1. สยามโซน
  2. เพลง
  3. ข่าวสารวงการเพลง

เปิดใจนิโคล เทริโอ อัลบั้มใหม่ ทำไมต้อง พันธุ์ดุ

เปิดใจนิโคล เทริโอ อัลบั้มใหม่ ทำไมต้อง พันธุ์ดุ

กะโปโล คำนี้คงไม่สามารถใช้กับ นิโคล เทริโอ ได้อีกต่อไปแล้วเพราะว่าอัลบั้มใหม่นี้ เธอพยายามจะดุ ช่วงบ่ายของวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2544 ที่ผ่านมา ทีมงานได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ นิโคล จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พูดคุยถึงอัลบั้มใหม่ของเธอ นิโคล พันธุ์ดุ และงานอื่นๆที่เธอกำลังทำอยู่ในขณะนี้

ระยะห่างระหว่างอัลบั้มนี้กับอัลบั้มที่แล้ว
อัลบั้มนี้ห่างจากอัลบั้ม บุษบา เป็นเวลาเกือบ 2 ปี แต่ระหว่างบุษบาและนิโคลพันธุ์ดุนี้ นิโคลไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน มีผลงานออกมาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต อโรคาฯ ของพี่เบิร์ด, Seven, Another Part of Me และ Play Time สอนภาษาอังกฤษ

อยากให้พูดถึงอัลบั้มนี้สักหน่อย
การเตรียมงานในอัลบั้มนิโคลพันธุ์ดุ มีการเตรียมงานนานพอสมควร ตั้งแต่หลังจาก Seven ไม่น่าจะต่ำกว่าครึ่งปี โดยคอนเซ็ปท์ของอัลบั้มชุดนี้ อยากได้เพลงกึ่งร้องกึ่งพูด แต่ไม่ใช่แร็บ ไม่ใช่ฮิปฮอป

แล้วที่มาของคำว่าพันธุ์ดุ
คำว่าพันธุ์ดุ ไม่ได้หมายถึงโกรธใครมาแล้วมาออกเทปมาสื่ออารมณ์ในทางเพลง แต่ต้องการทำอะไรที่ใครยังไม่เคยเห็น เพราะชุดแรกก็กะโปโลไปแล้ว ชุดที่สองก็หน้าเป็น แบบตลกๆ ไปแล้ว จึงเป็นการพยายามที่จะดุมากกว่า

หลายคนเห็นปกอัลบั้มชุดนี้แล้วอาจจะตกใจที่เห็นนิโคลโผล่มาจากน้ำ
ต้องการอะไรที่แปลกใหม่ ต้องการให้ถามว่าทำไมต้องพันธุ์ดุ ทำไมต้องโผล่จากน้ำ ทำไมต้องยิงปืน ซึ่งก็ตรงตามที่เราอยากให้เป็น

แล้วทำไมถึงเลือกที่โผล่ออกมาจากน้ำล่ะ
คงเป็นเพราะกี้ชอบดำน้ำ ถ้าจะดุ เข้ม แข็งแรง คงต้องเป็นตอนที่กี้เล่นกีฬา ใส่ชุดเวทสูท แต่พอใส่ปุ๊ปจะมาเดินบนบกมันก็แปลก ก็เลยลงสระไป แช่อยู่ในน้ำประมาณ 5 ชั่วโมง ตัวเป็นพรุน สาเหตุที่นานเพราะต้องจัดแสง ถ่ายตอนกลางคืน

เพลงในอัลบั้มนี้มีลักษณะอย่างไร
เพลงในอัลบั้มนี้ยังคงเป็นเพลงป็อป โดยมีกลิ่นของร็อคบ้างนิดหน่อยในเพลงเร็ว เพลงช้าจะเน้นที่เนื้อหา และวิธีการร้อง ซึ่งในบางเพลงจะไม่มีคอรัสเลย

