รับฟังดนตรีบำบัดกับคอนเสิร์ตภาคผนวก เหตุเกิดที่...เฉลียง
นับเป็นเวลา 7 ปีเต็ม หลังจากที่กลุ่มคนดนตรีขวัญใจนักฟังเพลงอย่าง "เฉลียง" ได้ประกาศอำลาเวทีไปแล้วเมื่อ พ.ศ. 2543 ในคอนเสิร์ต "เรื่องราวบนแผ่นไม้" จนมาถึงวันนี้ก็ได้เวลาที่พวกเขาจะกลับมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมบนเวทีอีกครั้งใน "เหตุเกิดที่...เฉลียง" คอนเสิร์ตที่มีขึ้น 2 รอบ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี กับสมาชิกพร้อมหน้า ได้แก่ "ดี้ - นิติพงษ์ ห่อนาค" "เจี๊ยบ - วัชระ ปานเอี่ยม" "แต๋ง - ภูษิต ไล้ทอง" "เกี๊ยง - เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์" "จุ้ย - ศุ บุญเลี้ยง" และ "นก - ฉัตรชัย ดุริยประณีต"
แฟนๆ ทุกคนที่มาต่างก็หวังจะได้ฟังเพลงของ เฉลียง ที่คิดถึงกันแบบสดๆ อีกครั้ง เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วย "Toredo" กับ "เอกเขนก" ที่มี ดี้ เจี๊ยบ และ เกี๊ยง ร้องกับ "กิ๊ก - เกียรติ กิจเจริญ" และ "ดู๋ - สัญญา คุณากร" ซึ่งเป็นพิธีกรในงานแทน ก่อนที่สมาชิกอีก 2 คน จุ้ย และ แต๋ง จะมารวมกับ 3 คนก่อนหน้าเพื่อร้อง "ไม่รักแต่คิดถึง" จนจบเพลง เจี๊ยบ ก็ได้บอกกับคนดูว่า "เพลงที่จบไปไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม อยู่นอกอัลบั้มครับ อยู่ในคอนเสิร์ตเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ดี้ แต่งให้พวกเราเพื่อบำบัดอาการคิดถึงซึ่งกันและกันครับ"
ต่อมา ดี้ ได้ร้องเพลงเดี่ยวอย่าง "ถ้าโลกนี้มีเราเพียงสองคน" โดยมี แต๋ง เป่าแซ็กโซโฟนให้ แล้ว ดี้ จึงกล่าวความรู้สึกว่า "ขอบคุณมากครับ ตื่นเต้นมาก ไม่เคยเจอคนเยอะขนาดนี้เลย ผมมีอีกเพลงหนึ่งที่ต้องร้อง เพราะทั้งชีวิตมีแค่ 2 เพลงครับ เราขอเชิญคนอื่นมาด้วยดีกว่า เพราะคิดว่า 6 คน 7 คนนี่คงไม่รอด เรามีผู้หญิงคนหนึ่งครับ ขอเชิญน้อง โรส ครับ" ดังนั้น "โรส - ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์" จึงได้มาร่วมร้องเพลงกับ ดี้ ใน "นายไข่เจียว"
ตัว โรส เองก็มีเพลงเดี่ยวมาร้องด้วยเช่นกัน โดยที่เจ้าตัวบอกว่าต้องการจะร้องเพลงที่ทำให้ทุกคนรู้จัก โรส ซึ่งก็เป็นเพลงที่ ดี้ แต่ง นั่นก็คือ "ก้อนหินก้อนนั้น" ต่อด้วย "เก็บใจ" ที่มี เกี๊ยง มารับช่วงร้องด้วยตอนท้ายเพลง มาที่เพลงน่ารักๆ ต่อมา "พ่อกล่อมลูก" ซึ่ง เจี๊ยบ แต๋ง เกี๊ยง และ ดี้ ชักชวนลูกๆ ของแต่ละคนให้มาร่วมร้องในเพลงนี้
