นักร้องสาวมาดเท่ ญารินดา อัลบั้มใหม่ที่มาพร้อมกับเพื่อนๆ

"ญารินดา แอนด์ เฟรนด์ส" (Yarinda & Friends) คือกลุ่มคนทำเพลงที่เกิดจากการรวมตัวของ "นินา - ญารินดา บุนนาค" (ร้องนำและกีตาร์) นักร้องสาวคุ้นหน้าที่มีบุคลิกมาดมั่นและน้ำเสียงที่หลายคนหลงรัก ร่วมด้วยเพื่อนๆ ของเธอ "เอ็ด" (กีตาร์โฟล์ก) "ตู่" (เบส) "จั๊ก" (กีตาร์ไฟฟ้า) และ "โอ๋" (คอรัส) กับอัลบั้มในชื่อความหมายดีๆ ของพวกเขาว่า "ทราย ทู บี ไนซ์" (Try To Be Nice)

งานเพลงครั้งนี้ ญารินดา และเพื่อนๆ มีอิสระอย่างเต็มที่ในการใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงในแต่ละบทเพลง อันเกิดจากส่วนผสมที่ลงตัวของหลากหลายเครื่องดนตรี รวมทั้งยังมีเสียงร้องเท่ๆ พร้อมกับการเล่นกีต้าร์ในแบบของ ญารินดา ที่จะสะกดผู้ฟังให้รู้สึกอบอุ่น และสุนทรีย์ไปกับงานเพลงของพวกเขา ซึ่งการทำงานในอัลบั้มนี้จะเป็นอย่างไร นินา ตู่ และ เอ็ด จะมาเล่าให้พวกเราได้ฟังกัน

ทำไมถึงใช้ชื่อ ญารินดา แอนด์ เฟรนด์ส

นินา "เพราะความจริงเป็นการทำกับเพื่อนๆ หลายคน โดยมีตัวนินาเป็นหลัก พวกคำร้อง ทำนอง นายังเขียนอยู่เองหมดค่ะ แต่ว่าเพื่อนที่มาช่วย คือมาช่วยทางด้านดนตรี เช่น บางคนมาแจมกีตาร์ 2 เพลง บางคนมาคอรัสให้เพลงหนึ่ง อะไรแบบนี้ จะมี พี่จั๊ก พี่ตู่ พี่เอ็ด ยืนพื้นกัน 3 คน แต่ที่เหลือจะไปๆ มาๆ เลยเป็นอารมณ์เหมือนกับมานั่งแจมในหมู่เพื่อนๆ มากกว่าจะมาฟอร์มวงกัน"

แนวเพลงเป็นแบบโฟล์กร็อกหรือเปล่า

นินา "ถ้าแนวจะนิยามไม่ค่อยได้ คือนาชอบเสียงดนตรีสด เพราะฉะนั้นความเป็นโฟล์ก เสียงกีตาร์โปร่ง แล้วก็กลองจะชัดเจน แต่ว่าถ้าถามว่าร็อกรึเปล่าอันนี้ไม่รู้ ต้องลองไปฟังดู แต่จะไม่ใช่เพลงแบบฟังสบายๆ ไม่เชิงนะ ส่วนใหญ่พอบอกกีตาร์โปร่งแล้วคนจะนึกว่าเป็นอะไรแบบอีซี่ลิสเซินนิ่ง แต่นี่มันจะมีจังหวะ แล้วแต่อารมณ์ หนักบ้างก็มี เบาไปเลยก็มี"

ใช้เวลาทำอัลบั้มนานแค่ไหน

นินา "จริงๆ เพลงนาเขียนเก็บมาตั้งแต่ทำอีพีที่แล้วก็ปีครึ่ง แล้วเราก็เล่นดนตรีด้วยกันมาตลอด แต่สำหรับอัลบั้มนี้ก็ปีครึ่งได้ สำหรับเพื่อนกลุ่มนี้ จะเป็นเพื่อนตั้งแต่ตอนที่นาเรียนจบกลับมาแล้วก็ได้เล่นดนตรีด้วยกัน กลับมาจากเมืองนอก เราก็ เอ๊ะ จะไปเล่นดนตรีกับใครดี ก็มีเพื่อนแนะนำ จากสองก็เป็นสามเป็นสี่ไปเรื่อยๆ คนนู้นคนนี้ชวนๆ กันไปเล่น จนเป็นกิจจะลักษณะ คุ้นเคยเล่นด้วยกันประจำไปเลย"

