รู้จัก มาร์ดี้ สาวเสียงใสมากฝีมือกับอัลบั้ม In My Bedroom
"มาร์ดี้ - พิชานุช อัสดรธรยุทธ์" สาวเสียงสวยรวยฝีมือลูกครึ่งไทย - จีน - แขก ที่เติบโตท่ามกลางเสียงดนตรี ที่หลอมหล่อให้เธอแต่งเพลง ร้องเพลง และเล่นดนตรีเป็น จนสามารถผลักดันตัวเองมาสู่ศิลปินเบอร์ใหม่แห่งค่ายคอยาว จีราฟ เรคคอร์ด กับอัลบั้มแรกในชีวิตที่ใช้ชื่อว่า "In My Bedroom" (อิน มาย เบดรูม)
เรื่องราวทั้งหมดในอัลบั้มเริ่มต้นที่ห้องนอน ที่ที่เธอมีความสุขกับตัวเอง กับการขีดเขียน กับการร้องเพลง และกับเสียงกีตาร์ เพลงมากกว่าครึ่งเป็นฝีมือเธอ วันนี้เราจึงอยากพาไปรู้จักกับ มาร์ดี้ สาวน้อยเสียงใสเจ้าของเพลงเพราะ "คิดถึง อยากเจอเธอ" "ขอ" "โลกส่วนตัว" และ "ลืมไปแล้ว" ที่กำลังทำความรู้จักกับแฟนเพลงตามรายการวิทยุตอนนี้
แนะนำตัวเองหน่อย
"ชื่อ มาร์ดี้ - พิชานุช อัสดรธรยุทธ์ นะคะ อายุ 19 ปี เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดลอินเตอร์ เรียนด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศ ปี 2 ค่ะ"
แล้วทำไมไม่เรียนด้านดนตรีล่ะ
"เพราะว่ามาร์ดี้อยากให้เป็นดนตรีงานอดิเรกมากกว่าค่ะ ยังไงเราก็รู้เรื่องดนตรีแล้ว ก็เลยเรียนด้านนี้ ซึ่งจริงๆ มาร์ดี้ก็ชอบเรียนรู้ด้านเกี่ยวกับต่างประเทศด้วยค่ะ"
อะไรที่เป็นจุดเริ่มให้อยากเล่นดนตรีตั้งแต่ 7 ขวบ
"ก่อนที่จะเริ่มเล่นเปียโน มาร์ดี้ไปที่บ้านญาติคนหนึ่ง แล้วเขาเล่นเปียโนให้มาร์ดี้ฟัง แล้วเสียงมันเพราะมากๆ เลยสนใจที่จะเล่นเปียโน ก็บอกกับคุณแม่ คุณแม่ก็จ้างอาจารย์มาสอนที่บ้านค่ะ ส่วนกีตาร์ มาร์ดี้ไปเห็นพี่คนหนึ่งเล่น ก็รู้สึกว่าเท่ดีก็เลยสนใจเล่นกีตาร์ แต่ว่ามาเล่นจริงจังก็ตอนเรียนค่ะ ตอนอายุ 15 ปี ไปเรียนที่โรงเรียนของ พี่อัยย์ - พรรณี วีรานุกูล ค่ะ"
เห็นว่าประกวดร้องเพลง
"ก็ไม่ได้ประกวดที่เขาจัดใหญ่ๆ แค่ประกวดเล็กๆ ที่โรงเรียน อย่างประกวดวันแม่ตอน ป.1 - ป. 6 คือจะประกวดทุกปี แล้วก็ได้ที่ 1 ทุกปีค่ะ"
เล่นดนตรีไทยด้วย
"ค่ะ ตอนเรียนอยู่ที่โรงเรียนปทุมวัน จะมีวิชาเลือกเสรี ให้เลือกทำอะไรก็ได้ 3 ปีน่ะค่ะ มาร์ดี้ก็เรียนเป่าขลุ่ยและก็ระนาด เพราะว่าก่อนที่มาร์ดี้จะเล่นดนตรีอะไรทุกอย่าง มาร์ดี้จะขอฟังเสียงก่อนว่าเสียงเพราะหรือว่าอะไรยังไง ก็ฟังเสียงระนาด แล้วเสียงระนาดเพราะก็เลยเรียนค่ะ ส่วนขลุ่ยเป็นวิชาบังคับก็เลยต้องเรียน"
