ฟลัว กลับมาอีกครั้ง พร้อมงานดนตรีร็อกนุ่มๆ รส วานิลา

ซุ่มเงียบทำอัลบั้มชุดที่ 2 หลังจากที่ปล่อยให้แฟนเพลงเรียกร้องอยากฟังงานใหม่ ที่ทิ้งห่างจากอัลบั้มแรกไปถึง 3 ปี พวกเขาทั้ง 5 "คิว - สุวีระ บุญรอด" (ร้องนำ) 1 ในสมาชิกบีไฟว์ "เท็ดดี้ - ธีโอดอร์ แกสตัน" (กีตาร์) ทายาทของอาจารย์ บรูซ แกสตัน "วิ - วรรัตน์ พัวไพโรจน์" (กีตาร์) "อ้น - รัฐพล ตรีรัตน์" (เบส) และ "เอิร์ธ - อัศม์เดช ลิมตระการ" (มือกลอง) กลุ่มร็อกเลือดใหม่ที่เรารู้จักกันในนามวง "ฟลัว" (Flure) เจ้าของเพลง "ปล่อยไปตามหัวใจ" "เปลี่ยน" "เรื่องเดียว" เป็นต้น

วันนี้ ฟลัว กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า "วานิลา" ที่บ่งบอกถึงรสชาติของวานิลาที่หอม หวาน นุ่มนวล เช่นเดียวกับงานเพลงของพวกเขาในอัลบั้มนี้ ที่จะมีรสชาติ ความรู้สึก สีสันแห่งความอบอุ่น แต่ทั้งหมดยังยืนหยัดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นร็อก ภายใต้การดูแลการผลิตด้วยตัวเอง โดยมีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาทั้ง 5 ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์บนเวทีว่า

ชุดแรก ฟลัว ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด

เอิร์ธ "ต้องบอกเลยว่าประทับใจ ทุกคนให้การตอบรับที่ดีมากๆ"

คิว "ดีครับ ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะไม่ดังอะไรมากมาย แต่ก็ดีใจที่ช่วงชีวิตหนึ่งเราได้ทำเพลงอย่างที่เราฝัน แล้วก็ได้นำเสนอออกไปอย่างเต็มที่และดีที่สุดเท่าที่เรารู้สึก"

3 ปีที่ห่างหายไป ไปทำอะไรกันมาบ้าง

เท็ดดี้ "คิวไปทำบีไฟว์ ส่วนพวกผมก็แต่งเพลง ทำเพลงกันสำหรับอัลบั้มนี้ คุยกัน ซ้อมดนตรีกัน อะไรอย่างเนี้ยครับ"

อ้น "แล้วผมก็เรียนอยู่ด้วยครับ ปี 5 สถาปัตย์ฯ จุฬาฯ"

เอิร์ธ "เราไม่ได้หายไปไหน ยังมีเล่นคอนเสิร์ตตลอด โชว์ให้คนดูเรื่อยๆ ครับ"

แล้วมาเป็น วานิลา ได้ไง

เอิร์ธ "เริ่มจากตอนแรกพวกเราก็นั่งคิดกันว่าจะทำอะไรดี พี่สุกี้เคยบอกว่ายูทำได้ ชุดหน้าลุยเลย เราก็เลยทำเพลงกันเองเลย"

เท็ดดี้ "ชุดนี้เรามีคอนเซ็ปต์และจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ขึ้น คิดไว้แล้วว่าเพลงจะเป็นยังไง แนวไหน ก็คือจะเป็นแนวให้กำลังใจคน ชุดนี้เราคิดว่าเรามีข้อความอะไรที่อยากจะส่งไปยังแฟนๆ เราก็จะขีดเส้นใต้เอาไว้ แล้วก็ทำเพลงออกมาอย่างนั้นอย่างที่เราตั้งใจไว้"

คอนเซ็ปต์ชุดนี้ก็คือ

คิว "มันมาจากพวกเรา 5 คน ผมชอบป๊อปแจ๊ส 4 คนนี่เขาชอบร็อก แล้วผมอยากนำเสนออะไรที่มันมากไปกว่า เหมือนว่าเราขยายตลาดน่ะครับ ร็อกไม่จำเป็นต้องสกปรกหรือว่าโหดร้ายเสมอไป เราคิดว่าพวกเรานำเสนอในแง่ที่สวยงามได้"

