สุดยอดคอนเสิร์ตฮิปฮอปแนวหน้า 50 Cent ปะทะ Fort Minor

"50 Cent and Fort Minor featuring Mike Shinoda Live in Bangkok" ชื่อคอนเสิร์ตที่เป็นการโคจรมาพบกันของ 2 ฮิปฮอปแนวหน้าระดับโลก ฟิฟตี้เซ็นต์ (50 Cent) ร่วมด้วย จี-ยูนิต (G-Unit) และพบกับ ไมค์ ชิโนดะ (Mike Shinoda) สมาชิกวงร็อกชื่อดัง ลินคิน พาร์ก (Linkin Park) กับทำงานเพลงครั้งพิเศษในนาม ฟอร์ท ไมเนอร์ (Fort Minor) นับเป็นสุดยอดคอนเสิร์ตฮิปฮอปจากต่างประเทศครั้งแรกในเมืองไทย

คอนเสิร์ตได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงแดดร่มลมตก ช่วงเย็นของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ลานแอ็กทีฟสแควร์ เมืองทองธานี อุ่นเครื่องกันด้วย 3 วงดนตรีฮิปฮอปของไทย อย่าง เอเชี่ยนแอมบาสซี่ (Asian Embassy) ดู-จะ-ด่า (Du-Ja-Da) และ ไทยเทเนี่ยม (Thaitanium) ที่ในวันนี้พวกเขาขนเพลงกันมาเล่นเรียกเสียงเฮจากคนดูได้เต็มที่และถูกใจทุกคน กับความสนุกแบบต่อเนื่อง ซึ่งเล่นกันวงละกว่าครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

จนถึงเวลาที่หลายคนรอคอย กับศิลปินต่างชาติกลุ่มแรกที่ขึ้นเวที ฟอร์ท ไมเนอร์ ที่เริ่มต้นด้วยเพลงจังหวะชวนโยกกับ "Remember The Name" จนมาถึง "It's Going Down" ของ ลินคิน พาร์ก ที่หลายคนร้องตามกันได้ และ "Dolla" ต่อด้วยเพลงที่เหมือนจะขาดไม่ได้สำหรับงานนี้ "In The End" เพลงดังสุดๆ ของ ลินคิน พาร์ก ที่ ไมค์ ร้องในแบบของตัวเอง โดยเปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนร้องเพลงนี้ตามกันได้เสียงดัง

จนจบเพลง ไมค์ ก็พูดแบบยิ้มๆ ว่า "รู้แล้วว่าวันนี้มีแฟนเพลงของ ลินคิน พาร์ก เยอะแค่ไหน แล้วจะมีแฟนของฟอร์ต ไมเนอร์ บ้างรึเปล่า" ซึ่งคนดูก็พากันตอบรับเสียงดังลั่น เพื่อแสดงตัวว่าเป็นแฟนเพลง ฟอร์ท ไมเนอร์ เช่นกัน ทำให้ ไมค์ ถึงกับยิ้มกว้างเลยทีเดียว

ต่อกันด้วยสนุกๆ อย่าง "In Stereo" "Mr.Brown" ของวง SOB (Styles Of Beyond) และเพลงเมดเล่ย์อีกหนึ่งชุดที่ ไมค์ นำมาร้อง โดยส่วนใหญ่เป็นเพลงจากอัลบั้ม Megadef ของ SOB เช่น Bleach และ You Lose ก่อนที่ ไมค์ จะมาเรียกเสียงเฮต่อกับเพลงของตัวเองบ้างอย่าง "Where'd You Go" "Feel Like Home" และ "Red To Black"

จากนั้นเป็นการพักช่วงจากเสียงร้องของไมค์ ด้วยการโชว์ลีลาเดี่ยวกลองของนักดนตรี ต่อด้วยวง แบล็ก ไวโอลิน (Black Violin) ที่มีสมาชิกเป็นนักดนตรีผิวสี 2 คน คือ วิล-บี (Wil-B) และ เคฟ มาร์คัส (Kev Marcus) ซึ่งมาพร้อมไวโอลิน 2 ตัว รวมทั้งยังเพิ่มความไพเราะด้วยเสียงจากเชลโล่อีก 1 ตัว กับเพลงจังหวะเร็วๆ สมกับเป็นการโชว์ในคอนเสิร์ตฮิปฮอป และจบกับเพลงปิดท้ายจากเสียงของ ไมค์ กับ "Numb/Encore" ผลงานเด่นที่ ลินคิน พาร์ก ทำร่วมกับ เจย์-ซี (Jay-Z)

จนเมื่อ ฟอร์ท ไมเนอร์ ได้เข้าหลังเวทีไปแล้ว แฟนเพลงก็ยังเรียกร้องให้เขากลับมาร้องเพลงอีก พวกเขาจึงขึ้นเวทีอีกครั้งพร้อมกับคำถามว่าอยากฟังเพลงอะไรดี และแล้วเสียงดนตรีก็เริ่มขึ้นในเพลง "High Road" "Petrified" และมาถึง "Believe Me" จนจบเพลงแล้ว ไมค์ก็ได้กล่าวคำขอบคุณว่า "Thanks You Bangkok"

