ยุ้ย-เต๋า จูงมือวิวาห์หวาน เวลาไม่ใช่เงื่อนไขของความรัก

หลังจากควงกันไปจดทะเบียนสมรสเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คู่รักหมาดๆ อย่างดารานักร้องหนุ่ม "เต๋า - สมชาย เข็มกลัด" ก็จูงมือภรรยาสาว "ยุ้ย - อัฐมาศ อัศววิมล" มาฉลองงานวิวาห์ โดยในช่วงเช้าเป็นส่วนของพิธีการหมั้นที่จัดตามประเพณีไทยผสมจีนแบบเรียบง่ายภายในหมู่ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้น ที่ห้อง สกุลตลา บอลรูม โรงแรมเพนนินซูล่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2552

เมื่อถึงฤกษ์ดี เวลาประมาณ 09.00 น. ฝ่ายชายก็ได้ยกขบวนขันหมากเข้ามาสู่ขอฝ่ายสาว โดยหนุ่ม เต๋า มาในชุดคอจีนสีชมพูด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอารมณ์ดีตลอดเวลา พร้อมด้วยญาติผู้ใหญ่ที่ประกอบด้วย "ธงไชย อินทรชูศรี" และ "สมถวิล อินทรชูศรี" พ่อแม่บุญธรรมของ เต๋า โดยมี "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" ที่มีศักดิ์เป็นลุงของเจ้าบ่าวทำหน้าที่เป็นเถ้าแก่ และยังเพื่อนสนิทในวงการ "ลิฟท์ - สุพจน์ จันทร์เจริญ" ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาร่วมขบวนด้วย

จากนั้นเจ้าสาว ยุ้ย ก็ได้ปรากฏตัวด้วยชุดกี่เพ้าสีชมพู จนกระทั่งได้เวลา 09.15 น. เต๋า ก็ได้สวมแหวนทองคำขาวฝังเพชรให้กับฝ่ายเจ้าสาว ส่วนทางด้านฝ่ายสาวก็สวมแหวนให้กับเจ้าบ่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำพิธีทั้งคู่ก็แสดงความหวาน หัวเราะ ยิ้มแย้ม พูดคุยกันตลอดเวลา สำหรับสินสอดทองหมั้น ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน ชุดเครื่องเพชร ชุดเครื่องทองโบราณ ทองคำแท่ง สมุดบัญชีเงินฝาก และเงินสดจำนวน 8 แสนบาท เมื่อเสร็จพิธีทั้งคู่ก็ได้จูงมือกันออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ความรู้สึกตอนสวมแหวนรู้สึกยังไงบ้าง

เต๋า "รู้สึกดีใจครับ ก็รู้สึกอะไรบางอย่างที่ผมพูดไม่ได้ ผมก็รู้สึกดีแต่มันยังพูดอะไรไม่ได้"

ยุ้ย "ดีใจค่ะ และก็ประทับใจ"

มีน้ำตาคลอไหม

ยุ้ย "มีแต่รอยยิ้ม แล้วก็เขินค่ะ"

ช่วงพิธีเห็นเต๋าจับมือยุ้ยตลอดเลย

เต๋า "ก็คงต้องจับ เพราะว่าจริงๆ แล้วเราไม่ควรจะปล่อย คือต้องจับมือไปด้วยกันและทำทุกวันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวันนี้พรุ่งนี้มะรืนนี้ ส่วนวันต่อๆ ไปคือต้องดีที่สุดดีขึ้นไปเรื่อยๆ"

ผู้ใหญ่ได้ให้โอวาทมาอะไรบ้าง

เต๋า "เป็นมงคลนะครับ ให้คำอวยพรที่เป็นมงคลและก็เป็นความภาคภูมิใจ ความชื่นใจและดีใจครับ"

คุณแม่ ยุ้ย ฝากอะไร เต๋า บ้าง

เต๋า "ก็ฝากยุ้ยล่ะครับ (หัวเราะ)"

ความรู้สึกวันนี้ตื่นเต้นไหม

ยุ้ย "ตื่นเต้นค่ะ"

เต๋า "เขานอนหลับ แต่ผมนอนไม่หลับ (หัวเราะ) ก็ผมนอนไม่หลับอ่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้สิต้องเป็นเอง"

ตื่นเต้นกว่าวันที่จดทะเบียนไหม

เต๋า "ผมเชื่อว่าทุกๆ วันของเราเป็นวันที่ความสุขและก็ทำทุกๆ วันให้ดี มันก็เลยเป็นวันแห่งความสุขแล้วก็ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่เราทำมันตื่นเต้นตลอดเวลา"

สินสอด

เต๋า "ก็จริงๆ แล้วก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันดีกว่า เพราะจริงๆ แล้วทุกอย่างก็อยู่ที่ตัวเราสองคนสำคัญที่สุด คือจริงๆ แล้วเราไม่อยากตีในเรื่องของความรู้สึกหรือความรัก มันเป็นเรื่องของคุณค่า เป็นความรู้สึกทางใจจริงๆ ซึ่งผมทราบและเข้าใจว่าทุกคนก็เข้าใจ"

