่มีงานเพลงเนื้อหาแรงๆ เป็นปากเป็นเสียงแทนของผู้หญิงมาโดยตลอด กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 7 "พรหมลิขิต" โดยได้ฤกษ์เปิดอัลบั้มไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา
เริ่มต้นกันด้วยการชมมิวสิกซีรีส์เพลง "เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง" และ "เหตุผล?" ก่อนจะพูดคุยถึงเรื่องราวในอัลบั้มชุดนี้ ซึ่ง ปาน เล่าถึงที่มาที่ไปของชื่ออัลบั้ม พรหมลิขิต ว่า "จริงๆ เราพูดเรื่องอะไรมาเยอะมาก ในแต่ละอัลบั้มส่วนใหญ่คนจะมองว่าจะเป็นปากเสียงแทนผู้หญิง หรือเป็นความรักในด้านมืดๆ ดำๆ แต่ความรักที่เราพูดมาโดยตลอด จริงๆ มันก็มีด้านขาว ด้านพอดีๆ ด้านของความเป็นเพื่อน เพียงแต่มันถูกซ่อน พอมันถูกซ่อนมากๆ ทำให้เรามีโลโก้ของผู้หญิงดุๆ
อัลบั้มนี้ก็เหมือนกับว่าเราเดินทางมาถึงตรงนี้แล้ว ลองคุยกับทีมงานว่าเราควรจะทำอะไรเบาๆ ดูบ้างไหม คำว่าเบา ไม่ได้หมายความว่าเราจะทิ้งคอนเซ็ปต์เดิม หรือว่าจะทิ้งแฟนเก่าๆ ของเรา แต่คิดว่าเราโตมาขนาดนี้ งานเราก็ต้องโตขึ้นตามอายุ เรามีประสบการณ์ที่แต่ละชุดพาเรามา ฉะนั้นคำว่า พรหมลิขิต มันเลยกลายเป็นคำที่ปานว่ามันครอบคลุม และก็สามารถที่จะมาใช้ได้ในลักษณะของความกว้างของความรัก"
ปาน ยังพูดถึงเพลงเปิดตัวในอัลบั้มนี้อย่าง เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ว่า "ทุกคนมาถามก่อนเลยว่า เพลงนี้ไม่ด่าแล้วเหรอ (หัวเราะ) เพลงนี้เราอยากให้เห็นมุมรีแอ็กชันของผู้หญิงที่ถูกมองว่ามีความแข็งแรงมาก ดุเหลือเกิน เวลามีอะไรก็ไม่กลัวใคร แต่จริงๆ แล้ว รีแอ็กชันของคนแบบนี้ มันก็จะเศร้ามากกว่าคนอื่น นี่คือรีแอ็กชันของผู้หญิงที่วันหนึ่งเคยด่ากราดเค้า ถึงเวลาเศร้าก็จะสุดๆ หนักกว่าชาวบ้านเค้า เพลงนี้ร้องยากด้วย เพราะมีอารมณ์ดรามา และในแต่ละท่อนอารมณ์ไม่ควรจะซ้ำกัน เพลงมันควรจะค่อยๆ ไล่อารมณ์ความพีก การที่จะร้องและคอนโทรลให้นิ่ง ได้อารมณ์ไปด้วย ในแต่ละคำมีรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ มันยากกว่าการร้องเพลงพุ่งๆ หรือตะโกนออกไปค่ะ"
สำหรับเพลงต่อมา เหตุผล? ปานพูดถึงเพลงนี้ว่า "เพลงนี้น่าจะเหมาะกับแฟนๆ ที่ชอบดุๆ หนักๆ ชอบอะไรตรงๆ ก็จะถูกใจ เพลงนี้ในเนื้อหาโดยรวมก็เป็นเพลงป๊อปเพลงหนึ่ง เพียงแต่ว่ามันมีคำว่า เหตุผลควายๆ มาหลอกให้รู้สึกว่าเพลงมันหนัก และคำที่ พี่บั๋ง (สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา) แต่งก็เป็นคำธรรมชาติ ไม่ได้มีอะไรดุดัน ไม่ได้มีอะไรซ่อนเลย"
นอกจากความโดดเด่นในเนื้อหาของเพลงที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อีกอย่างที่มักจะสร้างความฮือฮาและแรงไม่แพ้กัน ก็คือ มิวสิกวิดีโอเพลงของ ปาน ซึ่งงานนี้ก็ได้ "กู่ - เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข" ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอคู่บุญของ ปาน มาร่วมพูดคุยด้วย โดยผู้กำกับได้บอกที่มาของเรื่องราวต่างๆ ในมิวสิกวิดีโอว่า "อารมณ์ประมาณว่าคุยกับเพื่อน เอาประสบการณ์จากน้องๆ พี่ๆ เพื่อนๆ เก้งกวาง เราก็เอามาจากหลายที่มารวมกัน"