ชื่ออัลบั้มมีที่มาจากไหน

นินา "เป็นชื่อที่นาได้ไปเล่นคอนเสิร์ต ก็มีคนถามว่าวงนี้ชื่อวงอะไร แล้วมีพี่คนหนึ่งบอกว่าเออ ชื่อนี้ดีมั้ย ก็เออ เจ๋งดี แล้วอัลบั้มนี้เราไม่ได้ออกเป็นวง แต่ว่าชื่อนี้จะเป็นเหมือนกับอะไรที่ใช้แทนวงพวกเราอยู่ก็เลยใช้เป็นชื่ออัลบั้ม ส่วนความหมายก็มองได้หลายแง่ แสดงความตั้งใจก็ได้ หรือว่าเป็นคำบอกกล่าวให้คนหลายๆ คนรู้ค่ะ"

ตัวนินาก็มีแฟนเพลงที่ติดตามมาตั้งแต่อัลบั้มแรกด้วยใช่ไหม

นินา "ก็ครึ่งๆ นะ เหมือนกับว่าโชคดีค่ะ ที่มีเพื่อนๆ แล้วก็น้องๆ ที่เค้าติดตามเรามาตั้งแต่อัลบั้มแรก แล้วก็ใจกว้าง คือเห็นเราทำเพลงเอง เค้าก็ช่วยอุดหนุน หรืออาจมีบางคนใหม่ๆ ซึ่งเค้าอาจชอบฟังเพลงที่ตลาดน้อยหน่อยๆ หรืออะไรแบบนี้ พอเรามาทำตรงนี้เค้าก็ เฮ้ย ลองๆ ฟังดูหน่อย แต่ว่าก็มีเหมือนกันที่แบบ เอ๊ย อะไรอัลบั้ม 2 ทำไมจากแกรมมี่มาทำเองเลย ก็มีพวกที่เหวอไปเลยก็มี นาก็ไม่ได้ตั้งเป้าหรือคาดหวังไว้ คือจุดประสงค์ที่มาตอนนี้ คือมาทำเพลง เราไม่ได้โฟกัสไปที่เรื่องการตลาด เราไม่ทำอะไรที่เราเสียใจอยู่แล้ว"

ทำเพลงเองมีความยากง่ายอย่างไรบ้าง

นินา "ง่ายตรงที่เป็นอะไรที่สด เหมือนเวลาเรานั่งเล่นกันกับเพื่อน แจมกันตรงนั้นเลยไง แล้วพอคิดอะไรออก ปิ๊งอะไรขึ้นมาก็จำๆ เอาไว้ เล่นตรงนี้ใหม่กัน ไดนามิกเลยค่อนข้างสด เพราะเหมือนกับเราทดลองกันเรื่อยๆ เทียบกับการที่เรานั่งหน้าคอมอยู่คนเดียวใช่มั้ย แต่ว่าข้อยากคือไม่มีคนมาช่วยแนะนำ แนะแนวว่า เออ มาถูกทางแล้วนะ เพราะฉะนั้นในแง่นั้น จะไม่มีมืออาชีพมาช่วยติชมเต็มที่ แต่พอมาอยู่ที่สมอลล์รูม ก็มีพี่ๆ จากเพนกวินวิลล่า หรือหลายคนมากมาช่วย พอฟังแล้วรู้ แนะนำในเรื่องของซาวด์ได้เลย"

