โปงลางสะออน ขนความฮาขึ้นคอนเสิร์ต We Are The World
หลังจากเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตอวดศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสานให้ชาวต่างชาติได้ดูกันแล้ว "โปงลางสะออน" ที่นำทีมโดย "อี๊ด - สมพงษ์ คุนาประถม" หรือ "อี๊ด" "อุ๊ - ขวัญนภา เรืองศรี" หรือ "ลาล่า" และ "ดวง - ดวงฤดี บุญบำรุง" หรือ "ลูลู่" ก็ปิดท้ายการเดินสายครั้งนี้ที่ประเทศไทย รวมรวบเอาความสนุกที่เก็บเกี่ยวจากการเดินทางในต่างประเทศมาอยู่ในคอนเสิร์ต "โปงลางสะออน คอนเสิร์ต We Are The World" เมื่อวันที่ 18-19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่โรงละครสยามนิรมิต
เปิดตัวแบบอลังการในรอบแรกด้วย อี๊ด ลงทุนขึ้นสลิงนั่งบนบั้งไฟมาทักทายผู้ชม จากนั้น โปงลางสะออน ก็ออกมาเล่นเครื่องดนตรีที่แสดงถึงเอกลักษณ์ประจำวง สลับด้วยการตีกลองนานาชาติโดยเหล่านักแสดงของโรงละครร่วมกับ อี๊ด และเมื่อเปิดตัว 2 นางไห "โอ๋" และ "อ๋อย" ก็ไม่ยอมแพ้ขอออกมาแบบไม่ธรรมดา โดยขึ้นสลิงก่อนลงมาดีดไหให้ได้ชมกัน จากนั้น อี๊ด ก็มานำขบวนแห่บั้งไฟไปรอบๆ โรงละคร พร้อมด้วย ลาล่า และ ลูลู่ ที่ขี่ม้าออกมาสร้างความครึกครื้นให้กับคนดู แล้วทั้งหมดก็นำขบวนไปจุดบั้งไฟเพื่อขอฝน ทันใดนั้นเองฝนก็ตกลงมา
แล้วเวทีก็เปลี่ยนเป็นโรงลิเกด้วยเพลง "โปงลางลำเพลิน" โดย อี๊ด รับบทพระราชา ลาล่า และ ลูลู่ เป็นลูก แต่เก้าอี้ที่เตรียมมาไม่พอนั่ง ทางทีมงานก็เลยเอาไม้พาดไว้บนเก้าอี้ เพื่อให้ อี๊ด และ ลูลู่ นั่งคนละฝั่งของไม้ ที่เรียกเสียงหัวเราะจากท่านผู้ชมได้ก็ตอนที่ อี๊ด ลุกขึ้นมารับจดหมายของเจ้าหญิงต่างเมือง ทำให้ ลูลู่ ที่นั่งอยู่ด้วยตกลงมา อี๊ด เลยบอกว่า "พี่ไม่ตั้งใจ พี่ขอโทษ เจ็บตรงไหนไหม"
อยู่ๆ อี๊ด ก็พูดขึ้นมาว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะไม่ตื่นเต้นแล้ว เพราะว่าครั้งที่ 1 พวกเราเล่นโดยไม่มีความกดดัน เล่นสบายมาก แต่ยอมรับเลยว่าประหม่า มาครั้งนี้เราก็พยายามเล่นตามที่พวกเราได้ลุยซ้อมกันมา หลายๆ คนอาจจะถามว่าทำไมเลือกเล่นตอนบ่ายโมง เพราะว่าพี่ๆ เขาต้องใช้พื้นที่ในการแสดง หนึ่งเดือนที่เรามาซ้อมกัน ตอนบ่ายสามบ่ายสี่เราจะต้องออกจากที่นี่ทุกวัน แต่เราอยากมาเล่นที่นี่จริงๆ ครับ อยากให้มาเห็นศิลปวัฒนธรรมอีสานมาใส่เทคนิคแล้วเป็นยังไง จนช่างไฟของที่นี่เป็นแฟนกับนางรำของเราไปแล้ว"
มาต่อด้วยข้อความในจดหมายกันต่อที่มีใจความว่า อยากให้พระราชาร้องเพลงให้ฟัง เพราะได้ข่าวมาว่าร้องเพลงเพราะ แล้ว อี๊ด ก็ลุกขึ้นอีกครั้ง ลูลู่ ก็เลยพูดขึ้นมาว่า "เวลาจะลุกจะนั่งทำไมไม่บอกกันก่อน เป็นหัวหน้าคนซะเปล่าทำอะไรไม่เคยคิด" แล้ว ลูลู่ ก็ชวน อี๊ด นั่งหวังจะแก้แค้น อี๊ด แต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้น อี๊ด ก็ขอตัวลาไปทำตามคำขอร้องจากเจ้าหญิงต่างเมืองก่อน เหลือเพียง ลาล่า และ ลูลู่ ไว้หยอดมุกบนเวที