ส่วนวิธีคัดเลือกนักแสดงนั้น กู่ บอกว่า "เพลงปานเป็นเพลงตัวแทนของผู้หญิงยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นดารา นางแบบ ต้องเป็นคนที่อยู่ในกระแส อาจจะไม่ต้องดัง แต่ตอนนั้นคนพูดถึง หรือว่าอยู่ในกระแสก็จะเลือกมา" และผู้กำกับยังทิ้งท้ายพูดถึงปานว่า "เราร่วมงานกันมาตั้งแต่ชุดที่ 1 ตั้งแต่วันแรกๆ ที่เจอวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม แรกๆ อาจจะมีเกร็งๆ กันบ้าง แต่ก็ได้คุยกันนอกรอบ ไปกินข้าวด้วยกัน ถือเป็นมิตรแท้กัน"
อัลบั้มชุดนี้ยังมีเพลงอีกหลายแนว ปาน บอกว่า "เพลงแนวบอสซ่าก็มีค่ะ และเพลงที่ออกเป็นมิวสิคัลเล็กๆ ก็มี เป็นเพลงบวกๆ ขาวๆ น่ารักๆ หรือว่าเพลงที่สวยงามจนคนฟังคิดว่าไม่น่าจะเป็นเพลงของปาน อย่างที่บอกว่าสุดท้ายก็จะย้อนไปที่คอนเซ็ปต์คำว่า พรหมลิขิต ปานว่ามันเป็นเรื่องกรรมเก่าของมนุษย์ มนุษย์มักจะมีความสงสัยว่าพรหมลิขิตมันมีจริงเหรอ บางคนรู้สึกว่าไม่มีหรอก แต่บางคนจะรู้สึกว่าอะไรก็ตามมันเป็นพรหมลิขิต ปานว่าสิ่งที่ชั่งตวงไม่ได้แบบนี้ สำหรับเรารู้สึกว่าเชื่อไว้บ้างก็ได้ เพราะโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ต้องใช้คำว่าบังเอิญ มันมีเหตุมีผลของมัน"
นอกจากนี้นักร้องสาว ยังมี เพื่อนๆ พี่ๆ ในวงการดนตรีมาช่วยกันฝากผลงานไว้ในอัลบั้มชุดนี้อีกหลายคน ปาน เผยว่า "ก็มี พี่จิก - ประภาส ชลศรานนท์ มาเขียนเพลง เธอคือความงดงามของชีวิต ให้ มี พี่โอ๋ ดูบาดู (เจษฎา สุขทรามร) เจ้าพ่อบอสซ่า มาแต่งเพลง ใครสักคน มาทำให้น้อง เพราะเค้าเป็นรุ่นพี่ที่จุฬาฯ และมี พี่แน่น - สราวุธ เลิศปัญญานุช มาช่วย นี่เป็นคนนอกที่มาทำให้ แต่หลักๆ ที่เราทำงานกันมาตั้งแต่อัลบั้มแรก คือ พี่บั๋ง และพี่เกี้ย (อนุชา อรรจนาวัฒน์) ที่อัลบั้มนี้มาเป็นโปรดิวเซอร์เองค่ะ"
สำหรับความพิเศษที่เป็นความภูมิใจของ ปาน ก็คือเพลง "ใจนำทาง" ในอัลบั้มชุดนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ กำลังใจ ในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่ง ปาน กล่าวว่า "ถือว่าเป็นบุญของเรา ทีมงานและบริษัทด้วยนะคะ ที่พระองค์ท่านได้เลือกเพลงนี้เป็นเพลงประจำโครงการ และท่านก็มีพระกรุณาธิคุณ ทรงประธานกลับให้กับเรามาไว้ในอัลบั้มเพื่อที่จะได้มีการเผยแพร่ได้ง่ายขึ้น เวลาที่ใครซื้ออัลบั้มนี้ ก็จะได้ฟัง ใจนำทาง ไปด้วย
ด้วยความที่มีโจทย์กันว่าเราอยากทำเพลงที่ให้กำลังใจคนบ้าง ซึ่งเพลงมันสวยงามมาก พี่บั๋งก็ไปเขียนเพลงที่เกี่ยวกับการให้กำลังใจคน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้หญิงที่อยู่ในทัณฑสถาน ที่อยู่ในโครงการของพระองค์ แต่อยากจะให้ไปถึงคนในสังคม เพราะบางครั้งคนเราไม่มีกำลังใจกันตลอดเวลา อย่างน้อยเพลงนี้ พอฟังแล้ว สามารถจุดประกายอะไรบางอย่างในใจให้ตื่นตัวขึ้นมาได้บ้าง ก็จะรู้สึกดีมากๆ ค่ะ"
หลังจากจบการพูดคุย ปาน ก็กล่อมผู้ร่วมงานด้วยเพลงเพราะๆ อย่าง "จากคนหนึ่ง...ถึงอีกคน" และ "เหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง" เป็นการปิดท้ายงานแถลงข่าว ก่อนจะกล่าวฝากอัลบั้มชุดนี้ไว้ว่า "อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มชุดที่ 7 แล้ว ไม่รู้จะพูดอะไรดี นอกจากคำว่าอย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ก็จะพยายามทำอะไรที่พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งวิธีคิด วิธีร้อง วันนี้ยังพอมีแรง ยังมีที่ให้ยืนอยู่ตรงนี้ เราก็จะทำไปเรื่อยๆ ค่ะ"
แฟนเพลงของ ปาน ธนพร ติดตามผลงานอัลบั้มเดี่ยวชุดล่าสุด พรหมลิขิต กันได้ วางแผงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา