สัมผัสความสุขกับเสียงเพลงของ 2 สมาชิกดนตรี บลิสโซนิค

ศิลปินน้องใหม่ที่น่าจับตามอง 1 สาว และ 1 หนุ่ม ที่เรียกได้ว่ารักเสียงดนตรีอย่างแท้จริง "บิ๋ม - มณีรัตน์เรเชล ฮุนตระกูล" และ "พีท ตันสกุล" ที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อวง "บลิสโซนิค" (Blissonic) ที่หมายถึงเสียงดนตรีที่ให้ความสุข ความสบาย ในสังกัด จีนี่ เรคคอร์ด

บลิสโซนิค ใช้เวลากลั่นกรองผลงาน 3 ปี จนวันนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าอัลบั้ม "ออโตเมติก" (Automatic) ที่พวกเขาหอบหิ้วเพลงทั้ง 10 ไปมาสเตอริ่งกันไกลถึงอังกฤษ โดยได้ Streaky ที่เคยมาสเตอริ่งให้กับ Fatboy Slim, Britney Spears, Groove Amarda มาดูแลเรื่องนี้ให้ ซึ่ง บลิสโซนิค ถือเป็นศิลปินไทยกลุ่มแรกที่ได้รับโอกาสนี้ แววดังจับซะขนาดนี้ อย่าปล่อยให้ลอยนวล ไปรู้จักกับพวกเขาดีกว่า

แนะนำตัวกันหน่อย

บิ๋ม "ชื่อ บิ๋ม ค่ะ เป็นนักร้องนำ"

พีท "ผม พีท ครับ ทำดนตรี"

มารวมตัวกันได้ยังไง

บิ๋ม "พี่พีทเป็นเพื่อนของพี่เต็น พี่ของบิ๋มก็เลยรู้จักกันอยู่แล้ว (หัวเราะ)"

พีท "เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ผมก็ทำงานเบื้องหลังก็ช่วยวงนู้นวงนี้อยู่ แล้วที่นี้อยากจะทำโปรเจ็กต์ของตัวเอง ก็เลยต้องหานักร้อง เพราะร้องเองคงไม่ไหว เสียงผมน่าเกลียด (หัวเราะ) แล้วรู้ว่าบิ๋มชอบร้องเพลงก็เลยชวนมาร้องครับ ลองดู เขาก็น่าจะมีเสียงที่เหมาะกับดนตรีอย่างนี้ ก็เลยรวมตัวกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว"

บิ๋ม "3 ปีที่แล้วเราทำเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง ชื่อว่า ครั้งแรก แล้วส่งไปที่103.5 แฟต เรดิโอ ตอนนั้นยังไม่คิดจะทำอัลบั้ม แต่กระแสก็คือดีเลย พี่เต็ด (ยุทธนา บุญอ้อม) บอกว่า เฮ้ย! น่าจะทำต่อ ตอนนั้นก็ตกใจมาก เพราะว่าเพลงติดชาร์ตด้วย เรากะทำกันเล่นๆ (หัวเราะ) แอบคิดเหมือนกันว่าหรือว่าเพลงเราเพราะเหมือนกันนะเนี่ย ก็เลยเริ่มทำที่เหลือ ก็ 3 ปีเพิ่งเสร็จค่ะ"

นานเหมือนกันนะ

บิ๋ม "นาน แต่จริงๆ เหมือนไม่นาน เพราะพี่พีทก็ทำงานอื่นไปด้วยตลอด อย่างของโซฟาที่ผ่านมาก็ทำ กรูฟไรเดอร์ก็มีส่วนร่วม ก็ไม่ใช่ว่าเรานั่งทำอัลบั้มนี้มา 3 ปี (หัวเราะ)"

ท้อบ้างไหมที่ใช้เวลาทำอัลบั้มนานขนาดนั้น

พีท "ท้อไหม ก็ไม่ท้อนะครับ เพราะระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้เจอเรื่องราวหลายเรื่อง และก็ได้เพื่อนใหม่ ได้ทำงานกับคนใหม่ๆ เหมือนได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ สนุก"

แล้วเรา 2 คน เข้ามาอยู่สังกัด จีนี่ เรคคอร์ด ได้ยังไง

พีท "(ทำท่าคิด) อ๋อ! จำได้แล้ว (หัวเราะ) ช่วงนั้นทำงานกับโซฟาอยู่น่ะครับ มีพี่โตน (จักรธร ขจรไชยกูล) กับ ไบรอัน (ไบรอันเทพ วัยโทวิช ) แล้วก่อนที่โซฟาจะเข้าที่จีนี่ฯ ก็คุยกัน เฮ้ย! อยากจะเอาเพลงของเราไปสู่วงกว้างยิ่งกว่าเดิม ก็มีโอกาสได้เข้ามาคุยกับจีนี่ฯ แล้วจีนี่ฯ ก็ไปในแนวทางที่เราอยากจะได้ครับ"