จากนั้นก็นำท่านผู้ชมไปพบกับศิลปินจากประเทศเกาหลีที่มีชื่อว่า โปงลางชินกิ นำทีมโดย อี๊ด ที่ขนเอาเทคนิคพิเศษมาใส่ในเพลง "เปลี่ยน" ซึ่งเทคนิคที่ว่าก็คือการที่ อี๊ด ขึ้นไปยืนอยู่บนผ้าใบแล้วให้คนลากไปลากมา สงสัยจะลากเร็วไปหน่อยเลยทำให้ อี๊ด ลื่นลงไปกองที่พื้น "เค" ก็เลยได้โอกาสคว้าไมค์มาร้องแทน และ เค ก็ร้องต่อด้วยเพลง "All Right" จากนั้น "ชาลี" หนุ่มลูกครึ่งไทย-เคนย่าสมาชิกต่างชาติคนใหม่ก็ขอร้องกับเพลง "คิดถึงเธอ" เพลงเก่าของ แร็พเตอร์ มาร้องให้ฟังในสำเนียงอีสาน และต่อด้วยเพลง "เรี่ยมเร้เรไร" ของ กุ้ง - สุทธิราช วงศ์เทวัญ
มาต่อด้วยเพลง "หนอนผีเสื้อ" ที่ร้องไปได้นิดเดียวก็หยุดร้อง เพราะ อี๊ด หันไปเห็นว่ามีเด็กนำรางวัลมาให้เลยพาเด็กขึ้นมาถ่ายรูปบนเวที พร้อมทั้งให้เด็กยืนยันว่าให้ อี๊ด คนเดียวให้สมาชิกคนอื่นได้ยินด้วย เพื่อจะไม่ได้ไม่เป็นปัญหาตอนแบ่งกัน แล้วก็มาร้องกันต่อแต่ก็ไม่จบเพลงอยู่ดี เพราะอุปกรณ์ที่เตรียมมาประกอบเพลงนี้ไม่พร้อม ก็เลยส่งต่อให้ เค ร้องต่อในเพลง "หวงเฟยหง"
แล้ว อี๊ด ก็ส่งต่อให้ 2 สาวออกมาบ้าง เริ่มจาก ลูลู่ ที่ออกมาในเพลง "พ่อครัวแม่ครัว" ส่วน ลาล่า ก็มาในเพลง "ใครให้มาหล่อแถวนี้" และทั้ง 3 คนมารวมตัวอีกครั้งในเพลง "ลูกข้าวเหนียว" แล้วก็จบลงไปท่ามกลางเสียงปรบมือ จากนั้น อี๊ด ก็มาพูดคุยกันหน้าม่านแนะนำสมาชิกใหม่อีกนึงคนที่ชื่อว่า "เก้ง" เป็นคนเชียงราย โดย อี๊ด บอกว่า อยากได้สมาชิกชาวเหนือมาอยู่ในวงบ้าง ลาล่า เลยบอกว่า "พี่อยากได้คนเหนือทำไมไม่บอก หนูก็เป็นคนเหนือเหมือนกัน หนูเหนือความคาดหมาย" ทำเอาคนดูชอบปรบมือให้ยกใหญ่ อี๊ด ก็หันไปถาม ลูลู่ ว่าไม่มีกับเขามั่งเหรอ ลูลู่ ตอบว่า "ลูลู่ไม่ได้คิดมา"
ส่วน เก้ง ก็ขอแนะนำตัวเองผ่านเพลงพื้นเมือง "สวัสดีเจ้า" แล้ว ลูลู่ ก็ตะโกนขึ้นมาว่า "คิดออกแล้วที่บอกว่าเป็นคนเหนือ ลูลู่ คิดออกตอนนี้ก็รีบมาบอกเดี๋ยวจะลืมอีก" อี๊ด ก็เลยให้ ลูลู่ บอกมาว่าอะไร ลูลู่ พูดว่า "เหนือกาลเวลา" ทำเอาคนถูกใจไปตามๆ กัน ด้าน เก้ง ก็ไม่สนใจร้องเพลงของตัวเองต่อ อี๊ด ก็เลยยึดไมค์คืนแล้วบอกว่า "ถึงหนูจะสวยยังไง พี่ก็มีความอดทนนะ" ลาล่า หันไปคุยกับ อี๊ด ว่า "พี่ไม่ลองมองมาทางนี้บ้างล่ะ พี่จะเจอกับเหนือความคาดหมายกับเหนือกาลเวลา" อยู่ๆ "จีจี้" ก็เดินผ่านมาร้องเพลง "ตบมือข้างเดียว" ที่พกเอาอุปกรณ์เท้าตบออกมาด้วย อี๊ด เลยถามว่า "ที่บ้านเรียกมือเหรอ"
