คีน วงร็อกอังกฤษชื่อดัง กับคอนเสิร์ตแบบอบอุ่นในเมืองไทย
"คีน" (Keane) วงร็อกชื่อดังจากเกาะอังกฤษกับสมาชิกทั้ง 3 ได้แก่ "ทอม แช็ปลิน" (Tom Chaplin) นักร้องนำ "ทิม ไรซ์ อ๊อกซ์ลี่ย์" (Tim Rice-Oxley) รับหน้าที่เล่นเปียโนและเบส สุดท้าย "ริชาร์ด ฮิวจ์ส" (Richard Hughes) มือกลองของวง
คีน ออกผลงานเพลงอัลบั้มแรกชื่อ "Hopes and Fears" ซึ่งประสบความสำเร็จทำยอดขายได้กว่า 5 ล้านแผ่นทั่วโลก นอกจากนั้น พวกเขายังได้รับรางวัลใหญ่จากบ้านเกิดบนเวที บริตส์ อวอร์ดส (Brits Awards) ถึง 2 รางวัล ในปี 2005 กับสาขา ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (British Breakthrough Act) และสาขา อัลบั้มยอดเยี่ยม (Best Album) ส่วนอัลบั้มใหม่ "Under The Iron Sea" ซึ่งเพิ่งจะวางแผงในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับจากผู้ฟังอย่างดีเช่นเคย
สมาชิก คีน ทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา ที่ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า "คีน อันเดอร์ ดิ ไอรอน ซี ไลฟ์ อิน แบ็งคอก" (Keane Under The Iron Sea Live in Bangkok) โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน สมาชิกทั้งหมดก็ได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อพูดคุยถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ภายในงานแถลงข่าว มีการฉายภาพบรรยากาศการทัวร์คอนเสิร์ตของวงคีนในหลายประเทศทั่วโลก เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนจะได้ดูของจริง หลังจากนั้นยังมีการฉายมิวสิกวิดีโอเพลงที่ 2 ในอัลบั้มชุดล่าสุด ชื่อเพลงว่า "Crytall Ball" ซึ่งเป็นการฉายรอบปฐมทัศน์ในเอเชียอีกด้วย ส่วนเมื่อถามถึงคอนเสิร์ตในเมืองไทย พวกเขาก็อมยิ้มพร้อมกับตอบเพียงว่าจะมีอะไรมาฝากคนไทยเป็นพิเศษบ้างนั้น ก็คงต้องรอชมในคอนเสิร์ตกันเอาเอง
ส่วนในวันงานคอนเสิร์ต ก็เริ่มกันด้วยวงเปิดจากไทย "กูซ" (Goose) ที่ใช้เวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง จนได้เวลาของกลุ่มนักร้องที่ทุกคนในฮอลล์รอคอย เสียงเพลง "The Iron Sea" จึงบรรเลงขึ้นเป็นเพลงแรก ซึ่งพอจบเพลง ทอม ได้กล่าวพูดขอบคุณและขอโทษที่ปล่อยให้รอกันนาน พร้อมทั้งยังทักทายคนดูเป็นภาษาไทยว่า "สวัสดีแบ็งคอก สบายดีกันมั้ยครับ"
แล้วหลากหลายบทเพลงดังของพวกเขาก็ได้ถูกนำมาร้องเป็นลำดับต่อมา ได้แก่ "Put It Behind You" "Nothing In My Way" "Bend And Break" "We Might As Well Be Strangers" และ "Everybody's Changing" มาถึง "Try Again" โดยเพลงนี้ คีน ก็บอกให้ทุกคนในฮอลล์เปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือแล้วโบกมือไปมา จากนั้นต่อกันด้วย "Leaving So Soon?"
มาถึงช่วงเวลาประทับใจของผู้ฟังชาวไทย เมื่อ ทอม ได้กล่าวขึ้นมาว่า "บทเพลงนี้สำหรับคิงภูมิพล" พร้อมกับยกมือ เพื่อให้เห็นสายรัดข้อมือเรารักในหลวงสีเหลืองเด่น ซึ่งสวมไว้ที่ข้อมือของเขา กับบทเพลงชื่อว่า "Hamburg Song" ต่อด้วย "The Frog Prince" และก่อนที่จะร้องเพลงถัดไป ทอม ได้บอกกับคนดูด้วยว่า "ช่วยกันร้องเพลงนี้ให้ดังที่สุดเท่าที่ทุกคนจะสามารถทำได้นะครับ" กับเพลงซึ้งๆ ที่ได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงอย่างกึกก้อง "Somewhere Only We Know"
พอมาถึง "A Bad Dream" บทเพลงนี้ได้รับการพูดเกริ่นขึ้นมาว่าเป็นเพลงที่ ทอม ชอบมากที่สุด และเป็นบทเพลงซึ่งดีที่สุดที่พวกเขาได้แต่งขึ้นมา จบท้ายกันด้วย "This Is The Last Time" และ "Is It Any Wonder? " ก่อนที่ทุกเสียงบนเวทีจะเงียบลงพร้อมกับไฟที่ดับมืดไปพักใหญ่ จนทุกคนในฮอลล์ต่างพากันตะโกนเรียก คีน กันเสียงดัง และพวกเขาก็กลับมาพร้อมกับบทเพลงเพราะๆ อีกครั้งหนึ่ง
บทเพลงเหล่านั้น คือ "Atlantic" ซิงเกิ้ลเปิดตัวสำหรับอัลบั้มชุดล่าสุด ต่อด้วย "Crystal Ball" และเพลงสุดท้าย "Bedshaped" เป็นการจบงานแบบถึงคนจะน้อยแต่ก็อบอุ่น แถมนักร้องนำ ทอม ยังพูดชมคนไทยว่าน่ารักและชมประเทศไทยด้วยว่าเป็นประเทศที่สวยงามอยู่หลายครั้ง วันนั้นพวกเขาเลยได้ใจคนที่ไปร่วมชมคอนเสิร์ตกันแบบเต็มๆ กับบทเพลงเพราะๆ และความน่ารักของกลุ่มนักร้องดังกลุ่มนี้