ได้มีส่วนร่วมอะไรในการทำอัลบั้มนี้บ้างหรือเปล่า
อยากเขียนเพลงค่ะ ซึ่งพี่ๆ ทีมงานก็ให้ทำนองมา แต่พอเขียนเสร็จแล้ว พี่ๆ ทีมงานก็บอกว่าร้องเพลงไปเถอะ เพลงไทยเขียนยากมากค่ะ เพราะมีวรรณยุกต์ ปกติแล้วหนึ่งเพลงจะมีแค่หนึ่งไอเดียแล้วขยายความ แต่กี้เขียนเยอะมาก เหมือน 10 เพลงรวมไปใน 1 เพลง

อัลบั้มนี้มีความยากง่ายตรงไหนบ้าง
จุดที่ยากเป็นจะเป็นการเปลี่ยนแนวเพลง สำหรับเพลงช้า บางทีเสียงเราเริ่มจะไปไม่ครบทั้งจังหวะ ก็ทำเป็นเสียงสั่นๆ ไปก็พอได้ ซึ่งถ้าเทียบกับอัลบั้มนี้ พี่นิ่ม (สีฟ้า) ก็บอกว่าไม่ให้ทำอย่างนั้นแล้ว เอาชัดๆ แล้วไปให้ถึงโน้ตให้ได้ ซึ่งเหนื่อยเอาการอยู่ ส่วนจุดที่ง่ายก็คือกี้ กับทีมงานสนิทกันมากทำให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น

อัลบั้มนี้ใช้เวลาในห้องอัดนานไหม
ใช้เวลาอยู่ในห้องอัด 2 เดือน มีทั้งร้องนำ ร้องแล้วร้องอีก อย่างเพลง ฉันก็สู้คน การที่คำมันมาก และก็เราต้องร้องให้ดูเป็นธรรมชาติ เพลงนี้จึงต้องร้องหลายรอบ และเป็นเพลงที่ใช้เวลาในห้องอัดนานที่สุดด้วย เหมือนอัลบั้มที่แล้วบุษบา ซึ่งเป็นเพลงเร็วก็ใช้เวลาในห้องอัดนานสุดเหมือนกัน

แล้วเพลงที่ชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้ล่ะ
เพลงที่ชอบที่สุดคือ เพลงเพิ่งรู้ เพราะว่าเป็นเพลงสุดท้ายที่อัด แล้วก็อัดเวลาที่ถ่ายละครอยู่ ธรรมดาแล้วเวลาที่จะเข้าห้องอัดจำเป็นจำต้องตีความหมายของเนื้อร้อง สื่อเป็นอารมณ์ออกมา แต่เพลงเพิ่งรู้ ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านั้นเลยเพราะว่าเล่นเป็นตัวคนนี้อยู่แล้ว จึงเข้าใจเพลงนี้มาก และก็ผูกพันธ์กับเพลงนี้มากด้วยเช่นกัน

รูปแบบของคอนเสิร์ตที่นิโคลอยากให้เป็น
อยากให้เป็นกันเอง สบายๆ แต่สนุกๆ อยากให้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง สถานที่ไม่อินดอร์ก็เอ้าท์ดอร์ค่ะ (ฮา) คอนเสิร์ตเอ้าท์ดอร์แบบพี่ช่าก็ดีค่ะ แต่ถ้าไม่ได้แบบนั้น ก็อยากได้แบบแสงสีเสียง ตูมตามๆ

กลัวไหมว่าทุกคนจะจับตามอง ที่ออกเทปช่วงเดียวกับทาทา
ปกติแล้วมันจะเป็นตาราง พอโลโซแล้วก็เป็นกี้ พอกี้แล้วก็พี่เบิร์ด ซึ่งทุกคนรู้หมด กี้ไม่เคยนึกเรื่องทาทาเลย จนทุกคนเอามาพูดกัน ซึ่งกี้ก็ไม่เห็นว่าเป็นการชนกัน เพราะถ้าชนกันก็ถือว่าชนกับทุกคน กี้ก็เชียร์ทาทา ทาทาก็ต้องเชียร์กี้ (ฮา) เพราะเราเหมือนอาชีพเดียวกัน ต้องเจออะไรเหมือนๆ กัน เหมือนหัวอกเดียวกัน ไม่เหมือนกับเป็นคู่แข่งกัน

