เปิดอัลบั้ม My Travellers บันทึกการเดินทางของ ก้อย-โย่ง
เปิดตัวอัลบั้ม "My Travellers" ของคู่รักนักร้องอย่าง "ก้อย - วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก" นักร้องนำวง "แซทเทอร์เดย์ เซโกะ" และ "โย่ง - อนุสรณ์ มณีเทศ" นักร้องนำวง "อาร์มแชร์" ที่มารวมตัวกันเฉพาะกิจในนาม "ก้อย โย่ง & เฟรนด์ส" (Koi Yong & Friends) อย่างเป็นทางการกันไปแล้ว ท่ามกลางสื่อมวลชน เพื่อนพ้องในวงการเพลง และแฟนคลับ ที่มาให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา
My Travellers เป็นการร่วมกันทำงานอย่างเต็มรูปแบบของ ก้อย และ โย่ง ซึ่งเป็นบันทึกการเดินทางที่ทั้งคู่ไปท่องเที่ยว ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ในรูปแบบของอัลบั้มเพลง พ็อกเก็ตบุ๊ก สมุดภาพ และภาพยนตร์สั้น
เริ่มงานกันด้วยการแสดงบนเวทีของ ก้อย และ โย่ง กับเพลง "My Travellers" ต่อด้วยเพลง "ไม่ต่างกัน" และปิดท้ายไปด้วยเพลง "เพราะ (ฉัน) มีเพียงเธอ" ของวง พราว ที่ทั้งคู่นำมาทำใหม่และรวมอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย จากนั้นเข้าสู่การพูดคุย เริ่มจากจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ ซึ่ง โย่ง เล่าว่า "อ้วน (อธิศว์ ศรสงคราม) มือคีย์บอร์ดของอาร์มแชร์ ไปเรียนต่อที่เยอรมนี ก็ได้คุยกันทางเอ็มเอสเอ็น อ้วนก็เล่าให้ฟังว่าไปเที่ยวที่ปารีสมา อ้วนบอกว่าน่าเที่ยว ก็เลยชวนไปเที่ยว"
ส่วน ก้อย เพิ่มเติมว่า "เราชอบเดินทางท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป ก็เลยอยากไปเที่ยวเหมือนกัน พอดีช่วงนั้น เราเตรียมตัวจะไปเที่ยวกัน บังเอิญว่าเราย้ายบ้านใหม่มาอยู่ สไปร์ซซี่ ดิสก์ และได้มาคุยกับ พี่เต้ง (พิชัย จิราธิวัฒน์) พี่เต้งเลยบอกว่ามาทำอัลบั้มดีกว่า และมันก็ถึงเวลาที่เราน่าจะทำอัลบั้มได้แล้ว เพราะว่าจริงๆ แล้ว อัลบั้มนี้จะไม่ใช่ แซทเทอร์เดย์ เซโกะ และไม่ใช่ อาร์มแชร์ ซะทีเดียว แต่จะเป็นความรู้สึกทั้งสองวงมาผสมกัน ในรูปแบบที่ก้อยอยากจะทำกับ แซทเทอร์เดย์ เซโกะ แต่ไม่สามารถทำได้ เหมือนโย่ง ที่ไม่สามารถเอารายละเอียดบางอย่างที่อยู่กับ อาร์มแชร์ มาทำได้ สุดท้าย เราเลยหยิบความชอบตรงนั้นมาผสมเป็นอัลบั้มนี้ดีกว่า"