ทำไมถึงใช้ชื่อวงว่า บลิสโซนิค

บิ๋ม "เราช่วยกันคิดน่ะค่ะ ว่าเราจะชื่อวงอะไรดีที่บอกความเป็นเราหรือเพลงของเรามากที่สุดน่ะค่ะ ก็เลยคิดกัน แล้วเพลงเราส่วนมากมักเป็นเพลงที่สดใส มองโลกในแง่ดี ก็เลยนึกถึงอะไรที่มีความสุขดี ก็เลยใช้คำว่า บลิส เพราะคำนี้แปลว่ามีความสุขแบบสุดๆ น่ะค่ะ ก็เลยคิดขึ้นมาว่า บลิส แล้วจะ บลิส อะไรต่อดี ก็เลยคิดขึ้นมาว่า โซนิค ที่แปลว่าเสียง ก็เลยรวมกันเป็น บลิสโซนิค ที่หมายถึง เสียงที่มีความสุข"

แนวเพลงเป็นยังไงค่ะ

พีท "จริงๆ เพลงจะเป็นเพลงป๊อปน่ะครับ แต่เราจะใช้เครื่องดนตรีที่เป็นพวกซินท์ คีย์บอร์ดเอ็นเนียไซเซอร์ เราก็เลยคิดกันว่าเวลาคนถามว่าเป็นเพลงแนวอะไร ก็จะบอกว่า ซินท์ ป๊อป ครับ"

แล้วพีทคิดว่าเสน่ห์ของซินท์อยู่ตรงไหน

พีท "เป็นเครื่องที่เราสามารถสร้างเสียงขึ้นมาเองน่ะครับ"

บิ๋ม "มันจะมีปุ่มเยอะ แล้วเขาจะคิดเสียงของเขาขึ้นมาเอง"

พีท "เราก็เลยรู้สึกว่าแตกต่างจากคนอื่น แล้วผมก็ถนัดทางนี้ด้วย"

บิ๋ม "บ้าซินท์ค่ะ เขาเก็บไว้เยอะ ก็เลยต้องเอามาใช้ (หัวเราะ)"

แล้วบิ๋มล่ะ เคยเรียนร้องเพลงมาก่อนหรือเปล่า

บิ๋ม "ไม่เคยเรียนค่ะ จนกระทั่งพอเริ่มทำจริงๆ ตอนเข้าห้องอัดแล้วบิ๋มร้องไม่ไหว พี่พีทก็เลยบอกว่าลองไปฝึกเทคนิคดู จริงๆ ก็ร้องไปเยอะแล้วนะถึงเริ่มไปเรียนร้องเพลงค่ะ"

ทำเพลงกันเองหรือเปล่า

บิ๋ม "ค่ะ คือพี่พีทจะเริ่มทำดนตรี เสร็จก็จะเป็นพี่โตน ซึ่งเหมือนเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ก็นัดเจอกันปกติ บิ๋มก็จะคุยกับพี่โตนจะบอกว่าเพลงนี้ฟังแล้วนึกถึงอะไรอยากได้เนื้อยังไง พี่โตนก็จะเขียนให้ เพราะบิ๋มภาษาไม่สละสลวย เคยเขียนแล้วไม่ได้เรื่อง (หัวเราะ)"

พีท "การทำงานในอัลบั้ม ก็มีแค่ผมกับบิ๋มแล้วก็มีโตนมาอีกคนหนึ่งมาเขียนเนื้อ แล้วก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งมาทำเครื่องสาย แค่นี้ครับ"

ชื่ออัลบั้มนี้ได้มายังไง

พีท "มีความทันสมัยกับความเชยรวมกันน่ะครับ ในยุค 20 ปีที่แล้วคำว่า ออโตเมติก เป็นคำที่ทันสมัยจังเลย แอร์ออโตเมติก รถออโตเมติก อะไรอย่างเนี้ย แต่สมัยนี้เชยไปแล้ว ก็เหมือนเพลงเราที่มีทั้งความเก่าและความใหม่ในตัวเอง ฟังดูแล้วบางคนอาจจะรู้สึกว่าทันสมัยจังแนวทางอย่างนี้ บางคนเขาอาจจะแบบนี่คือของเชยแล้วนี่หว่า มันจะกึ่งๆ"