เริ่มเขียนเพลงครั้งแรกเป็นยังไง
"ตอนนั้นดูละครช่อง 7 ค่ะ ดูแล้วเกี่ยวกับความรักความเสียใจ ก็เลยลุกมาเขียนเพลงเกี่ยวกับความรักของตัวละครตัวนั้น ซึ่งเขียนเล่นๆ ยังแต่งไม่จบเลยค่ะ (ยิ้ม)"
แล้วที่บอกว่าเริ่มเขียนเพลงจริงจังที่นิวซีแลนด์
"ค่ะ ก็ไปเรียนที่นิวซีแลนด์จะเหงาๆ เป็นเมืองที่ไม่พลุกพล่าน เรียกว่าความเหงาทำให้เราอยากหาอะไรทำ ตอนนั้นก็ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ เยอะเลยค่ะ ก็ลองแต่งเพลงดู แล้วก็เล่นกีตาร์อย่างจริงจังมากๆ ฝึกซ้อมอะไรอย่างเนี้ยค่ะ แล้วก็ได้รู้ว่าตัวเองชอบเกี่ยวกับพวกดนตรีและก็ศิลปะค่ะ ส่วนมากมาร์ดี้ก็เขียนเพลงเก็บไว้ แล้วก็คิดว่าถ้ามีโอกาสกลับมาเมืองไทย ก็อยากส่งเดโมมาที่ค่ายเพลงค่ะ"
จริงๆ เคยมีโอกาสได้เรียนเขียนเพลงบ้างหรือเปล่า
"เคยเข้าคอร์สที่แกรมมี่ค่ะ เป็นคอร์สสั้นๆ คือมาร์ดี้อยากจะรู้เทคนิคเพิ่มเติมของพี่ๆ นักแต่งเพลงว่าเขาแต่งเพลงแบบไหน ใช้อะไร และมีแรงจูงใจอะไร พอได้เข้าคอร์สแล้วก็รู้ว่าการแต่งเพลงมันมีแพตเทิร์นในการแต่ง จะมีเอหนึ่ง เอสอง อะไรอย่างเนี้ยค่ะ มาร์ดี้ก็กลับไปดูเพลงที่มาร์ดี้เขียน ก็เออ! เพลงนี้ไม่มีท่อนคลาน อะไรอย่างเนี้ยค่ะ ก็ได้เทคนิคการแต่งเพลงของพี่ๆ หลายคนค่ะ"
กับการหิ้วกีตาร์มาทดสอบเสียงต่อหน้าพี่ฉ่าย สมชัย - ขำเลิศกุล ล่ะ
"ก็ตอนแรกมาร์ดี้ก็ไม่รู้จักพี่ฉ่ายค่ะ เพิ่มมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของจีราฟ เรคคอร์ด ก็ตื่นเต้นมากๆ เข้ามาที่แกรมมี่วันแรก แล้วเล่นเพลงที่ตัวเองแต่งด้วย เพลง คิดถึง อยากเจอเธอ แล้วก็มีเล่นเพลงฝรั่ง ที่เป็นคัฟเวอร์ของนักดนตรีต่างชาติหลายๆ คน ซึ่งพี่ๆ เขาก็บอกว่าชอบ แล้วก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ จีราฟ เรคคอร์ด ถ้านับตั้งแต่ถือเดโมเข้ามา ก็รวมเวลาได้ประมาณ 3 ปีค่ะ ปีแรก ก็ประมาณเดินเข้าออกๆ มาคุยเรื่องเพลงก่อนน่ะค่ะ ปีที่ 2 ก็ฝึกร้องเพลงเป็นคอร์สร้องเพลง 2 คอร์ส ที่แกรมมี่แกรนด์"
ตอนนั้นรู้สึกท้อบ้างไหม