มีสัญญารักที่ให้แก่กันไหม

เต๋า "อันนี้ต้องส่วนตัวแล้ว มีแต่ว่าเราคงบอกกันสองคน"

ยุ้ย "ไม่เคยนะคะเรื่องสัญญา มีแต่ความตั้งใจจริง"

ระยะเวลาที่ศึกษาดูใจกัน

เต๋า "เรียนตามตรงนะครับว่าเจอกันมาสักห้าปีแล้ว ก็เดินผ่านกันไปมาสวนกันไปสวนกันมา จนวันนึงรู้สึกว่ามันที่จุดที่เราบอกตัวเองว่าความรู้สึกสั่งให้เราพูดหรือเราทำออกมาเป็นการกระทำ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แค่เวลาว่านาน น้อย หรือเร็ว ผมเชื่อว่าสิ่งที่เราควรจะทำที่สุดคือการตัดสินใจวันนี้ แล้วก็ทำให้ดีที่สุดนั่นคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเวลาจะนานขนาดไหนแต่ถ้าเราทำไม่ได้ดีที่สุดก็เชื่อว่ามันไม่ใช่ ตอนนี้เราเชื่อว่าเรามุ่งมั่นและเราตั้งใจ"

ได้ยินอย่างนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง

ยุ้ย "คือจริงๆ คำสัญญามันเป็นแค่คำพูด ยุ้ยว่าทุกวันมันพิสูจน์ได้ด้วยการกระทำและความตั้งใจจริงที่มีร่วมกันมากกว่า"

ประทับ เต๋า ตรงไหน

ยุ้ย "ความประทับใจบางทีมันบรรยายไม่ได้ มันคือความรู้สึกที่เผอิญว่าเราสองคนมีต่อกัน เขาเป็นคนน่ารักค่ะ"

คิดว่าเร็วเกินไปไหม

ยุ้ย "เวลามันไม่ใช่เงื่อนไขของใจค่ะ"

ความรู้สึกที่รู้สึกว่าคนนี้ใช่

เต๋า "อันนี้ต้องถามคนข้างบน บอกไม่ได้ (หัวเราะ)"

วางแผนไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน

เต๋า "คงยังไม่ได้ไป เพราะว่าคงทำงานก่อนนะครับ คงทำงานสักพักนึงถ้าเกิดมีเวลาว่าง ก็แพลนกันไว้แล้วครับแต่ว่ายังบอกไม่ได้ เดี๋ยวถ้าไปแล้วมีรูปเดี๋ยวจะส่ง (หัวเราะ) รู้ว่าอยากได้ ถ้าไปแล้วเดี๋ยวจะบอกครับ"

วางแผนเรื่องทายาท

เต๋า "อย่างที่เราบอกคือจริงๆ แล้วการที่เราจดทะเบียนแล้วก็แต่งงาน อย่างน้อยที่สุดก็บอกเลยว่าความมุ่งมั่นที่ผมจดทะเบียนคืออยากมีลูก เราก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากคือวันนึงถ้าใช่ก็คือใช่ วันนึงถ้าเขาจะมาเขาก็มาเอง ผู้ชายผู้หญิงก็ได้ครับ ถ้าเสือก็คงต้อง 11 ตัว (หัวเราะ)"

ยุ้ย "11 คนไม่มีตัวสำรองเลย"

เต๋า "พูดเล่น (หัวเราะ) เห็นเขาโฆษณาในโทรทัศน์ก็เลยอยากพูดบ้าง คือจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งเราบอกไม่ได้ แต่เราก็ตั้งใจและทำให้ดีที่สุดนั่นคือสิ่งที่เราอยากทำและต้องทำให้ได้ ผมก็ 36 แล้วก็อยากจะทำชีวิตที่เป็นชีวิตจริงๆ เป็นครอบครัว ซึ่งเราก็ฝันและเราก็อยากทำ บางอย่างมันก็บอกไม่ได้จริงๆ มันต้องดูกันต่อไปและก็อวยพรพวกเราแล้วกัน"

แต่งงานแล้วจะใช้ชีวิตหลักที่ไหน

เต๋า "กรุงเทพฯ ครับ เพราะว่าผมกลับมาทำงาน ธุรกิจที่เชียงใหม่ก็คงเป็นเรื่องของครอบครัว"

คุณแม่ของ ยุ้ย รู้สึกยังไงบ้าง

ยุ้ย "คุณแม่ก็แฮปปี้สิคะ ลูกสาวได้แต่งงานแล้วนะ คุณแม่แฮปปี้ค่ะครอบครัวรักเต๋า"

คุณแม่มีให้คำแนะนำอะไรบ้างไหม

ยุ้ย "ก็คงเหมือนคุณแม่ทั่วไปแหละค่ะ จริงๆ สิ่งหลักๆ ที่เขามีก็คือความเป็นห่วง ไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนพ่อแม่ก็เป็นห่วง แล้วยินดีชื่นชมกับสิ่งที่เราทำค่ะ"