บิ๋ม "เครื่องซินท์ที่ใช้ก็จะเป็นยุค 80 แล้วค่ะ"

อัลบั้มนี้มีกี่เพลง

พีท "10 เพลงครับ ก็จะมี 2 เพลงที่เราเคยออกเมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว ที่เหลือ 8 เพลงก็ทำขึ้นมาใหม่หมดเลย"

แล้วเพลงไหนในอัลบั้มที่ร้องยากที่สุด

บิ๋ม "เพลง เจ้าหญิงคนต่อไป เพราะเป็นเพลงที่เหมือนเล่านิทานน่ะค่ะ พี่โตนแต่ง แล้วพี่โตนก็ร้องไกด์ให้ฟัง ซึ่งบิ๋มฟังแล้วก็ขำ เพราะว่าตลกค่ะที่เสียงพี่โตนเป็นผู้หญิง พี่โตนก็เลยบอกว่าบิ๋มฟังแล้วจดเนื้อเอง มันจำเป็นเพราะว่าเนื้อเยอะบิ๋มต้องจำเนื้อให้ได้ แล้วมีปัญหาเรื่องจังหวะที่ยากมาก เลยทำให้ร้องยาก เข้าห้องอัดก็ใช้เวลานานมาก"

มีเพลงไหนที่ร้องแล้วสบายมาก เร็วเลย

บิ๋ม "เพลงแรกที่เราทำเล่นๆ ส่งวิทยุ ก็คือเพลง ครั้งแรก ค่ะ"

พีท "เพลงนี้ที่ทำตอนแรกมันไม่มีแรงกดดันเลยครับ วันที่อยู่ในห้องอัดสนุกมาก"

บิ๋ม "วันที่ร้องในห้องอัดสนุกมากค่ะ มีโซฟาตัวเดียว แต่คนในห้องมี 6 คนแล้วก็นั่งอัดๆ กัน พอบิ๋มร้องทุกคนก็มองกัน บิ๋มก็เขิน ก็สนุก ทุกคนก็ช่วยกัน เป็นเหมือนบรรยากาศเล่นๆ น่ะค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มเครียดเพราะว่าต้องออกอัลบั้ม"

ตอนนี้มีปล่อยเพลงไปกี่เพลงแล้ว

บิ๋ม "ตอนนี้เรามีปล่อยเพลงทางวิทยุไป 2 เพลง คือ เพลงบอกฉันหน่อย และเจ้าหญิงคนต่อไปค่ะ"

เพลง บอกฉันหน่อย นี่เกี่ยวกับอะไร

บิ๋ม "เป็นเนื้อหาของคนหนึ่งที่เริ่มชอบอีกคนหนึ่งอะไรอย่างเนี้ย แต่ไม่เข้าไปหาเขาเอง แต่รอให้เขาเข้ามา แบบแค่เธอยอมบอกฉันหน่อยว่าเธออยากจะเจอ อายมั้งค่ะผู้หญิงคนนี้" (พีทหัวเราะ)

มิวสิกวิดีโอมีกี่เพลงแล้ว

บิ๋ม "เอ็มวีตอนนี้มีเพลง บอกฉันหน่อย เพลงนี้เล่นกันเองค่ะ ตลกมากเลย (ยิ้ม) เพราะว่าผู้กำกับบอกว่าเพลงมันยุค 80 นี่ เราต้องทำเอ็มวีให้ย้อนกลับไปยุคนั้น เราต้องมีแดนเซอร์ บิ๋มก็บอกเขาเลยนะว่าบิ๋มเต้นไม่เป็น เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร บิ๋มไม่ต้องเต้น เดี๋ยวให้แดนเซอร์เต้น

แล้วพอวันจริงพี่พีทก็ถามว่าผมต้องทำอะไรๆ เขาก็บอกว่าพีทอยู่เฉยๆ เลย ดีดกีตาร์ไป แดนเซอร์มาปุ๊บเขาเต้นกันสุดขีดเลย ผู้กำกับก็หันมาบอกว่าบิ๋ม บิ๋มต้องเต้น เพราะไม่งั้นแดนเซอร์กลบบิ๋มหมดเลย ยังไงบิ๋มก็ต้องเต้น บิ๋มก็บอกว่าพี่บิ๋มเต้นไม่เป็น แดนเซอร์เขาก็หันมาพี่ทำอย่างนี้นะคะ แล้วเขาก็เริ่มสอนสเต็ปเลย เดี๋ยวนั้นเลย นี่ก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตอีกครั้งค่ะ ตลก(ยิ้ม) บิ๋มกับพี่พีทดูเอ็มวีหนแรก แล้วก็หัวเราะกันหมดเลย" (พีทหัวเราะ)