มาถึงขาใหญ่ในวงการเพลงฮิปฮอบอีกคนหนึ่งที่หลายคนรอคอย ฟิฟตี้เซ็นต์ ที่วันนั้นไม่ได้มาคนเดียว แต่พกแก็งค์ จี-ยูนิต อันเป็นวงที่เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งมาด้วย โดยสมาชิก จี-ยูนิต ที่มาก็ได้แก่ "ลอยด์ แบ็งค์ส" (Lloyd Banks) "ยัง บั๊ก" (Young Buck) และสาวสวยคนเดียว "โอลิเวีย" (Olivia) ขาดสมาชิกไป 2 คน คือ "โทนี่ ยาโย" (Tony Yayo) และ "สไปเดอร์ ล็อก" (Spider Loc)

เริ่มคอนเสิร์ตในส่วนของ ฟิฟตี้เซ็นต์ ด้วยการฉายวีทีอาร์ ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง "Get Rich Or Die Tryin'" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เขาร่วมแสดง ก่อนที่ความสนุกในดนตรีแบบฮิปฮอปจะเริ่มต้นขึ้นในเพลงที่ถามคนดูว่า "What Up Gangsta?" และเสียงยิงปืนประกอบ ซึ่งดูจะเหมาะกับชื่อและเนื้อหาของเพลงเป็นอย่างมาก ซึ่งแค่เพลงแรกก็ได้อารมณ์จนคนดูกระโดดตาม พร้อมออกท่าทางแร็ปโย่ด้วยไปตลอดเพลง

ส่วนเพลงถัดมา "Say What You Want" เพลงดังเพลงหนึ่งของ จี-ยูนิต ต่อเนื่องด้วยเพลง "Drop it Like it's Hot" ของ สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) อีกทั้งยังมีเพลง "Hate It or Love It" และ "Magic Stick" ของ ลิล คิม (Lil' Kim) จนลำดับต่อมาเป็นเวลาของเพลงดังที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีกับ "In Da Club"

มาถึงเพลงชื่อน่ารักอย่าง "Candy Shop" กับเนื้อร้องที่น่ารักไม่แพ้กันอย่าง "I take you to the candy shop I'll let you lick the lollypop" ที่ได้เสียงหวานๆ ของสาวโอลิเวีย ซึ่งช่วยให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเบาฟังสบายมากขึ้น และเพลงลำดับต่อๆ มาที่ยังคงความสนุกกันแบบต่อเนื่องสมใจคอเพลงฮิปฮอปอย่าง "Hustle" "Wanksta" "Disco Inferno" "Piggy Bank" "Window Shopper" "I'm Support To Die Tonight" "Many Men" "Just A Little Bit" และ "21 Questions"

ซึ่งเมื่อร้องมาถึงเพลง "P.I.M.P." ชื่อเพลงที่ออกจะมีความหมายไปในทางลบ ตามรูปแบบของเพลงฮิปฮอปที่มักใช้คำแสลงต่างๆ หลังจบเพลง ยัง บั๊ก ก็ได้พูดกับคนดูว่า "Are there a lot of pimps in Bangkok?" และคำตอบที่ดังสนั่นก็คือเสียงเฮของผู้ชมที่ยังคงสนุกกับเพลงของพวกเขากันแบบไม่ยอมเหนื่อย

วันนั้นนอกจาก ฟิฟตี้เซ็นต์ และ จี-ยูนิต จะพกเพลงดังหลายเพลงมาร้องกันแบบต่อเนื่องสมใจแฟนๆ แล้ว ก่อนคนดูจะกลับบ้าน ฟิฟตี้เซ็นต์ก็มีของขวัญชนิดที่เรียกได้ว่าพิเศษมากๆ สำหรับสาวกเพลงฮิปฮอป นั่นก็คือเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นที่เขาใส่ซ้อนทับกันถึงสองตัว รองเท้า เข็มขัด หรือแม้แต่กางเกงที่ ฟิฟตี้เซ็นต์ ถอดและโยนให้คนดูเดี๋ยวนั้นเลยเช่นกัน สภาพของเขาจึงเหลือแค่เสื้อกล้ามสีขาว กางเกงบ๊อกเซอร์สีขาว และเท้าที่เปลือยเปล่า ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินหายไปหลังเวที พร้อมกับไฟที่มืดสนิท

คอนเสิร์ตครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่จบแบบประทับใจคนดูไปแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงดังที่ได้ฟังแบบต่อเนื่องกันจากเจ้าตัวจริงๆ รวมไปทั้งความน่ารักแบบเป็นกันเองของนักร้องชื่อดังระดับโลกของทั้ง ฟอร์ท ไมเนอร์ และ ฟิฟตี้ เซ็นต์ งานนี้หลังจากจบคอนเสิร์ตไปแล้ว คนดูคงได้แต่ยิ้มหน้าบาน พร้อมกับฮัมเพลงจังหวะฮิปฮอปไปด้วย อย่างสมใจขณะเดินทางกลับบ้านอย่างแน่นอน