เอิร์ธ "แต่เราไม่ได้ฝืนตัวเองน่ะครับ เพื่อให้เป็นแมสหรือว่าขายได้มากขึ้น แต่เหมือนเราปลดปล่อยตัวเองออกไปในอีกแบบหนึ่ง ซึ่งมันก็ดีเหมือนกัน"

เท็ดดี้ "เพลงชุดนี้เหมือนเป็นการจูนคนชอบป๊อปกับคนชอบร็อกให้มาเจอกัน เรามีจุดตรงกลางที่มีรากที่แข็งแกร่ง ชุดแรกเราเจอกันแค่ 6 เดือนก็ทำอัลบั้ม แต่ชุดนี้เรารู้ว่า คิวเขามีความเป็นป๊อปอยู่ คือความเป็นป๊อปที่มีอยู่ในตัว คิวถือว่าเป็นตัวแปรในการแต่งเพลงด้วย หมายความว่าพวกเราเอาความเป็นป๊อปมาเกี่ยวข้องกับวงมากขึ้น"

เป็นยังไงบ้างกับอัลบั้มชุดนี้

วิ "ดีใจมาก ได้ร่วมงานกับหลายประเทศ เริ่มจากการทำเพลงวงเราก็มีลูกครึ่งอยู่ ทำเพลงก็ได้อัดในสตูฯ ดีๆ แล้วก็บินไปมิกซ์สดอีก (ยิ้ม)"

เท็ดดี้ "โชคดีที่เราได้เจอคนต่างประเทศแล้วมาช่วยเราทำเพลง แฮปปี้มากๆ เป็นระยะเวลาที่สั้นมากแต่กลับดีมากๆ"

วิ "หน้าปกซีดีของเรา เราก็ได้คนญี่ปุ่นมาทำให้น่ะครับ เป็นภาพพาโนรามาวาดด้วยมือ แล้วเวลาดูต้องเปิดย้อนศร เราอยากได้ภาพที่นำเสนอความเป็นเราได้มากที่สุด เราก็ไปเจอภาพหนึ่งในอินเตอร์เน็ต แล้วเราก็ชอบมาก พอรู้ว่าเป็นภาพของคนญี่ปุ่น ก็คิดว่าทำไงดีอยากได้ ก็เลยโทรไปคุยกับเขาบอกเขาว่าเราขอภาพนี้มาเป็นปก เขาบอกภาพนั้นอยู่ในพิพิธภัณฑ์ญี่ปุ่นไปแล้ว เราก็ตกใจ เฮ้ย! แปลว่าคนนี้ไม่ธรรมดา

เขาก็ถามว่าเราเป็นใคร เราก็บอกว่าเราเป็นนักร้องจากเมืองไทย เขาก็ยื่นข้อเสนอให้ว่าถ้าอยากได้ภาพให้เขียนจดหมายมาหาเขาคนละฉบับ ให้คุณบอกว่าทำไมคุณถึงอยากทำเพลง เพลงของคุณมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร ยังไง เพื่อเขาจะได้มีแรงบันดาลใจเขียนภาพให้เราต่างหากเลย แล้วเราก็ได้ภาพนี้มา"

ชุดนี้มีแขกพิเศษมาร่วมด้วย

เอิร์ธ "เริ่มจากพี่บอย (บอย โกสิยพงษ์) มาร่วมเขียนเนื้อร้อง ทำนองให้กับพวกเราในเพลงฉัน เบน ชลาทิศ มาร่วมร้องด้วยในเพลง ไม่แคร์ นาเดีย สุทธิกุลพาณิชย์ มาร่วมร้องในเพลง ฮันนีมูน แต่พิเศษสุดต้องยกให้อาจารย์ บรูซ แกสตัน ที่มาให้คำปรึกษาและดูแลในเรื่องเครื่องเป่า นอกจากนั้น อาจารย์ยังช่วยเรียบเรียงดนตรีในเพลง ฉัน และ ฮันนีมูน อีกด้วยครับ"