พีท "แล้วตอนนี้มีอีกเพลงหนึ่งที่อยากให้ลองดูครับ คือเพลงเจ้าหญิงคนต่อไป ซึ่งจะเป็นแอนนิเมชั่น"

เห็นว่ามีการส่งอัลบั้มไปนี้ไปไกลถึงอังกฤษ

บิ๋ม "ค่ะ เพราะนั่นเป็นขั้นตอนสุดท้ายเลยค่ะ"

พีท "เราจะมิกซ์ดาวน์เสร็จแล้ว ก็เหลือทำให้เสียงดีขึ้น แล้วก็มาปั๊มเป็นแผ่นซีดีเพื่อขายครับ เราก็เลยคิดว่าสุดท้ายเราจะทำให้มันดีขึ้นยังไงดี ก็ลองดูศิลปินที่เราชอบศิลปินต่างประเทศน่ะครับว่าเขาทำมาสเตอร์กันที่ไหน"

เป็นยังไงที่ได้ร่วมงานกับ Streaky

บิ๋ม "เราก็คิดว่าครั้งหนึ่งของชีวิต ขอหน่อยเหอะ (ยิ้ม) คงไม่มีโอกาสได้ทำง่ายๆ เขาก็ถามเราว่าเราต้องการแบบไหน ยังไง แล้วเขาก็บอกว่า โอ้โห! มิกซ์มาดีมาก เราก็ อู้หู! พี่พีทเขาชมพี่พีทน่ะ (พีทหัวเราะ) ก็ออกมาแล้วเราก็ชอบเลยค่ะ แต่วิธีเขามาสเตอร์แปลกเหมือนกันนะ คือเขาให้เราเรียงเพลงของเราให้เขาตามที่เราจะเอา เขาไม่ได้มาสเตอร์เป็นเพลงๆ เขามาสเตอร์ทั้งอัลบั้ม คือถ้าเอาเพลงมาเรียงใหม่มันไม่ต่อกัน เขาจะค่อยๆ เรียงแบบพีคขึ้นไปแล้วก็ลงมาอีก มันเป็นความรู้สึกน่ะค่ะ ต้องลองฟังเอง (หัวเราะ)"

ถ้าให้พูดถึงจุดเด่นของอัลบั้มนี้

บิ๋ม "ก็คงจะเป็นในส่วนของดนตรีน่ะค่ะ ที่มีผสมพวกเสียงจากเครื่องซินท์น่ะค่ะ"

พีท "คือจริงๆ แล้วทั้งเรื่องการร้องและเรื่องฝีมือทางดนตรีเราก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก เพราะว่าบิ๋มไม่ใช่นักร้องที่ใช้พาวเวอร์ เราเอาแบบอารมณ์ให้เข้ากับเพลงมากกว่า แต่ที่แปลกออกไปก็คงเป็นเรื่องของซาวน์ที่เราชอบสร้างขึ้นมาครับ"

คิดว่าวงการเพลงบ้านเราจะเปิดกว้างแค่ไหนกับแนวเพลงอย่างนี้

พีท "จาก 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ที่เคยทำเพลง คนฟังกลุ่มใหม่ก็เริ่มที่จะฟังอะไรใหม่ๆ ที่แปลกหูออกไปบ้าง ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดี"

ได้แรงบันดาลใจด้านดนตรีแบบนี้จากใครหรือเปล่า

พีท "สมัยตอนแรกที่ผมเริ่มทำดนตรี ผมก็จะอยู่ในวงแล้วเล่นดนตรีร็อกซะส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนสมัยเรียนอะไรอย่างเนี้ย พอตอนนั้นเลิกวงไป ก็มาทำงานคนเดียว ทำกับคอมพิวเตอร์กับเครื่องมืออุปกรณ์อย่างเอ็นเนียไซเซอร์ ตอนเด็กก็จะได้ฟังพี่ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ พี่เพชร โสถานุเคราะห์ แล้วก็พี่หรั่ง ออเคสตร้า ผมชอบครับ (หัวเราะ) แล้วก็เริ่มสงสัยว่าเครื่องดนตรีพวกนี้คืออะไร ก็เริ่มศึกษาครับ"