ด้าน โย่ง พูดถึงผลงานครั้งนี้อีกว่า "จริงๆ มันเป็นโปรเจ็กต์ที่จะถ่ายรูปและเอามาทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊กครับ แต่ด้วยความที่เราเป็นนักร้อง พอดีมีน้องๆ มาบอกว่าถ้ามีอัลบั้มเพลงคู่กันมันก็น่าสนใจนะ ผมก็เลยเก็บความคิดนี้ไว้ในใจ แล้วได้คุยกันกับพี่เต้ง ไอเดียก็เลยออกมาเยอะ เลยทำเป็นแบบนี้ดีกว่า มันเลยเป็นโปรเจ็กต์พิเศษ ต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่ได้มีบ่อยๆ ผมกับก้อย อาจจะไม่ได้ใช้คำว่า ก้อย โย่ง แอนด์ เฟรนด์ส ไปตลอด มันเป็นการพักร้อน พักผ่อน มาเจอกัน เป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่นานๆ เจอกันที ผมชอบเขียนหนังสือ ชอบถ่ายรูป มีน้องๆ บอกว่าอยากให้มีอัลบั้มเพลง และมีผู้ใหญ่ใจดีอย่างพี่เต้ง ทุกอย่างเลยลงตัวครับ"
สำหรับการไปท่องเที่ยวครั้งนี้ โย่ง เล่าว่า "เราไปเมืองดุสเซลดอร์ฟ เป็นเมืองที่อ้วนอยู่ เราไปหลังจากที่ไปปารีส ปารีสเป็นเมืองที่ค่อนข้างโหวกเหวกโวยวาย ซึ่งมันก็คึกคักดี แต่อารมณ์ที่ได้จากดุสเซลดอร์ฟ มันเหมือนปาร์ตี้เพิ่งเลิกและอยู่คนเดียว และนึกถึงว่าเมื่อคืนทำอะไรบ้าง ทบทวนความจำ เป็นเมืองเงียบๆ และน่าอยู่ครับ"
นอกจากทั้งคู่จะช่วยกันทำงานเพลง โดยได้แรงบันดาลใจจากดนตรีในช่วงปลายยุค 80 จนถึงต้นยุค 90 แล้ว ยังได้เพื่อนๆ ในแวดวงดนตรีมาช่วยอีกหลายคน ซึ่ง ก้อย บอกว่า "เพลง My Travellers มีพี่กอล์ฟ ซูเปอร์เบเกอร์ (ประภพ ชมถาวร) แต่งให้ ส่วนเพลง ไม่ต่างกัน ก็ได้ พี่ตั้ม โมโนโทน (สถาปัตย์ ธีรนิตยภาพ) มาแต่งให้ และยังมี พี่บอย ตรัย (ตรัย ภูมิรัตน) มีพี่โต้ง พีโอพี (มณเฑียร แก้วกำเนิด) มาช่วยแต่งเพลงอีก
อย่างเพลง เพราะ (ฉัน) มีเพียงเธอ ที่เล่นเป็นเพลงสุดท้าย ด้วยความที่อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มพิเศษของเราทั้งคู่ และเรามีเพลงพิเศษในดวงใจ เมื่อย้อนกลับไปตั้งแต่เด็กๆ เราคุยกันว่าเราชอบวงอะไร เราอยากให้เป็นวงที่เรามีประสบการณ์ร่วมกันทั้งคู่ ก็เลยเป็นวง พราว และเป็นความบังเอิญมากที่เพลงนี้ ก้อยได้ฟังตอนเด็กๆ แล้วหยิบเบสมาหัดเล่นเพลงนี้เลย ส่วนโย่งก็หัดเล่นกีตาร์เพลงนี้เหมือนกัน ก็เลยรู้สึกว่าเพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่พอย้อนความทรงจำไปแล้วทำให้เรานึกถึงได้ทั้งคู่ เป็นเพลงรักที่ไม่มีคำว่ารัก ก็เหมาะกับเราที่ไม่ได้หวานมากมาย"