แล้วก็มาเปิดม่านอีกครั้งกับการจำลองสัญลักษณ์ของแต่ละประเทศที่เหล่าทีมโปงลางสะออนได้เดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตมา อาทิ เมานต์ รัชมอร์ ที่เปลี่ยนจากหน้าประธานาธิบดีมาเป็นหน้าของ อี๊ด ลาล่า และ ลูลู่ พอ อี๊ด หันไปเจอเทพีเสรีภาพที่เป็นหน้าตัวเอง ก็เลยขอเปลี่ยนหน้า พอพลิกมาอีกด้านกลายเป็นหน้าของ เฮียฮ้อ (สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) อี๊ด เลยขอกลับมาเป็นอย่างเดิม ก่อนจะพาไปพบนักดนตรีชาวญี่ปุ่น "ฮิโดเอะ" ที่ขอมาเล่นกีตาร์ในเพลง "สวมเขา" พร้อมทั้งร้องเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ได้ฟังกัน และยังแสดงความสามารถในการเล่นพิณในเพลง "เต้ยโขง"
มาถึงอีกหนึ่งคนที่มากความสามารถอย่าง "นิ้ง" โดย อี๊ด แอบเกริ่นไว้ว่าเสียงของ นิ้ง เหมือน บิว - กัลยานี เจียมสกุล มากๆ แต่พอร้องออกมาร้องเพลง "เพียงสองเรา" ปรากฏว่าเป็นเสียงของผู้ชาย อี๊ด เลยเตือนว่า "บอกแล้วให้อมสเตปซิล อมทำไมคนอร์ มันเอาไว้ใส่ต้มจืด" พร้อมกับสร้างสีสันด้วยมุกสลับเป็นอีกไมโครโฟน แล้วเสียงของ นิ้ง จะกลับมาเป็นผู้หญิง
ในขณะที่ นิ้ง กำลังร้องเพลง "ไผว่าน้องเจ้าชู้" อยู่นั้น จีจี้ ก็เดินออกมาพร้อมกับบอกว่า "มีคนขอเพลงมา 20 บาท หนูรับตังเขามาแล้วด้วย เขาให้หนูร้องก่อน" จีจี้ ก็เลยร้องเพลง "สะใภ้นายก" แต่ร้องได้ท่อนเดียวก็วิ่งกลับเข้าฉากไป อี๊ด ก็เลยเรียก นิ้ง ให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่ง นิ้ง ก็ออกมาในชุดเรียบร้อยสุดๆ มาร้องในเพลง "ตราบใด" ของ ฟอร์ด - สบชัย ไกรยูรเสน โดยในตอนท้ายยังได้เป่าโซปราโนแซ็กโซโฟนให้ได้ฟังอีกด้วย
จากนั้น อี๊ด พาไปชมการแสดงแบบนานาชาติ เริ่มจากประเทศสเปนกับระบำฟลามิงโกโดย ลาล่า และ ลูลู่ มาต่อที่สมาชิก โปงลางสะออน คนอื่นๆ กับระบำแขกของประเทศอินเดีย การเต้นแซมบ้าของประเทศบราซิล และการเต้นจากประเทศฝรั่งเศส จบลงด้วยการแสดงร่วมกันทั้งหมดท่ามกลางเสียงปรบมือ แล้ว อี๊ด ก็ทำท่าจะไปรับรางวัลที่หน้าเวที แต่คนดูให้เรียก "ต้าร์" มือเบส มารับรางวัล อี๊ดถึงกับบ่นว่า "ทำอะไรมันถึงได้" ลูลู่ ตอบแทนว่า "เขาก็ยืนหล่อของเขาเฉยๆ มายืนทำหน้าบานจะได้สักบาทไหมล่ะ" เมื่อคนเดินมาให้รางวัล ต้าร์ เรื่อยๆ อี๊ด โมโหเลยประกาศให้ ต้าร์ ตั้งวงเล่นเองคนเดียวไปเลย
เมื่อเห็นคนอื่นทยอยกลับเข้าไป ต้าร์ ก็บอก อี๊ด ว่า "พี่เล่นคนเดียวไม่ได้ครับ" อี๊ด สวนมาว่า "ทำไมเวลาหล่อยังหล่อคนเดียวเลย" แล้วหันมาบอกคนดูว่าอย่ากรี๊ด แต่ปรากฏว่าเสียงกรี๊ดที่ให้ ต้าร์ กลับดังล้นหลาม ต้าร์ เลยร้องเพลง "สวมเขา" อี๊ด ทนไม่ได้กลับมาแล้วพูดว่า "หยุด เนี่ยมันเพลงเขาแต่งไว้เล่นเอง ถ้าอยากเล่นก็ต้องแต่งเอง"