คาดหวังกับอัลบั้มนี้ยังไงบ้าง

พีท "แค่มีคนชอบฟังในกลุ่มหนึ่ง แต่อาจจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นครับ"

อยากให้ฝากอัลบั้มนี้กับแฟนๆ เพลงหน่อย

บิ๋ม "ก็หวังว่าจะมีคนชอบบ้าง ถ้าจะซื้อก็ให้ซื้อแผ่นจริงน่ะค่ะ"

พีท "ก็คือใน 10 เพลงของอัลบั้มนี้ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่เยอะพอสมควร แต่ละเพลงก็จะมีสไตล์ของมันเอง ก็อยากจะให้ลองฟังดูทุกเพลง"

ท้ายสุดนี้ อยากให้พูดถึงกันและกันหน่อย

บิ๋ม "พี่พีทเป็นคนเก่งมากในสิ่งที่เขาทำ แล้วเขาทำมันก็แปลกดีค่ะ แล้วก็เพราะด้วย จริงๆ เนี่ยพี่พีทเป็นคนที่เครียดมาก แล้วบิ๋มจะไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ ในห้องอัดเนี่ยจะมีพี่โตนเป็นแบบว่าคนห้ามมวยน่ะค่ะ (หัวเราะดังมาก) คือพี่เขาจริงจังกับงานมาก บางครั้งก็ดุ แล้วบิ๋มก็แบบฟีลฉันจะมาไหมเนี่ย (ทำท่าทาง) แต่ดีที่เขาจริงจัง ถ้าเขาไม่จริงจังอาจแบบ 10 ปีเสร็จก็ได้ (พีทหัวเราะ) แล้วพี่พีทกินเก่งมาก ลดน้ำหนักมา 12 โล (หัวเราะกันใหญ่) นั่งๆ ทำเพลงกันก็กินขนมตลอด เคี้ยวตลอด กินตลอด อ้วนทุกคน (หัวเราะ) พอจะออกเทปทีก็ไปออกกำลังกาย"

พีท "ผมว่าบิ๋มเขาก็มีความตั้งใจในระดับหนึ่ง เขาก็ทำออกมาดี แต่มันเป็นเรื่องของสไตล์มากกว่าที่เราไม่ได้ไปเน้นให้เขาต้องเครียด หรือพลังเสียงหน่อย คือทำได้มันก็ดี แต่ถ้าไม่ได้เราต้องหาแนวทางที่เป็นของเราเอง ก็สนุกครับ ชวนกันกิน (หัวเราะ)"

พีทลดได้ 12 กิโล เลยเหรอ บอกวิธีการลดน้ำหนักหน่อย

บิ๋ม "บิ๋มขอเล่าหน่อยว่าเรื่องของเรื่องมาจากพี่นิคที่ค่ายน่ะค่ะ พี่นิคบอกว่าบิ๋ม บิ๋มเจ้าเนื้อหน่อยลดนิดหน่อย พีท พีทต้องลดเยอะ ถ้าพีทไม่ลดพีทต้องอ้วนกว่านี้ อ้วนไปเลยน่ะเท่ แต่ตอนนี้มันกลางๆ ท้วมๆ ดูยังไงก็ไม่รู้ แล้วพี่พีทเขาก็คิดนะว่าบิ๋มพี่จะอ้วนไปเลย พี่พีทบอกง่ายดีบิ๋มแล้วอร่อยด้วย แล้วบิ๋มก็เลย เฮ้ย! จริงเหรอ ไม่นะ แล้วเราก็เริ่มหยุดกินขนม เริ่มไม่ซื้อ บิ๋มลดไปประมาณ 4 โล แต่พี่พีทตอนนั้นที่ถูกสั่งให้ลด 98 ได้"

พีท "ในห้องอัดมันไม่ได้ลุกไปไหนน่ะครับ ส่วนมากจะแช่อยู่กับที่ ก็เลยกินแล้วก็อ้วน ถ้าถามว่าวิธีการลดของผมเป็นยังไง ก็คือพยายามออกกำลังบ้าง แล้วก็ไม่ทานนอกมื้อ ตอนเย็นผมจะกินข้าวเยอะมากครับ 3 จาน (หัวเราะ) ก็ลดลง แล้วก็กินผักเยอะๆ ค่อยๆ ลดทีละนิดน่ะครับ (ยิ้มแบบเขินๆ)"

เตรียมต้อนรับและสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของ บลิสโซนิค 6 กันยายนนี้ มีวางจำหน่ายแต่ซีดีเท่านั้น!