ไม่เฉพาะเรื่องงานเพลงเท่านั้นที่ ก้อย และ โย่ง ลงมือทำ แต่ยังรวมไปถึงการออกแบบต่างๆ อีกด้วย ก้อย เล่าว่า "แพ็กเกจจิ้งและอัลบั้มทั้งหมด โย่งเป็นคนดีไซน์ โย่งจะออกแบบตั้งแต่กล่อง หน้าปกจะเป็นมุมมองจากเมโทรที่เราใช้เดินทางตอนอยู่ที่ฝรั่งเศส และด้านหลังก็คือสถานีต่างๆ แต่ละสถานีก็หมายถึงเพลงของเรา มีทั้งหมด 8 แทร็ก แต่มี 6 เพลง ซึ่งแต่ละสถานีก็จะเป็นสถานที่ต่างๆ เวลาเราไปเที่ยว เรารู้สึกเหมือนเรากำลังมีจินตนาการบางอย่าง สถานที่นี้เรารู้สึกแบบไหน เช่น ที่นี่สนุกสนานมาก สีสันสดใส เราก็เลยนำมาทำเป็นเพลงที่เรารู้สึกแบบนั้น อย่างบางสถานที่ที่ไป เรารู้สึกเหงา เศร้า เราก็ทำเพลงที่รู้สึกแบบนั้น"
นอกจากนี้ในพ็อกเก็ตบุ๊กยังมีความพิเศษซ่อนอยู่อีก ซึ่ง โย่ง เผยว่า "ตอนที่คิดจะทำอัลบั้มนี้ มีความคิดก็คือ ยุคนี้เพลงที่จับต้องได้มีน้อยมาก หมายถึงปกอัลบั้ม ช่วงนี้เอ็มพีสามมันหาง่ายมากเลย ผมรู้สึกว่าเพลงมันควรจะจับต้องได้ ควรจะเป็นอะไรที่อยู่กับเรานานๆ ควรจะมีเรื่องราวอะไรที่มากกว่าเสียง ถ้าเป็นหนังสือ เป็นรูปธรรมดา คนอาจจะเปิดอ่านปุ๊บก็จบไป แต่อยากจะให้มีกิจกรรมอะไรบางอย่างที่มันเกี่ยวกับเรา ในหนังสือมันมีกล้องรูเข็ม" ในขณะที่ ก้อย เสริมว่า "กล้องอันนี้ เมื่อนำไปปริ๊นต์ และเอามาตัดเป็นตัวโมเดล เอามาประกอบขึ้นแล้วซื้อฟิล์มมาใส่ กล้องนี้ใช้ได้จริงๆ ลองใช้แล้วด้วย ส่วนอีกอันเป็นโมเดลหอไอเฟลค่ะ"
สุดท้าย ก้อย และ โย่ง ก็ได้ฝากผลงานที่ทั้งสองคนตั้งใจทำร่วมกัน โย่ง ฝากว่า "เราอยากให้รู้สึกว่าวงนี้เป็นวงที่พิเศษ เฉพาะกิจ มันสนุก ไม่ได้เครียดเหมือนการทำวงจริงๆ และอยากจะฝากว่าที่เราทำเป็นแบบนี้ขึ้นมา เพราะเราอยากให้ยุคซีดีและยุคแพ็กเกจจิ้งสวยๆ กลับคืนมา เพราะว่าทุกวันนี้ คนทำเพลงรู้สึกท้อใจกับการผลิตซีดีออกมา ก็อยากจะฝากไว้ครับ"
ในขณะที่ ก้อย ทิ้งท้ายไว้ว่า "ครั้งแรกที่เราเริ่มรู้สึกจะทำอัลบั้ม เราจะต้องทำทุกขั้นตอน เพราะเราเชื่อได้ว่างานของเราทุกขั้นตอนจะต้องมีเลือดเนื้อ มีความรู้สึกของเรา เราเชื่อเสมอว่าใครก็ตามที่มีอัลบั้มของเรากลับบ้าน เมื่อคุณค่อยๆ เปิด แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่คุณจะได้อยู่กับพวกเราอย่างแน่นอน และที่สำคัญ อัลบั้มนี้คุณจะได้เดินทางท่องเที่ยวไปกับพวกเราด้วยแน่นอนค่ะ"