เสียงกรี๊ดจากคนดูดังขึ้นอีกกับกลอนที่ ลาล่า แต่งให้ ต้าร์ แล้วเดินไปซบ ลูลู่ เลยต่อว่า ลาล่า ว่า "ไปยืนอยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่อายคนบ้างรึไง ทำไมไม่ยอมชวนลูลู่ไปอยู่ด้วย ลูลู่ก็ไม่อยากอยู่กับคนหน้าบานเท่าไรหรอก" อี๊ด เลยหันไปถามคนดูว่า หน้าบานจริงๆ ไหม คนดูก็ตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าบาน ลูลู่ เลยร้องเพลงให้ว่า "กินอะไรเล่าเธอถึงได้บานแสนบาน" ลาล่า ก็ช่วยเสริมว่า "บานล้ำเกินคน"
จากนั้นก็เป็นการแสดงความสามารถของ 2 ทีม โดยฝั่ง ลาล่า ลูลู่ และ ต้าร์ หันไปหาคนดูขอเสียงกรี๊ดเรียกคะแนนกันก่อน ปรากฏว่าได้รับเสียงกรี๊ดไปถล่มทลาย นักดนตรีที่อยู่ฝั่ง อี๊ด ก็พากันย้ายฝั่งมาอยู่อีกฝั่งนึง แล้ว ลาล่า ก็เอาเพลง "หนุ่มบาว-สาวปาน" มาประชันกับฝ่าย อี๊ด แต่นักดนตรีตะโกนกลับมาว่า เล่นไม่ได้ ลาล่า ก็เลยต้องร้องและทำเสียงดนตรีประกอบเอง ฝั่ง อี๊ด ก็ส่ง ชาลี น้องใหม่ มาประชันบ้างกับบทเพลงเคารพบรรพบุรุษของเคนย่า แต่ อี๊ด เห็นท่าไม่ดีก็เลยประกาศหาเด็กเพื่อมาช่วย โดยได้เด็กผู้ชายมา 3 คน ผู้หญิง 4 คน
ก่อนที่จะให้เด็กๆ ไปเปลี่ยนชุดเพื่อมาร่วมแสดงด้วย ก็ให้เหล่าเด็กๆ อุ่นเครื่องด้วยการเต้นท่าปลาโลมากันก่อน จากนั้นก็นำเข้าสู่การประกวดวงดนตรี เริ่มจากกลุ่มแรกออกมาในเพลง "คนดังลืมหลังควาย" ต่อด้วยวงที่ 2 นำทีมโดย ลูลู่ ออกมาในเพลง "แมงอีฮุม" ที่มีเหล่านักเต้นเป็นเด็กๆ แต่เหลือเพียง 5 คนเท่านั้นเพราะผู้ชายอีก 2 คนร้องหาคุณแม่ซะก่อน มาที่ ลาล่า กับเพลง "โปงลางมาแล้ว" และวงสุดท้ายที่ร้องโดย จีจี้ มาในเพลง "เปิดใจสาวแต" ในช่วงการตัดสินเด็กผู้ชายคนเดียวที่เหลืออยู่ได้ย้ายไปยืนอยู่กับ ลาล่า ทำให้คนดูปรบมือให้ทีมของ ลาล่า เป็นฝ่ายชนะในการประกวดไป
แล้วเวลาก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย อี๊ด ก็กล่าวกับคนดูว่า "จริงๆ แล้ววันนี้โปงลางสะออนเตรียมการแสดงไว้ในหลายๆ รูปแบบ แต่ด้วยเรื่องของเวลาที่จำกัด เพราะว่าพี่ๆ นักแสดงของสยามนิรมิตรอแสดงอยู่ แต่อยากให้มาเห็นที่นี่ ที่ที่มีความเป็นไทย ความเป็นสี่ภาค อยากให้มาเห็นสถานที่สวยๆ ในเมืองไทย อยากให้มาดูจริงๆ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่มาทั้งที่ได้เชิญมา ทั้งที่ซื้อบัตร ที่ทำให้พวกเราได้มาเล่นที่ตรงนี้ ถ้ามีเงินผมจะสร้างโรงละครเองครับ"
ปิดท้ายด้วยเพลง "โลกนี้มีที่เดียว" เพลงที่แต่งเสร็จสดๆ ร้อนๆ บอกเรื่องราวหลังจากที่ โปงลางสะออน เดินทางไปแสดงที่ต่างประเทศว่าไปที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา โดยมีสมาชิกของ โปงลางสะออน และนักแสดงจากสยามนิรมิต มาแสดงร่วมกัน ก่อนจะส่งทุกคนกลับบ้านด้วยเพลง "เรอธัก (รักเธอ)"