ถึงเวลาร้องเพลงเดี่ยวของ เกี๊ยง ที่เจ้าตัวออกตัวกับคนดูก่อนเลยว่า "ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผมรู้สึกกังวลใจที่สุดครับ เพราะว่าคนที่มาชม เฉลียง ก็อยากจะมาชมการพูดจาที่ตลกๆ นะครับ ผมเองก็เป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แล้วก็ไม่ขำด้วย ก็เลยกังวลว่าคนดูเค้าจะชอบรึเปล่า แต่ว่าผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีเพลงหนึ่งที่ไม่ร้องไม่ได้เลย เป็นเพลงที่รองมาจากเพลงชาติแล้ว นับว่าผมร้องบ่อยที่สุดในชีวิตเลยครับ"
หลังจากแฟนๆ ปรบมือให้กำลังใจเขาเสียงดังแล้ว เกี๊ยง ก็มีเพลง "เข้าใจ" และอีกเพลงที่ เกี๊ยง บอกว่าไม่ค่อยได้ร้องอย่าง "รักออมชอม" มาฝาก โดยเพลงหลังได้แขกรับเชิญ "ตุ๊ก - วิยะดา โกมารกุล ณ นคร" มาร้องคู่ด้วย แล้ว ตุ๊ก ก็ร้องเพลงดังของตัวเองที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี "ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน" อันเป็นเพลงที่ เกี๊ยง แต่งทำนอง "จิก - ประภาส ชลศรานนท์" ผู้ที่แต่งเพลงส่วนใหญ่ของ เฉลียง เป็นคนแต่งเนื้อ โดยที่ เกี๊ยง ก็มาเล่นกีตาร์โปร่งให้ด้วย
มาที่วงดนตรีรุ่นใหม่ "Laundry" (ลอนดรี้) วงของ "ต้นไม้ - ฌานดนู ไล้ทอง" ลูกชายของ แต๋ง ที่มาแสดงฝีมือแบบเกินวัยในเพลง "คนดนตรี" และ "ลืมไปไม่รักกัน" จบแล้วสมาชิกคนต่อมาที่ต้องร้องเดี่ยว คือ เจี๊ยบ ซึ่งมีเพลง "เธอกับฉันกับคนอื่นๆ" และ "ต้นชบากับคนตาบอด" มาฝาก ก่อนที่ เจี๊ยบ จะบอกว่า "มายังเพลงใหม่ล่าสุดของเฉลียง ที่แต่งสำหรับคอนเสิร์ตนี้โดยเฉพาะ เป็นเพลงสวิงแจ๊สครับ" กับ "เธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ" ที่เป็นเพลงใหม่ ซึ่ง จิก เป็นผู้แต่งอีกเช่นกัน โดยมี เจี๊ยบ ร้องร่วมกันกับ แต๋ง
เพลงต่อมานั้น เฉลียง ก็ออกมาทั้งวงอีกครั้งใน "รู้สึกสบายดี" ต่อด้วยเพลงเดี่ยวจาก จุ้ย ที่บอกกับแฟนๆ ก่อนว่า "โดยธรรมชาติผมก็เป็นคนที่ไม่พร้อมที่สุด แต่ว่าพี่ๆ เค้าก็ไม่ยอม ถ้าหากผมไม่มาจะกลายเป็นวงเฉลียไป ก็เลยใช้จิตวิทยาหมู่นะครับ เกลี้ยกล่อมมาว่าอิมแพ็คนะเว้ย ซึ่งถ้าผมร้องผิดพลาดยังไงก็ช่วยร้องนะครับ" กับเพลง "แค่มี"
ส่วนอีกเพลงเพราะๆ คุ้นหู "เพราะอะไร" ที่ จิก แต่ง โดยมี "ป้าง - นครินทร์ กิ่งศักดิ์" เป็นแขกรับเชิญมาร่วมร้อง ซึ่ง จุ้ย เล่าให้ฟังว่าเดิมทีเพลงนี้นั้น จิก แต่งให้ จุ้ย แต่ว่ากลับไม่มีโอกาสร้อง ต่อมาเพลงนี้จึงถูก ป้าง นำเอาไปร้องในตอนหลังแทน จบแล้วทั้งคู่ก็ร่วมร้องด้วยกันในอีกเพลงคือ "เที่ยวละไม"
ได้เวลาของสมาชิกคนสุดท้ายจาก เฉลียง ที่เพิ่งจะปรากฏตัวกับ นก ซึ่งนำเพลง "ง่ายๆ " มาร้องร่วมกับ จุ้ย และ เกี๊ยง ซึ่งพอร้องจบ จุ้ย ก็บอกกับผู้ชมว่าว่า "นก คงตื่นเต้น เพราะอยู่กันหลายคน งั้นให้อยู่คนเดียวดีกว่าจะได้ไม่ตื่นเต้น" ดังนั้น นก จึงได้ร้องคนเดียวในเพลงต่อมา "ไม่คิดถาม" ต่อด้วยพิธีกรในงานทั้งสอง ดู๋ กับ กิ๊ก ที่มีเพลง "อยากมีหมอน" มาฝาก พร้อมกับหางเครื่องแบบลูกทุ่งอลังการหลายคนบนเวที ชนิดว่าเกินหน้าเกินตานักร้องเจ้าของงานทีเดียว
ถึงเวลาที่ เฉลียง ออกมาพร้อมหน้าพร้อมตากับเพลงดังของพวกเขา "เร่ขายฝัน" และ "นิทานหิ่งห้อย" ที่มีเอกลักษณ์ในเพลงหลัง กับการเล่านิทานแฝงเรื่องราวอะไรบางอย่างให้ขบคิดโดย เจี๊ยบ ที่เริ่มต้นขึ้นมาว่า
"นิทานเรื่องเดิมที่เล่าต่อจาก 7 ปีที่แล้ว ความเดิมตอนที่แล้วมีอยู่ว่า อึ่งอ่างตัวแตก กบเลือกนาย กบอาศัยอยู่ในบึงน้ำใสแจ๋ว เลือกนายมาปกครองตัวเอง เลือกแล้วเลือกอีกๆ จนในที่สุดเทวดาทนไม่ไหวก็เลยส่งผู้ปกครองมา กบหลายตัวก็แช่มชื่น แรกที่มาทำงานกบหลายตัวมีความสุข ทำงานแข็งขัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี สิ่งที่เคยพองก็เลยแฟบ หรืออีกคำหนึ่งก็คือ ยุบ การทำงานหนักก็ต้องหยุดพัก เอามารวมกันก็จะเป็น ยุบ...พัก ในที่สุดกบทั้งหลายก็ทนไม่ไหวอีกครั้ง เรียกร้องเทวดาให้ส่งนายใหม่มาอีกแล้ว เพราะว่านายเก่านั้น เทวดาสั่งไว้เลย กบทั้ง 111 ตัว ต้องจำศีล 5 ปี"
หลังจากที่แฟนๆ ได้ฟังนิทานจาก เจี๊ยบ ที่เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนไปนานประมาณ 20 นาที คลอด้วยเพลง นิทานหิ่งห้อย จนจบแล้ว ก็มาถึงเพลงน่ารักอย่าง "กล้วยไข่" และเพลงสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับ "อื่นๆ อีกมากมาย" แล้วจากนั้นจึงเป็นช่วงอังกอร์ที่ เฉลียง ไม่ปล่อยไม่ให้แฟนๆ ต้องรอนานกับเพลงที่ส่งทุกคนกลับบ้านอย่าง "ฝากเอาไว้" โดยก่อนจากกัน ดี้ ทิ้งท้ายว่า "ผมก็ยังจะดื้อบอกว่าคอนเสิร์ตเรื่องราวบนแผ่นไม้เมื่อ 7 ปีที่แล้วเป็นครั้งสุดท้าย และครั้งนี้ถือว่าเป็นภาคผนวกนะครับ ขอบคุณมากนะครับทุกท่านครับ"