ดรีม เธียเตอร์ ระเบิดความมัน ขาร็อกเต็มอิ่มกว่า 3 ชั่วโมง
คุ้มค่ากับการรอคอยของแฟนๆ เลยก็ว่าได้กับการกลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งในคอนเสิร์ต "Dream Theater Live in Bangkok Chaos in Motion World Tour 2007/2008" ของ "ดรีม เธียเตอร์" (Dream Theater) ศิลปินร็อกแนวโปรเกสซีฟ จากประเทศอเมริกา ที่ได้เขย่าเวทีความมันให้บรรดาขาร็อกทั้งหลายได้โดดกันไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา ณ บางกอกฮอลล์ สวนลุมไนท์บาร์ซาร์
ดรีม เธียเตอร์ ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้ง 5 คน "เจมส์ ลาแบร์" (James LaBrie) (ร้องนำ) "จอห์น เพทรุกชี่" (John Petrucci) (กีตาร์ ร้องประสาน) "จอร์แดน รูเดส" (Jordan Rudess) (คีย์บอร์ด) "จอห์น เมียง" (John Myung ) (เบส) "ไมค์ พอร์ตนอย" (Mike Portnoy) (กลอง) ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ ชาวไทยผิดหวัง เพราะเพียงแค่เริ่มต้นคอนเสิร์ต ด้วยเพลง "Constant Motion" ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม "Systematic Chaos" ก็ทำเอาสาวกโรงละครแห่งความฝันโดดกันสุดเหวี่ยง จากนั้น ก็เล่นเพลง "Never Enough" ซึ่งแฟนๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างร้องตามกันกระหึ่มทั่วทั้งฮอลล์
แล้วนักร้องนำอย่าง เจมส์ ก็ได้กล่าวทักทายเป็นภาษาไทยด้วยคำว่า "สุดยอดไหมครับ" เรียกเสียงเฮจากผู้ชมชาวไทยได้อย่างมากมาย และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สลับกันแสดงฝีมือการเล่นดนตรีของแต่ละคนอย่างฝีมือชั้นเซียน ไล่มาตั้งแต่ จอห์น มือกีตาร์ ที่ออกลีลาการเล่นกีตาร์ได้แบบถึงใจคนฟัง ส่วน จอห์น มือเบส ก็แสดงฝีมือการเล่นเบสโดยใช้นิ้วมือได้พลิ้วและเพราะเข้าถึงอารมณ์ผู้ชมจริงๆ มาที่ จอร์แดน ที่วาดลวดลายบนแป้นคีย์บอร์ดโดยมีทั้งการหมุนตัวไปมา สลับกับการเล่นคีย์บอร์ดแบบสะพาย เพื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ผู้ชม
คนสุดท้าย ไมค์ ที่ถ่มน้ำลายออกมาทุกครั้งที่ตีกลอง พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนบ้างนั่งบ้างมาเล่นกับคนดู ทำให้คนดูได้เห็นว่า ไมค์ สวมใส่กางเกงนักมวยของไทย พร้อมกับยืนอวดด้วยความภูมิใจ และยังมีการโยนรับไม้กลองกับทีมงานข้างเวทีระหว่างที่กำลังตีกลอง รับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็เรียกเสียงเฮจากคนดูได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ไมค์ ยังเป็นคนร้องประสานให้กับ เจมส์ อีกด้วย เป็นการแสดงให้เห็นถึงทั้งพลังและความสามารถทางดนตรีอันเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพของสมาชิกทุกคนในวงนี้
ไม่รอช้าพวกเขาก็ขนบรรดาเพลงทั้งเก่าใหม่มาเล่นกัน อย่างเพลง "Never Enough" "Surrounded (Expanded)" ตามมาด้วยเพลง "The Dark Eternal Night" และเดี่ยวคีย์บอร์ดจาก จอร์แดน ต่อด้วยเพลง "Lines In The Sand Forsaken" ก่อนจะปิดท้ายช่วงแรกของคอนเสิร์ตด้วยเพลง "The Ministry Of Lost Souls"
คอนเสิร์ตครั้งนี้พวกเขายังทำเก๋ ด้วยการเปิดมิวสิกวิดีโอแอนิเมชั่นประกอบกับเพลงสลับกับการเล่นดนตรี ซึ่งทำให้บรรยากาศในคอนเสิร์ตยิ่งเพิ่มความตื่นตาตื่นใจมากขึ้นอีกด้วย
หลังจากทำเอาแฟนๆ หมดแรงไปกับความสนุกกับคอนเสิร์ตแล้ว พวกเขาก็ได้ให้เวลาไปพักเอาแรงกัน 15 นาที ก่อนที่จะกลับมาเต็มที่กับการแสดงสดๆ ของพวกเขาอีกครั้ง โดยพวกเขา ดรีม เธียเตอร์ ยังคงแสดงความสามารถในการร้องและเล่นดนตรีกันสดๆ แบบเต็มที่อย่างแรงดีไม่มีตก ไม่ว่าจะร้องจะเล่นเพลงไหนก็เรียกเสียงเฮจากผู้ชมได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเพลง "In The Presence Of Enemies" "Home" และ "Misunderstood"
มาถึงเพลงสุดท้ายในคอนเสิร์ตด้วยเพลง "Take The Time" ที่เวลาล่วงเลยมากว่า 3 ชั่วโมง ถึงเวลาที่พวกเขาต้องโบกมือลาแฟนๆ ที่มาชมกันไปแล้ว โดย เจมส์ นักร้องนำได้กล่าวคำว่า "Thank you มากๆ ครับ" แล้วก็กลับเข้าไปหลังเวที จนกระทั่งแสงไฟดับลง
ส่วนแฟนๆ ที่มาชมยังไม่ยอมกลับ ยังคงตะโกนเรียกให้พวกเขาออกมาอีกครั้ง และท่ามกลางความเงียบและมืดสนิท ทันใดนั้นไฟบนเวทีก็ได้สาดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงการลีดกีต้าร์ของ จอห์น และพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงร้องแสดงความดีใจจากคนดูที่ยังได้มันกันต่ออีก เริ่มด้วยเพลง "Trial Of Tears" ตามต่อมาที่ "Finally Free" "Learning To Live" "In The Name Of God" และ "Octavarium" เรียกเสียงกรี๊ดและตบมือตามจากคนดูได้อย่างถึงใจ เป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตที่เรียกว่าคุ้มค่าและเต็มอิ่มจริงๆ สำหรับแฟนๆ ขาร็อกที่รอการกลับมาของพวกเขา