เรื่องที่ละครและงานเพลงออกมาพร้อมกันมีการวางแผนไว้หรือเปล่า
ละครเรื่องนี้วางโครงการมาเป็นปีแล้ว ขณะที่อัลบั้มก็มีการกำหนดมาเป็นตารางอยู่แล้ว การที่มาชนกันจึงเป็นเรื่องที่บังเอิญ ยอมรับว่าเหนื่อยมากๆ ที่ต้องทำทั้งสองอย่าง ในงานละครนี้สนุกมากถ้าไม่สนุกคงไม่ไหวเพราะว่าต้องทำงานละคร 4 วัน บางทีก็เช้ามาก ดึกมาก อีก 3 วันเป็นถ่ายมิวสิควิดีโอ เข้าห้องอัด ทำให้ต้องทำงาน 7 วัน 7 คืนมาหลายเดือนแล้ว สนุกตรงที่ได้เป็นคนอื่นเมื่อได้เข้าใจบท

มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนเล่นละคร
ได้เรียนกับครูแอ๋วนิดหน่อย โดยคูแอ๋วก็ได้ให้เทคนิคไว้ว่า ที่สำคัญที่สุดให้เชื่อในละคร เชื่อในสิ่งที่เราพูดออกไป เชื่อในสิ่งที่เราได้ยินกลับมาและแสดงออกจากข้างใน และพูดในใจตลอดเวลา ตรงนี้เราต้องคอยเตือนตัวเองตลอดเวลา

สำหรับบทที่ได้รับและตัวตนจริงมีจุดที่เหมือนกันบ้างหรือเปล่า
เหมือนตรงที่เป็นผู้หญิง (ฮา) เป็นผู้หญิงที่พยายามจะมองโลกในแง่ดี แต่กี้คงไม่ไปชกต่อยเหมือนในละครนะคะ

งานมากขนาดนี้ ดูแลตัวเองอย่างไร
นอนค่ะ นอน คือ เป็นคนนอนยาก ธรรมดาแล้วต้องถึงบ้าง จัดการงานให้เรียบร้อยก่อนถึงจะนอนได้ มาตอนนี้พอว่างก็หาซอกหามุมแล้วก็หลับได้เลย นั่งหลับยังได้เลยตอนนี้ (ฮา)

มีงานละครเรื่องถัดไปหรือยัง
มีค่ะ แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก บอกได้แค่ว่ากี้รับแล้ว มีเรื่องอะไรมากี้ก็รับเพราะว่าชอบมาก คิดว่าหลังจากโปรโมทเทปเสร็จแล้วถึงจะไปเล่นละคร

ใครคือดาราในดวงใจ
กี้ชอบพี่นก สินจัย เขาเล่นธรรมชาติมาก อารมณ์เข้าถึงมากๆ อีกคนคือ แอน ทองประสม กี้ชอบมาก ทุกครั้งที่เดินผ่าน ถ้าเป็นเขาอยู่บนจอ กี้จะหยุดดู เพราะเขาเล่นได้สุดยอดจริงๆ กี้ยกนิ้วให้เลย

มีงานด้านไหนที่อยากทำ แต่ยังไม่เคยทำ
อยากดิ่งพสุธา อยากโดดร่ม ถ้าพูดถึงเรื่องงานกี้อยากเล่นการแสดงเยอะกว่านี้ กี้คิดว่าการได้เล่น คือการได้เรียนรู้และฝึกฝน ปฏิบัติน่ะ เรียนทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ อยากเล่นละครอีกเยอะๆ

มีติดต่อให้ไปแสดงภาพยนตร์บ้างไหม
มีค่ะ แต่บอกไม่ได้ อยู่ในขั้นตอนที่คุยๆ กัน ยังไม่ชัวร์เท่าไร แต่คิดว่าเป็นแนวตลกๆ

ทิ้งท้ายให้แฟนเพลงสักหน่อย
สำหรับนิโคลพันธุ์ดุ ทำงานกันด้วยความสนุกสนาน ทำงานกันด้วยใจรักจริงๆ ขอฝากผลงานนี้ไว้ด้วย ลองดูว่าดุจริงหรือไม่จริง แต่จริงๆ แล้วก็พยายามดุนั่นแหละ ขอให้ทุกคนมีความสุขกันมากๆ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15

ความคิดเห็น

อัลบัมที่เกี่ยวข้อง