ความรักตอนนี้เรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นทุกวันไหม

เต๋า "อันนี้ขอเก็บไว้เป็นความรู้สึกที่เราคอยบอกกันเองดีกว่า เพราะบางอย่างเราก็สามารถบอกได้เท่าที่เรามีความสามารถ บางอย่างเราก็ไม่สามารถบอกได้เพราะว่ามันเป็นความรู้สึกข้างในจริงๆ ต้องเก็บไว้บอกกันสองคน ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งที่น่ารักและเป็นความประทับใจของเราสองคน ถ้าเราบอกหมดก็ไม่ใช่สำหรับคนสองคน บางอย่างต้องเผื่อไว้สำหรับคนสองคน"

ส่วนงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น เดิมทั้งคู่อยากจัดงานบริเวณสนามหญ้าริมแม่เจ้าพระยาของโรงแรม แต่ด้วยฟ้าฝนไม่เป็นใจ ทำให้ทั้งคู่ต้องย้ายสถานที่จัดงานไปที่ห้อง สกุลตลา บอลรูม แทน โดยมีบรรยากาศตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล-ส้ม ซึ่งเป็นสีของลายเสือ ซึ่ง เสือ เป็นปีนักษัตรของคนทั้งคู่ โดยมีข้อความเขียนเป็นภาษาอังกฤษมีความหมายว่า "ใครว่าเสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" สำหรับของชำร่วยเป็นที่ห้อยกระเป๋าลายเสือ ส่วนรูปแบบของงานก็เป็นงานเลี้ยงแบบง่ายๆ สบายๆ ให้เพื่อนๆ ได้มาสนุกกัน

จากนั้นเจ้าบ่าวที่มาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สวมทับด้วยเสื้อสูทสีดำ ก็จูงมือเจ้าสาวที่อยู่ในชุดเดรสสั้นสีขาว ออกมายืนต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยเพื่อนพ้องศิลปินที่สนิทๆ มาร่วมงาน อาทิ "ต้อย - เศรษฐา ศิระฉายา" "ชมพู - สุทธิพงษ์ วัฒนจัง" มากับภรรยา "บุ๋ม - จุฑามาศ วัฒนจัง" ตามมาด้วย "หญิง - นราวัลย์ จันทร์เจริญ" ภรรยาของหนุ่ม ลิฟท์ ที่ตามมาสมทบในงานช่วงเย็น

นอกจากนี้ยังมี "อาร์ม - วิบูลย์ ลีรัตนขจร" "นีโน่ - เมทนี บุรณศิริ" "สายฟ้า เศรษฐบุตร" "มอส - ปฏิภาณ ปฐวีกานต์" "ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง" "โมทย์ - ปราโมทย์ แสงศร" "แบงค์ - ปวริศร์ มงคลพิสิษฐ์" "แจ๊บ - เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล" "ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล" "ริว - อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์" ที่มาในมาดโกนศีรษะและคิ้ว และการรวมตัวของ 3 หนุ่ม "ต๊ะ - ฌานิศ ใหญ่เสมอ" "ดิ๊บ - ธนพงศ์ คล้ายพงษ์พันธุ์" และ "โจ - ธเนศ ฉิมท้วม" จาก "บอยสเก๊าท์"

ส่วนพิธีการในงานก็ได้เพื่อนซี้อย่าง ลิฟท์ มาทำหน้าที่เป็นพิธีกร เริ่มจาก "ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา" ซึ่งผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว และ "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว ขึ้นมาบนเวทีกล่าวคำอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ต่อด้วยคำกล่าวขอบคุณจากเจ้าสาว "วันนี้ต้องขอบคุณ คุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ดร.เสรี วงษ์มณฑา คุณพ่อคุณแม่ยุ้ย ครอบครัวของยุ้ย คุณพ่อคุณแม่ของเต๋า พี่น้องทุกคนและเพื่อนๆ วันนี้ยังไงก็ตามเราสองคนตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อย่างที่เราคาดหวังไว้ แต่ยุ้ยคิดว่าทุกคนคงมีความสุขร่วมกับเราในวันนี้นะคะ แล้วก็ให้อภัยในความบกพร่องทั้งหลายด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ" ด้าน เต๋า ก็กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอบคุณนะครับ ขอบคุณทุกคนที่มาในงานและยินดีกับเรา ขอบคุณครับ"

ต่อด้วยการจุดเทียนชัยมงคลและตัดเค้ก โดยทั้งคู่ได้นำเค้กไปมอบให้กับญาติผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ก่อนจะเป็นการโยนช่อดอกไม้ จากนั้นคู่บ่าวสาวก็ปล่อยให้เป็นงานเลี้ยงแบบสบายๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้สนุกสนานอย่างเต็มที่โดยมี "เบนซ์ - นิพิธ ฮันเก้" มาเปิดแผ่นเพลงสร้างสีสันให้กับงาน