"ก็ท้อนะคะ แต่ก็บอกตัวเองว่าต้องพยายามต่อไป ต้องมีวันที่เราได้ออกเทปแน่นอน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ท่านก็ให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ผลักดันด้วยค่ะ ถ้ามาร์ดี้ท้อๆ ก็จะไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ อย่างเมื่อไหร่เทปจะเสร็จซะที คุณพ่อคุณแม่ก็จะให้พยายามทำต่อไปค่ะ"
มาถึงวันนี้แล้วเป็นยังไง
"ดีใจค่ะ เหมือนเราทำความฝันของเราสำเร็จแล้ว อัลบั้มนี้มาร์ดี้ตั้งใจมาก ใช้เวลาทำประมาณ 1 ปีค่ะ โดยมาร์ดี้ได้มีส่วนร่วมในอัลบั้มด้วย มาร์ดี้แต่งเนื้อร้อง 7 เพลง แล้วก็ทำนอง 8 เพลงค่ะ จริงๆ เข้ามามาร์ดี้เสนอหนึ่งเพลงค่ะ แล้วก็มีเสนอมาเรื่อยๆ บางเพลงก็คงเดิม บางทีก็มีโดนกลับไปแก้ ซึ่งพี่ๆ เขาจะแนะนำอีกทีค่ะ ว่ามันไม่ดีหรือไม่เหมาะยังไง"
ที่มาของชื่ออัลบั้ม
"เพราะว่าเพลงทุกเพลงที่แต่งจะเกิดขึ้นในห้องนอนค่ะ เป็นคนที่ชอบอยู่ในห้องนอน เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่คนเดียว มาร์ดี้ว่าอยู่ในห้องนอนมันอิสระค่ะ สบายใจ แล้วก็มีความสุขค่ะ มาร์ดี้ชอบแต่งเพลง ฟังเพลง อ่านหนังสือในห้องนอนค่ะ สามารถอยู่ได้เป็นวันๆ เลย คุณแม่จะชอบขึ้นมาบอกว่าให้ไปทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นบ้าง อะไรอย่างเนี้ยค่ะ"
แนวเพลงในอัลบั้มนี้
"แนวเพลงของอัลบั้มนี้จะเป็นแนวอะคูสติก ป๊อป ฟังง่ายๆ ซึ่งมาร์ดี้ก็บอกพี่ๆ เขาว่าอยากได้แนวนี้ ซึ่งในอัลบั้มก็จะมีความหลากหลายในตัวเอง ก็จะมีหลายๆ แนวค่ะ เพลงทุกเพลงจะเป็นเพลงที่ฟังง่าย จะเป็นแนวป๊อบ ร็อก ป๊อบ คันทรี มีอาร์แอนด์บี แล้วก็มีฟังก์ หลายแนว"
กับเพลง คิดถึง อยากเจอเธอ
"เพลงนี้แต่งให้กับคุณตาที่เสียไป ในงานศพของคุณตาจะมีแจกของชำร่วยงานศพเพื่อไว้อาลัย ให้พวกญาติๆ เขียนความรู้สึก มาร์ดี้ก็ไปเขียนด้วย โดยรวบรวมความรู้สึกตรงนั้นมาเอามาเขียนเพลงนี้ค่ะ ซึ่งมาร์ดี้ตั้งใจแต่งเพลงนี้ไม่ให้มีท่อนฮุก เพราะมาร์ดี้คิดว่าเพลงไม่จำเป็นที่จะต้องมีแพตเทิร์นเดียวกันทุกเพลง ถ้าเรามีอะไรที่แปลกๆ มาบ้าง ก็เป็นการสร้างสรรค์ดีค่ะ"
แต่งเพลง พ่อ ให้คุณพ่อด้วย
"ค่ะ มาร์ดี้แต่งเพลงนี้ให้เป็นของขวัญวันพ่อค่ะ คุณพ่อก็ชอบ ดีใจที่เราแต่งให้ แต่มาร์ดี้จะไม่กล้าร้อง ให้เขาฟังซีดีเฉยๆ ค่ะ เพราะท่อนฮุกจะมีแบบรักพ่อที่สุดอะไรอย่างเนี้ยค่ะ ก็เลยเขินๆ คุณพ่อ"
แต่งเพลงให้คุณแม่เหมือนกัน