ผลที่สำเร็จออกมาแล้วรู้สึกอย่างไร

นินา "ยังไม่ได้ฟังเลยค่ะ (หัวเราะ) พอดีอยู่ห้องอัด กระหน่ำมา 2 เดือนจนแบบวันสุดท้ายที่เข้าห้องอัดนี่หูเสื่อมไปแล้ว ไม่ไหวแล้ว คือถ้าเราได้ยินเสียงตัวเองหรือเสียงกีตาร์ของเพลงนี้มากไปกว่านี้เราคงแบบแย่แน่ ส่วนคนใกล้ตัวที่ได้ฟังนี่ เค้าก็ให้ความสนใจนะ คือนา ถือว่าเป็นข้อเสียนะ คือนาไม่ใช่นักดนตรีที่เก่ง นาเล่นดนตรีด้วยหู เพราะฉะนั้นเลยจะตามใจตัวเองในแง่ที่ว่าเราจะไม่มีกฎ หรือทฤษฏีมาตั้งขอบเขต อย่างตรงนี้ผิดโน้ตนะ โน้ตตัวนั้นกัดกับโน้ตนี้ หรือว่าเครื่องดนตรีชิ้นนี้ไม่น่าจะเล่นกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้อะไรแบบนี้ เราจะใส่แบบตามใจฉัน บางคนฟังก็เลยฟังว่าแปลก"

การร้องเพลงของนินาเพื่อนๆ ว่าอย่างไรบ้าง

นินา "คนจะชอบบ่นว่านาพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วเนื้อหาเพลงจะกำกวม ออกเสียง ก ไก่ ค ควาย ไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้ คือบางทีคนจะว่านาชอบร้องแบบเมาๆ (หัวเราะ) ไม่ได้ตั้งใจนะ อาจจะเป็นเพราะว่านาชอบเขียนคำเยอะไง พอเพลงเร็ว เราพูดๆ ไปเรื่อยๆ มันจะรัวๆ เพื่อนก็ เอ๊ะ เราร้องอะไร หวังว่าคนซื้อไปฟัง ฟังหลายๆ รอบแล้วจะเข้าใจ"

แนะเพลงในอัลบั้มหน่อย

ตู่ "เพลง แค่เธออย่าไป ครับ เบสจะมันมากครับ (หัวเราะ) ก็เลยชอบ แต่จริงๆ เราก็ชอบหลายเพลงนะ"

นินา "แต่ละเพลงจะไม่เหมือนกัน อย่างเพลง แค่เธออย่าไป เครื่องจะเยอะมากเลยค่ะ มีทรัมเปต เชลโล่ ไวโอลิน เบส กีตาร์ ใส่กันกี่ตัวไม่รู้ คือใส่กันยับ คือเล่นสดหมด เพราะฉะนั้นเสียงไวโอลิน เสียงเชลโล่นี่แบบบาดใจมาก แต่บางเพลงอาจจะมีเครื่องดนตรีแค่ 2 ชิ้น 3 ชิ้นค่ะ อย่างเพลง บีลอง (Belong) ก็มีแต่กีตาร์โปร่งกับเชลโล่แค่นั้น"

คนอื่นๆ มาร่วมทำอัลบั้มนี้ได้อย่างไร

เอ็ด "ผมทำงานอินทีเรียอยู่ ตอนนั้นพี่จั๊กมือกีตาร์อีกคนไปเที่ยวบ้าน แล้วถูกใจในภาพพจน์คือว่าจะช่วยเสริมให้ญารินดาดีขึ้นได้ (หัวเราะ) ผมก็เล่นก๊องแก๊งๆ อยู่ พี่เค้าก็ว่าใช้ได้ทีเดียว"

นินา "ทุกคนไม่ใช่นักดนตรีมืออาชีพค่ะ อย่างพี่เอ็ดทำอินทีเรีย ส่วนพี่ตู่ยังเรียนโทดนตรีไทยอยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันเลย พี่จั๊กก็เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ เพื่อนที่มาช่วยอีก 2 คนก็เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์เหมือนกัน นาทำสถาปัตย์แบบนี้ ก็ใช้เวลาว่างจากงานมาทำด้วยกัน"

