ซิมเพิล แพลน และ ทราวิส ความมันที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

นานๆ จะเห็นวงร็อกระดับโลก 2 วง อย่าง "ซิมเพิล แพลน" (Simple Plan) และ ทราวิส (Travis) มาผนึกกำลังสร้างความมันบนคอนเสิร์ตเวทีเดียวกันให้คอร็อกชาวไทยจะได้กระโดด กับคอนเสิร์ต "Travis And Simple Plan Live In Bangkok" ก่อนจะไประเบิดความมันในคอนเสิร์ตนั้น หนุ่มๆ ทั้ง 2 วงก็ปลีกตัวร่วมพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยจัดขึ้นเมื่อวัน 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นกันเอง

เริ่มจากศิลปินรุ่นน้อง ซิมเพิล แพลน ได้แก่ 5 หนุ่ม "ปิแอร์ บูวิเยร์" (Pierre Bouvier) "เจฟฟ์ สติงโก" (Jeff Stinco) "เดวิด เดโรซิเยร์" (David Desrosiers) "เซบาสเตียน เลอแฟเวอร์" Sebastien Lefebvre) และ "ชัก โคโม" (Chuck Comeau) ที่ออกมากล่าวทักทายและเริ่มพูดคุยกันก่อน

เคยคิดไหมว่าตัวเองจะโด่งดังขนาดนี้ในเมืองไทย

ปิแอร์ "ไม่เคยคิดมาก่อน ดีใจที่คนอีกซีกโลกหนึ่งชื่นชมและชอบเพลงของพวกเรา"

รู้สึกยังไงบ้างที่ต้องขึ้นคอนเสิร์ตกับ ทราวิส

เจฟฟ์ "พวกเราเองก็เป็นแฟนเพลงของทราวิสเหมือนกัน ก็ชอบมากเลย อยากจะเห็นว่าครั้งนี้พวกเขาจะเอาอะไรมาโชว์ในเมืองไทย"

ใน 5 คนนี้สาวๆ กรี๊ดใครมากที่สุด

พอมาถึงคำถามนี้ทั้ง 5 หนุ่มก็ต่างแย่งกันชูมือว่าเป็นตัวเองที่เสน่ห์แรงที่สุด จน ชัก ต้องบอกว่า "ต้องไปลองชมเอาเองว่าใครได้เสียงกรี๊ดมากที่สุด"

แฟนๆ ชาวไทยจะได้เห็นอะไรในคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้น

เดวิด "จะได้มัน ได้สนุกเต็มที่กันแน่นอน เพราะพวกเราไม่ได้มาเมืองไทย 3 ปีแล้ว จะได้ฟังงานเพลงฮิตๆ ทุกเพลงจาก ซิมเพิล แพลน แน่นอน"

พอจบการสัมภาษณ์ ซิมเพิล แพลน แล้วก็เป็นเวลาของร็อกรุ่นพี่อย่าง 4 หนุ่ม ทราวิส กันบ้าง ประกอบด้วย "ฟรานซิส ฮีลลี่" (Francis Healy) "ดูกี้ เพย์น" (Dougie Payne) "แอนดี้ ดันล็อบ" (Andy Dunlop) และ "นีล พริมโรส" (Neil Primrose) ที่ ฟรานซิส นักร้องนำ มาแบบสบายๆ สวมชุดคลุมอาบน้ำลงมาให้สัมภาษณ์ แถมยังพกกล้องมาถ่ายรูปนักข่าวที่ไปในงานแถลงข่าวอีกด้วย

รู้สึกยังไงบ้างที่เพลง Closer ดังมากที่เมืองไทย

ฟรานซิส "ดีใจมากไม่น่าเชื่อเลย อยากให้ทุกคนร้องตามกันให้มากๆ ด้วย เคยเห็นใน youtube มีวงไทยเอาเพลง Closer มาร้องน่าสนใจมาก"

แรงบันดาลใจที่เขียนเพลง มาจากไหน

ฟรานซิส "ตอนนั้นมีคีย์บอร์ดแล้วพยายามทำเสียงให้เหมือนไวโอลิน แต่ทีนี้มันไม่ได้ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ เนื้อหาเพลงก็พูดถึงเรื่องการที่เรามีใครสักคนแล้วยังอยากใกล้เขามากยิ่งขึ้น"

แล้ว J Smith ในเพลงนี่เขาคือใคร

ฟรานซิส "เป็นโจ๊กภายในของพวกเรานิดนึง J Smith ในที่นี้ถ้าได้ไปเปิดสมุดโทรศัพท์แล้วก็จะเจอ J Smith อยู่ในนั้น เราก็เลยอยากเปรียบเทียบคนๆ นี้เหมือนเป็นคนธรรมดา จริงๆ แล้วก็หาได้ทั่วไป"

ส่วนบรรยากาศคอนเสิร์ต "Travis And Simple Plan Live In Bangkok" ที่วงร็อกระดับโลก 2 วง มารวมตัวให้ชาวไทยสัมผัสเป็นครั้งแรก ในวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทอง แม้คนดูจะบางตาไปสักหน่อย แต่ความมันในคอนเสิร์ตก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย เพราะแฟนตัวจริงเสียงจริงของทั้ง 2 วง ต่างไม่พลาดที่จะเข้าไปร่วมมันและโดดกันอย่างสุดเหวี่ยง

เริ่มคอนเสิร์ตด้วยวง ซิมเพิล แพลน ชวนคนดูมากระโดดกันตั้งแต่เพลงแรก "Generation" เพลงจากอัลบั้มล่าสุดที่ใช้ชื่อเดียวกับวง ก่อนจะกล่าวทักทายเป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีครับไทยแลนด์ ขอบคุณครับ" และต่อด้วย "Take My Hand" เมื่อจบเพลง นักร้องนำพูดขึ้นว่า "ขอเสียงหน่อย" ที่ได้รับเสียงกรี๊ดไปอย่างล้มหลาม พร้อมทั้งกล่าวเป็นภาษาไทยว่า "ขอบคุณครับ" แล้วชวนไปมันกันต่อในเพลง "Shut Up" คนดูทั้งโดดทั้งร้องตามกันทั่วฮอลล์ และโดดกันต่อในเพลง "Jump"

จากนั้น ซิมเพิล แพลน ใส่ความมันกันต่อในเพลง "When I'm With You" "Addicted" และ "The End" ตามมาด้วยเพลง "Me Against The World" ก่อนจะถามแฟนๆ ว่าสนุกไหม ก็ได้รับเสียงเฮลั่นเป็นการตอบกลับมา ไม่รอช้าพวกเขาก็ต่อด้วยเพลง "Your Love Is A Lie" และ "Time To Say Goodbye" จากนั้นก็เล่นเพลง "Save You" ที่แฟนเพลงร่วมร้องร่วมมันกับพวกเขาอย่างคึกคัก โดยนักร้องนำยังกล่าวอีกว่า "พวกเรารักประเทศไทย"

สนุกกันต่อในเพลง "Thank You" และ "Welcome To My Life" ตามมาด้วยเพลง "Low" ของ Flo Rida ที่ถูกดัดแปลงเป็นเพลงร็อก ทำเอาแฟนเพลงลุกขึ้นมาร้องมาเต้นกันทั้งฮอลล์ คึกคักกันต่อเนื่องกับเพลง "I'd Do Anything" แล้วเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นเมื่อ ปิแอร์ เตรียมคำพูดภาษาไทยมาพูดให้คนไทยได้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นคำว่า "ฉันรักเมืองไทย" "สาวๆ สวย" "ดีมากๆ" และยังยกมือไหว้ขอบคุณแฟนๆ อีกด้วย