"ชื่อว่าเพลง ขอ ค่ะ คือช่วงนั้นครอบครัวมาร์ดี้มีโครงการว่าจะไปเที่ยวออสเตรเลียกัน แต่ว่าคุณแม่ต้องเข้าผ่าตัด มาร์ดี้ก็เลยบอกคุณแม่ว่าจะไม่ไปเที่ยวแล้วขอมาดูแลแทนได้ไหม คุณแม่ก็บอกว่าไม่เป็นไรให้ไปเที่ยวกัน 3 คนพี่น้อง มาร์ดี้ก็เลยแต่งเพลง ขอ ให้ เวลาที่คุณแม่ไม่สบาย ขอให้มาร์ดี้ได้อยู่เป็นเพื่อน ซึ่งมาร์ดี้แต่งให้ประมาณปีที่แล้วค่ะ คุณแม่ฟังแล้วก็ดีใจค่ะ"
เพลง พรหมลิขิต เป็นยังไง
"เพลงนี้มาร์ดี้ไม่ได้แต่งเองค่ะ แต่มีการคุยคอนเซ็ปต์ไว้ว่าอยากจะให้ออกมาแนวนี้ เพลงนี้มาร์ดี้คิดว่าตรงมากๆ กับชีวิตคนในเรื่องความรักค่ะ ว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่การจะเจอใครไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่พอมาเจอกัน ก็เป็นเหมือนพรหมลิขิตค่ะ เป็นแนวความรักใสๆ ฟังแล้วน่าจะยิ้มได้น่ะค่ะ"
เพลงไหนที่เขียนยากที่สุด ใช้เวลานานที่สุดในอัลบั้ม
"เพลงที่ใช้เวลานาน จะมีเพลงหนึ่งที่ชื่อว่า โลกส่วนตัว เขียนแล้วแก้บ่อย เพราะเป็นเพลงเร็วด้วยค่ะ"
เพลงไหนที่อยากให้เป็นมิวสิกวิดีโอตัวต่อไป
"ตอนนี้มาร์ดี้มีมิวสิกวิดีโอเพลงเดียว คือ คิดถึง อยากเจอเธอ เพลงที่อยากให้มีการทำมิวสิกวิดีโอตัวต่อไปก็คงเป็นเพลง ลืมไปแล้ว ค่ะ เพราะว่าเป็นเพลงที่แต่งง่าย แต่งแค่วันเดียวก็เสร็จแล้ว ออกแนวร็อกมือขวา ร้องแล้วได้อารมณ์ แล้วก็คิดว่าตรงกับชีวิตของใครหลายๆ คนค่ะ เพลงนี้มาร์ดี้เอามาจากประสบการณ์อกหักของตัวเอง แล้วก็ที่คนอื่นๆ เล่าด้วยค่ะมารวมอยู่ในเพลงนี้"
อัลบั้มนี้ใครเป็นโปรดิวเซอร์ให้
"พี่อาร์ตกับพี่ปริ๊นซ์ จากวง Charming Moon พี่ๆ เขาเคยทำโปรเจ็กต์ The War มาก่อน แล้วก็เคยเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับพี่เคท - ไบรโอนี่ เคท ชุดล่าสุดค่ะ ซึ่งพี่ๆ เขาก็เป็นกันเองค่ะ เขาจะช่วยหลายๆ ด้าน มาร์ดี้จะชอบขอคำปรึกษาเขาในเรื่องการใช้ชีวิตด้วยค่ะ เหมือนเป็นพี่ชายแล้วก็พี่ร่วมงานด้วยค่ะ"
พูดถึงการร่วมงานกับนักกีตาร์ฝีมือดี พี่นก - ชีพชนก ศรียามาตย์
"ตอนแรกๆ กลัวเล็กน้อย กลัวทำพี่ๆ เขาเสียเวลาค่ะ แต่ว่าก็ดีใจค่ะที่ได้พี่นกพี่ที่มีฝีมือเก่งมากๆ มาช่วย ทำให้เราตั้งใจมากขึ้น พยายามมากขึ้น ซึ่งพี่เขาก็ช่วยสอนในเรื่องเทคนิคการเล่นกีตาร์ค่ะ แล้วก็ช่วยเรียบเรียงในบางเพลงน่ะค่ะ"
