เปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวของ โดโลเรส เจ้าของเพลงดัง Zombie

สำหรับคอเพลงสากลแล้ว เชื่อแน่ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเพลง "Zombie" เพลงที่มีเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์จากนักร้องนำสาวเท่ "โดโลเรส โอ ริออร์แดน" (Dolores O'Riordan) แห่งวงร็อกชื่อดัง "The Cranberries" (เดอะ แครนเบอร์รี่ส์)

วันนี้ โดโลเรส ได้แยกมาทำงานเดี่ยวของตัวเองในชื่ออัลบั้มว่า "Are You Listening?" ซึ่งเธอก็ได้เลือกที่จะบินมาเมืองไทยเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อจัดงาน "An Evening with Dolores O'Riordan" แถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิต เมื่อ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ณ โรงแรม แพน แปซิฟิค

เปิดงานกันด้วยบทเพลงเพราะๆ ของ เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ อย่าง "Linger" ต่อด้วย "Ordinary Day" ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกเปิดตัวของอัลบั้มใหม่นี้ ก่อนที่ในลำดับต่อไปจะได้ฟังเธอเล่าเรื่องราวการทำงานเดี่ยวให้ฟังกันบ้าง

เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทยหรือเปล่า

"ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเมืองไทยค่ะ เพราะเคยมาก่อนหน้านั้นตอนประมาณปี 1990 เคยก็มาทัวร์กับวง เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ ฉันชอบอาหารไทยมากค่ะ แล้วเมื่อเช้าก็ไปนวดมาด้วย คนไทยนวดเก่งมาก มีความสุข ทำให้มีแรงมาร้องเพลงในวันนี้ค่ะ"

ที่มาของการทำอัลบั้มเดี่ยวครั้งนี้

"เนื่องจากทัวร์กับวงมานาน 14-15 ปี ก็เลยอยากลองทำอะไรใหม่ๆ บ้าง นอกจากทำอะไรแบบเดิม ตอนนี้ก็เลยกลับมาทำอัลบั้มเดี่ยว ส่วน เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ ไม่แน่อาจจะกลับมารวมกันอีกครั้งก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ใครอยากทำอะไรก็ลองทำไปก่อนค่ะ มันไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต"

พูดถึงการร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ

"การร้องแบบนี้ที่บอกว่ามีนักร้องไทยบางท่านหรือว่านักร้องต่างประเทศบางคน ที่เอาการร้องแบบนี้ไปใช้ในการร้องเพลง ซึ่งการทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการชมฉัน ต้องขอบคุณด้วยซ้ำค่ะ ที่พวกเขาชอบสไตล์การร้องของฉัน การร้องแบบนี้มาจากการร้องในครอบครัวฉัน จากคุณพ่อคุณแม่ที่ฉันได้ยินมา แล้วฉันก็ได้ร้องเพลงตั้งแต่ 5 ขวบ เป็นการร้องในแบบไอริชสไตล์ ที่เป็นการร้องหอนๆ หน่อย เป็นแบบไอริชแท้ๆ เป็นการออกเสียงแบบยูโรเปี้ยนนั่นเองค่ะ"

ใช้เวลาทำอัลบั้มนี้นานเท่าไร

"ฉันจะค่อยๆ ทำเพลงค่ะ ทำไปเลี้ยงลูกไป แล้วล่าสุดที่ฉันภูมิใจมากคือได้ไปเรียนขับรถมาค่ะ ระหว่างที่ทำจะไม่ได้รีบอะไรเลยค่ะ"

ที่มาของชื่ออัลบั้ม Are You Listening?