ความคาดหวังกับอัลบั้มนี้

เอ็ด "เราเล่นดนตรีก็สนุกแล้วนะ การที่เราจะประสบความสำเร็จมั้ย ก็ไม่ได้นึกถึงเท่าไร จะว่าเราทำดีที่สุดแล้ว คงไม่ใช่ แต่ถามว่าเต็มที่มั้ย เต็มที่ทีเดียวเชียว แต่คำว่าดีจะมีพัฒนาการไปเรื่อยๆ ถ้าเราได้รับการสนับสนุนที่ดี เราก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้"

นินา "ทุกคนคงเล่นดนตรีไปด้วยกันเรื่อยๆ อย่างที่บอก ญารินดา แอนด์ เฟรนด์ คือทุกคนที่มาเล่นตรงนี้เราไม่ได้มีข้อผูกมัดในแง่ของสัญญา หรือว่าในแง่ของวง ว่าวงจะมีแค่ 4 คน หรือ 5คนนะ คือทุกคนรักที่จะเล่นดนตรีด้วยกัน แล้วก็มาแจม ใครจะมาแจมมาได้มา มาไม่ได้ไม่เป็นไร มันมีความสบายของตรงนั้นอยู่ แต่ว่าทุกคนก็อยากจะพัฒนาไปด้วยกัน ทำเพลงไปด้วยกันไปเรื่อยๆ อย่างที่บอกตอนแรกว่าประเด็นไม่ใช่การคาดหวังทางธุรกิจอะไร แต่เพราะเราชอบที่จะทำ และอยากจะทำตรงนี้ให้ดีมากกว่าค่ะ"

ความพอใจในอัลบั้ม

เอ็ด "อัลบั้มนี้มันจริงนะ เพื่อนกับเพื่อนเราก็พูดกันอย่างตรงไปตรงมา อัลบั้มนี้อาจจะดาร์กหน่อย อาจจะย่อยยากซักนิดนึง ไม่เหมือนกับที่เราได้ฟังเพลงที่มีตามท้องตลาด ที่ฟังดูลื่นหู แล้วก็ย่อยง่ายหน่อย อัลบั้มนี้ก็เหมือนกับหนังสือน่ะ ซึ่งปัจจุบันเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยอ่านหนังสือกันแล้ว ชอบอะไรที่กินเข้าไปแล้วเข้าท้องเลย"

แนะนำอัลบั้มนี้กับคนฟังหน่อย

นินา "ถ้าพูดต่อจากพี่เอ็ดในเรื่องย่อยยาก เราก็ภูมิใจจะนำเสนอตรงนี้ ตรงที่นารู้สึกว่าอัลบั้มนี้ เครื่องดนตรีทุกชิ้นเนี่ยจะมีจุดเด่นของมันเอง คือแบบเราทำดนตรีไม่ได้เน้นแค่เสียงร้องแล้วดนตรีเป็นแบ็กอัพ เพราะฉะนั้น ทรัมเป็ตก็มีตัวตนของมันเอง เบส กีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า กลอง ทุกอย่างเนี่ย ซึ่งบางทีคนฟังเพลงผ่านๆ เนี่ย จะไม่ได้สังเกต แต่ว่าอัลบั้มนี้ถ้าลองฟังดู หวังว่ามันจะกระโดดออกมาให้เราเห็น ไม่ต้องใช้ความพยายามหรอก แต่ว่าอย่างทรัมเป็ต มันคงจะกระโดดเข้ามาหาเรา ฟังชั้นเถอะอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) นามีความสุขตรงนี้ค่ะ"

งานเพลงที่เป็นส่วนผสมอันลงตัว ซึ่งเกิดจากความตั้งใจและรักในเสียงดนตรีของ ญารินดา และเพื่อนๆ พร้อมให้คนฟังได้พิสูจน์ความเป็นพวกเขาได้ ไม่นานเกินรอ กลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป