สนุกและซึ้งไปในค่ำคืนแห่งฝันกับคอนเสิร์ต ดาร์เรน เฮย์ส

"ดาร์เรน เฮย์ส" (Darren Hayes) นักร้องหนุ่มเสียงดี อดีตสมาชิกวง "ซาเวจ การ์เดน" (Savage Garden) กับคอนเสิร์ตใหญ่ในเมืองไทยชื่อว่า "อะ บิ๊ก ไนท์ อิน วิธ ดาร์เรน เฮย์ส" ��อยซ์ ออฟ ซาเวจ การ์เด� " (A Big Night In with Darren Hayes Voice of Savage Garden) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม 2549 ณ บีอีซีเทโรฮอลล์ สวนลุมไนท์ บาซาร์

แค่เริ่มงาน คนดูทั้งชายหญิงก็ต้องส่งเสียงเฮกันลั่นฮอลล์ กับการปรากฏตัวที่ไม่ธรรมดาของนักร้องคนดัง เมื่อ ดาร์เรน เดินออกจากประตูด้านข้าง แล้วเดินขึ้นเวทีท่ามกลางแฟนเพลงที่ห้อมล้อมอยู่มากมาย โดยตลอดทางก็มีการกอดแบบแนบแน่น เป็นการทักทายกับผู้ชมสาวๆ ไปตลอดทาง ทำให้เกิดอารมณ์อบอุ่นเป็นกันเอง ระหว่างผู้ชมและเจ้าของคอนเสิร์ตในวันนี้

จากนั้น ดาร์เรน ได้ยกมือไหว้แบบไทย พร้อมกล่าวคำว่า สวัสดีครับ อย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะเริ่มเพลงแรก "Affirmation" เพลงจังหวะโยกๆ ต่อด้วย "Chained To You" ที่สนุกไม่แพ้กัน เป็นสองเพลงแรกที่ ดาร์เรน ทั้งร้องและเต้น ออกลีลาส่ายสะโพกเข้าจังหวะเพลงได้สนุกแบบสุดๆ ปลุกคนดูให้คึกคักในช่วงเริ่มต้น

ต่อกับเพลงจังหวะกลางๆ "The Lover After Me" พอจบเพลงนี้ ดาร์เรน ก็ทำให้คนดูต้องตื่นเต้นกันอีกครั้ง กับการสุ่มผู้โชคดี เพื่อร่วมค่ำคืนแบบพิเศษกับเขาอย่างใกล้ชิดบนเวที ซึ่งตกแต่งให้เหมือนห้องพัก มีทั้งโซฟานั่งพักผ่อน และโต๊ะทานอาหารแบบโรแมนติก ใต้แสงเทียน โดยผู้โชคดีเหล่านั้นประกอบด้วย 2 สาว และ 1 หนุ่มที่ได้ขึ้นไปนั่งชมบนเวที

แล้วหนุ่ม ดาร์เรน จึงได้ร้องเพลงแสดงพลังเสียงกันต่ออีก 2 เพลง คือ "Creepin' up on You" และ "I Like The Way" เมื่อจบเพลงก็มีการเชิญหญิงสาวผู้โชคดีเพิ่มอีก 3 คน ให้ขึ้นไปนั่งชมอยู่บนเวทีเช่นเดิม ต่อด้วยเสียงร้องจากเพลงเร็วๆ ชวนโยก "Strange Relationship" ที่เขาร้องเรียกให้คนดูซึ่งนั่งกันอยู่ ออกมายืนเต้นด้วยกันข้างหน้าฮอลล์สนุกไปด้วยกัน

ในขณะนี้บนเวทีซึ่งมีผู้โชคดี เป็นหญิงสาว 5 คนและชายหนุ่ม 1 คน ดาร์เรน ก็ได้บอกกับผู้ชมว่าจะเลือกหญิงสาวหนึ่งคนเพื่อให้เป็นคู่ของชายหนุ่มคนนั้น ซึ่งเมื่อเลือกได้แล้ว ทั้งคู่ก็ได้รับการบริการแบบพิเศษสุดบนโต๊ะอาหาร ที่ตั้งอยู่บนเวทีและมีการจุดเทียนแบบโรแมนติก เพื่อร่วมกันฟังเพลงรักช้าๆ "Insatiable"

ในเพลงต่อมา "I Just Want You To Love Me" ซึ่ง ดาร์เรน บอกว่าเป็นเพลงใหม่ที่อยากร้องให้ผู้ชมได้ฟัง และก็ถึงเวลาย้อนไปฟังเพลงจาก ซาเวจ การ์เดน กันบ้าง หลังจากฟังเพลงในอัลบั้มเดี่ยวของ ดาร์เรน มานาน เพลงแรก "Hold Me" และเพลงดังอีกหนึ่งเพลงของพวกเขาอย่าง "To The Moon And Back" ในแบบอะคูสติก ปิดท้ายด้วย "I Knew I Love You" ที่ ดาร์เรน ร้องด้วยไมโครโฟน ซึ่งสามารถแปลงให้เป็นเสียงร้องแบบอิเล็กทรอนิก จนได้ความไพเราะในอีกรูปแบบ

จากนั้นเป็นการร้องสลับกันทั้งเพลงจากอัลบั้มเดี่ยวของเขาและเพลงจาก ซาเวจ การ์เด้น ในแบบต่อเนื่อง คือ "Void" "Darkness" "Break Me Shake Me" "Unlovable" และ "Crash And Burn" ท้ายสุดกับเพลงที่แค่เสียงดนตรีขึ้น ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสนั่นฮอลล์กับ "Truly Madly Deeply" เพลงรักหวานอันโด่งดังมาก ซาเวจ การ์เด้น

ไฟบนเวทีที่ดับลงแล้ว แต่เมื่อคนดูยังไม่อยากกลับ ดังนั้น ดาร์เรน จึงออกมาตามเสียงเรียกร้องของผู้ชม พร้อมกับ 3 เพลงดัง ไม่ว่าจะเป็น "Popular" "I Want You" และ "So Beautiful" และกล่าวคำขอบคุณผู้ชมที่มากันในวันนั้น เป็นการจบงานที่ผู้ชมต่างก็ประทับใจ คงเป็นค่ำคืนที่เหมือนกับความฝัน สำหรับเหล่าแฟนเพลงของพ่อหนุ่ม ดาร์เรน เฮย์ส อย่างแท้จริง