"ที่ตั้ง Are You Listening? เป็นคำถามเอาไว้ เพราะฉันรู้สึกว่าเป็นคำที่เปิดเอาไว้กว้างๆ ดี สามารถตีความได้หลายแบบด้วย ฉันเป็นคนที่นึกถึงการใช้คำค่อนข้างเยอะค่ะ อย่างการเขียนเนื้อเพลงขึ้นมาเนี่ย ถ้าเนื้อเพลงไม่โดนใจฉัน ฉันก็ร้องไม่ออกเหมือนกันค่ะ"

เพลงเปิดตัว Ordinary Day ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน

"เป็นเพลงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาวคนเล็กอายุประมาณ 2 ขวบแล้ว ซึ่งในฐานะคุณแม่ ฉันรู้สึกว่าเด็กโตเร็วมาก เค้าน่าจะได้ใช้ความสุขแบบของตัวเองให้เต็มที่ ในวันที่เค้าเป็นเด็กธรรมดาๆ เป็นตัวของตัวเองด้วย ซิงเกิ้ลแรกนี้จึงได้แรงบันดาลใจมากจากชีวิตส่วนตัวของฉันค่ะ"

ตอนนี้เป็นแม่คนแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

"เป็นสิ่งที่ฉันดีใจมากในการที่ได้เป็นแม่ค่ะ ลูกๆ ก็ซนกันไปตามประสาเด็กน่ะค่ะ แต่ลูกๆ เค้าก็ไม่รู้ว่า เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ คืออะไร ไม่รู้ว่าแม่ตัวเองดังขนาดไหนค่ะ แล้วลูกๆ ก็มาถามว่าแม่มาจาก เดอะ แครนเบอร์รี่ส์ เหรอ มีคนบอกเค้ามา ฉันก็บอกว่าอย่าไปสนใจเลยค่ะ"

อัลบั้มนี้ทำมาจากประสบการณ์ทั้งหมดรึเปล่า

"ในอัลบั้มนี้ก็เอาประสบการณ์มาจากตัวเอง เช่นเพลงที่เกี่ยวกับมะเร็ง ในเรื่องที่ใกล้ตัวมาก คือคุณแม่สามีฉันที่เป็นมะเร็ง ก็เลยแต่งเพลงที่ชื่อว่า Black Widow ขึ้นมาอยู่ในอัลบั้มนี้ ซึ่งเดิมก็เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มซาวด์แทร็กของ Spider-Man 2 ด้วย แต่ตอนนี้ก็มาอยู่ในอัลบั้มนี้แล้วค่ะ"

การทำงานเพลงครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง

"การทำงานครั้งนี้ก็แปลกไปนิดนึง เพราะไม่ได้ทำที่สตูดิโอ แต่ว่าทำที่บ้านค่ะ ให้โปรดิวเซอร์มาที่บ้าน แล้วขณะที่โปรดิวเซอร์ทำเพลงกันอยู่ ฉันก็อยู่ในครัวทำกับข้าวค่ะ ซึ่งถ้าทำที่สตูดิโอความสดของดนตรีจะหายไปค่ะ ทำที่บ้านก็สนุกดี แปลกดีค่ะ"

ก่อนหน้าที่จะมาไทยไปฮ่องกงมาก่อนด้วย

"ค่ะ แล้วที่ฉันได้มาวันนี้ก็ดีใจมาก อยากจะลงจากเวทีไปขอบคุณทุกคนเดี๋ยวนี้เลย ได้เดินทางมาที่เอเชียอีกครั้งหนึ่ง ฉันก็ตื่นเต้นในตอนที่ได้ไปฮ่องกงมา หลังจากนี้คงกลับไปยุโรปค่ะ"

แล้วซิงเกิ้ลเพลงต่อไปที่จะปล่อยออกมาคือเพลงไหน

"ไม่แน่ใจอาจจะเป็น When We Were Young หรือ Loser ค่ะ ซึ่งถ้าใครชอบ Zombie ก็แนะนำให้ลองฟัง Loser ค่ะ"

ปิดท้ายก่อนจบงาน โดโลเรส ยังมีเพลงเพราะๆ มาฝากอีก ได้แก่ "When We Were Young" และ "Angel Fire" จากอัลบั้มนี้ ส่วนอีกหนึ่งเพลงปิดท้ายที่ดูจะขาดไม่ได้เลยกับเพลงในใจใครหลายคน "Zombie" ซึ่งเธอก็สามารถสะกดผู้ฟังได้อย่างนิ่งงันในเพลงนี้เช่นเคย ซึ่งหากใครอยากฟังเสียงร้องเพราะๆ ของเธอให้เต็มอิ่มแล้วล่ะก็ อัลบั้ม Are You Listening? จะวางแผงในเมืองไทย 8 พฤษภาคมนี้ ติดตามหามาฟังกันได้