การทำงานในห้องอัด
"ในห้องอัดสนุกดีค่ะ ถ้าเป็นเพลงเร็ว มาร์ดี้ก็จะเต้นๆ อยู่คนเดียว เพราะว่าไม่มีคนเห็นอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าในห้องอัดก็ยาก เพราะว่าการอยู่คนเดียวทำให้เหงาๆ เพลงแรกที่อัดคือเพลง คิดถึง อยากเจอเธอ ค่ะ"
จุดเด่นของอัลบั้ม In My Bedroom
"มาร์ดี้คิดว่าเป็นความสามารถในการแต่งเพลง (ยิ้ม) แล้วก็เสียงกีตาร์เท่ๆ ของพี่นกค่ะ แล้วก็เนื้อหาเพลงก็น่าจะเกี่ยวกับชีวิตของใครหลายๆ คนค่ะ ฟังแล้วน่าจะโดนๆ"
มาร์ดี้มีวิธีการดูแลเสียงดูแลตัวเองยังไง
"มาร์ดี้คิดว่าการนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการร้องเพลง เพราะว่าถ้าเรานอนไม่พอเสียงก็จะแหบค่ะ ก็พยายามนอนให้มากกว่า 8 ชั่วโมง แล้วก็ไม่กินน้ำเย็นค่ะ เคล็ดลับของมาร์ดี้อีกอย่างหนึ่ง คือมาร์ดี้จะชอบกินอะไรเผ็ดๆ กินแล้วมันจะโล่งๆ สามารถใช้เสียงได้เต็มที่"
กระแสตอบรับจากคนสนิทดีไหม
"ค่ะ เพื่อนๆ บ้างคนเขาก็จะรู้ค่ะ เห็นตามหนังสือพิมพ์หรืออินเตอร์เน็ต มีคนโพสต์เกี่ยวกับมาร์ดี้เยอะ ส่วนมากก็จะชอบกัน เห็นมิวสิกวิดีโอแล้วก็ชมว่าภาพสวยค่ะ พี่ๆ เขาทำเก่ง ที่บ้านเขาก็ดีใจด้วยที่สิ่งที่มาร์ดี้ทำมานานสำเร็จแล้ว ทุกคนก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีค่ะ"
คาดหวังกับอัลบั้มชุดนี้มากไหม
"มาร์ดี้คิดว่าเป็นธรรมดาที่ศิลปินทุกคนจะคิดว่าอัลบั้มของตัวเองประสบความสำเร็จค่ะ มาร์ดี้เองก็อยากให้อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง อยากให้มีคนรู้จักเพลงของมาร์ดี้ค่ะ"
ให้พูดอะไรถึงเพื่อนๆ ที่มีความฝันเหมือนเรา
"ก็คืออยากให้สู้ต่อไป อย่าท้อถอยค่ะ แม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม มาร์ดี้เชื่อว่าถ้าคนเราต้องการอะไรมากๆ ซักอย่างก็ตาม ถ้าเราต่อสู้เพื่อมันมาก สักวันหนึ่งอาจจะใกล้ๆ นี้หรืออาจจะนานหน่อย แต่ต้องมีสักวันที่เราทำความฝันนั้นสำเร็จค่ะ"
ฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อย
"ในอัลบั้ม In My Bedroom นี้ก็มีเพลงหลากหลายแนวค่ะ อย่างน้อยต้องมีเพลงที่น่าจะชอบบ้าง รับรองว่าซื้อไปก็จะไม่ผิดหวังแน่นอน"
เตรียมตัวสัมผัสกับความน่ารักและน้ำเสียงใสๆ ของมาร์ดี้เร็วๆ นี้