จากนั้นก็ให้แฟนเพลงทั้งหลายชูมือถือขึ้นมาแล้วโบกตามไปกับเพลง "Perfect" จนทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยแสงไฟจากหน้าจอมือถือ พอจบเพลง ทั้งหมดก็ออกมากล่าวขอบคุณและยกมือไหว้แฟนๆ พร้อมทั้งบอกว่าพบกันใหม่คราวหน้าและพวกเรารักประเทศไทย ก่อนที่ทั้ง 5 หนุ่มจะโบกมือลาแฟนๆ ไป ก็โยนปิ๊ก ไม้กลอง ให้แฟนเพลงได้เก็บเป็นที่ระลึก และทั้งหมดก็ลาจากเวทีไปท่ามกลางเสียงเฮและเสียงปรบมือ ถือเป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตวงร็อกวงแรก จากนั้นก็ปล่อยให้เหล่าแฟนเพลงได้พักกันสักครู่

ได้เวลามามันกันต่อกับวงร็อกรุ่นใหญ่ ทราวิส ที่เริ่มต้นด้วยเพลง "Chinese Blues" ตามมาติดๆ ด้วยเพลง "Pipe Dreams" และ "Writing to Reach You" เรียกเสียงกรี๊ด เสียงเฮไปได้สนั่นฮอลล์ พร้อมทั้งกล่าวทักทายแฟนเพลงก่อนจะชวนแฟนเพลงมาชวนกันปรบมือตามในเพลง "Selfish Jean" ใส่มาไม่ยั้งด้วยเพลง "Eyes Wide Open" "The Beautiful Occupation" กับ "Side" พอจบเพลงนักร้องนำก็ขอให้เปิดไฟหน่อย เพราะว่าตอนนี้มองไม่เห็นหน้าใครเลย และกล่าวอีกว่าคืนนี้เป็นคืนที่วิเศษที่สุดเพราะว่าได้เห็นแฟนๆ มาร่วมในคอนเสิร์ตคืนนี้

เปลี่ยนจังหวะไปฟังเพลง "Love Will Come Through" และเพลงคุ้นหูอย่าง "Closer" ที่แฟนเพลงร่วมกันร้องตามได้อย่างสนั่น จน ฟรานซิส ต้องกล่าวขอบคุณ ต่อด้วยเพลงที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่้แพ้กันในเพลง "Sing" ก่อนจะกล่าวทักทายแฟนเพลงอย่างเป็นทางการและให้แฟนเพลงทักทายตอบพวกเขาเช่นกัน แล้วมาต่อด้วยเพลงที่นักร้องนำขอให้แฟนๆ ช่วยกันยกมือขึ้นแล้วปรบมือตามจังหวะในเพลง "J Smith"

พวกเขาไม่ปล่อยให้ความมันขาดช่วง มาต่อกันในเพลง "Something Anything" พร้อมทั้งขนเพลง "Long Way Down" "Song To Self" "Driftwood" และ "All I Want To Do" ที่เรียกให้แฟนๆ ปรบมือตาม ทิ้งท้ายด้วยเพลง "Turn" ที่แฟนเพลงทั้งโดดและเฮตามกันสนั่นยาวนาน ปิดท้ายด้วยการไหว้ขอบคุณแฟนเพลงก่อนลงจากเวทีไปตามกลางเสียงเรียกร้องให้ ทราวิส กลับมาร้องอีกครั้ง

ทันใดนั้นแสงไฟก็สาดบนเวทีอีกครั้ง พร้อมพวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่หน้าเวที ร้องประสานเสียงกันต่อในเพลง "Flowers In The Window" ที่ในช่วงกลางของเพลงมี แอนดี้ ทำหน้าที่จับคอร์ดกีตาร์ และ ดูกี้ เป็นคนดีดกีตาร์ เรียกเสียงกรี๊ดได้อย่างกึกก้อง และปิดท้ายจริงๆ ด้วยเพลง "Why Does It Always Rain" ที่พวกเขาบอกว่าถ้าใครที่ลุกขึ้นแล้วเต้นตาม ขอให้พรุ่งนี้อายุเด็กลงเหลือ 20 ปี ทำเอาแฟนเพลงแฟนทั้งฮอลล์ลุกขึ้นมาโยกส่งท้ายคอนเสิร์ต ที่รวมเอา 2 ศิลปินร็อกไว้บนเวทีเดียวกัน