เท็ดดี้ "คือพ่อมาช่วยใเรื่องเครื่องเป่า เพราะว่าผมไม่เคยเห็นเพลงร็อกเพลงไหนที่มีเครื่องเป่าเข้ามาแจมด้วย ซึ่งมันทำได้ แล้วเราก็ทำ"

ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกไปเป็นยังไงบ้าง

คิว "ดีมากครับ สำหรับผมไม่น่าเชื่อว่าเพลงเราจะขึ้นชาร์ต เราสามารถทำได้อย่างที่เราต้องการ ขอบคุณทุกคลื่นที่เปิดเพลงของพวกเราครับ"

กับการโชว์สดๆ ล่ะเป็นไง

เอิร์ธ "เราโชว์เยอะมาก จากโชว์ที่แทบไม่ค่อยมีคนดู ไปจนถึงมีคนดูมากถึง 50,000 คน ในคอนเสิร์ตบีเดย์ สิ่งที่เราคิดถึงตลอดเวลา คือ เราทั้ง 5 คนได้เล่นดนตรี ปล่อยพลังออกไป เป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับเราครับ"

เท็ดดี้ "โชว์ที่เราประทับใจมากคือที่เมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย สนุกมากครับ คนดูเยอะมาก ประทับใจ"

วิ "ไม่คิดว่าคนไทยจะอยู่ที่โน่นเยอะมากขนาดนั้น คนดูเราวันนั้นประมาณ 500 - 600 คนได้"

สุดท้าย ฝากอัลบั้มนี้กันหน่อย

เอิร์ธ "ถ้าถือว่าอัลบั้มแรกเป็นก้าวแรกในวงการของพวกเรา อัลบั้มนี้อาจไม่ใช่ก้าวที่สอง แต่ถือเป็นการก้าวกระโดดเลยครับ เราอยู่ด้วยกัน คิดด้วยกัน ทำด้วยกันเองทั้งหมด ตั้งใจมาก อยากให้ทุกคนลองฟังดูครับ"

อ้น "ชุดนี้เราทำอะไรที่เราไม่เคยทำ โชคดีที่เราได้บุคลากรที่ดีมาช่วยเหลือ ขอบคุณทุกคนครับ ก็อยากให้ลองเปิดใจฟังดู ชุดนี้ฟังง่ายกว่าชุดที่แล้วมาก ลองฟังดูครับ"

วิ "ชุดนี้แต่ละเพลงไม่เหมือนกันเลย มีโอเปร่า แจ๊ส ป๊อป เยอะแยะ ลองฟังดูครับ แล้วก็ช่วยกันตัดสินด้วยครับ"

เท็ดดี้ "ชุดนี้เราพยายามค้นหาตัวเองเข้าไปอีก เราพยายามเพิ่มฐานตัวเองที่ไม่ใช่วงร็อกอย่างเดียว เรามีความหลากหลายมากมายที่อยากจะนำเสนอออกมาให้ทุกคนเห็น ยังไงลองฟัง ช่วยพวกเราด้วยครับ ขอบคุณมากครับ"

คิว "ก็อยากให้ลองเปิดใจฟังดู ที่ผ่านมาบางคนอาจจะคิดว่าเพลงของพวกเราฟังยาก จริงๆ แล้วไม่มีเพลงไหนในโลกที่ฟังยาก แต่อยู่ที่คุณจะเปิดใจรับงานเพลงรับสิ่งที่เรียกว่าศิลปะได้มากน้อยแค่ไหนต่างหาก เมื่อคุณเปิดใจคุณก็จะซาบซึ้งไปกับมันครับ"

จากนั้น ทั้ง 5 ก็เริ่มต้นร้องเพลงแรงๆ ที่ชื่อว่า "ฤดูที่ฉันเหงา" ตามมาด้วย "ความหลัง" ต่อด้วย "ไม่แคร์" ที่ได้ "เบน - ชลาทิศ ตันติวุฒ" ขึ้นมาร้องด้วย เรียกว่างานนี้ทั้งคิวทั้งเบนโชว์เสียงแบบไม่มีใครยอมใครก็ว่าได้ ถัดมาเป็นเพลง "หยั่งรู้" ปิดท้ายที่เพลงในอัลบั้มชุดที่แล้ว "เปลี่ยน" ที่ ฟลัว บอกว่าชอบมาก