ต๊ะ คืนไมค์ร้องเพลงอีกครั้งลงอัลบั้มเดี่ยว ความหวัง กำลังใจ

"ต๊ะ - ฌานิศ ใหญ่เสมอ" หรือ "ต๊ะ บอยสเก๊าท์" ที่หลายๆ คนรู้จักและเรียกติดปาก ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจคุ้นเคยกับบทบาทการเป็นนักแสดงมากกว่าบทบาทของศิลปิน เพราะต๊ะได้ห่างหายไปจากการออกอัลบั้มนาน

วันนี้เขากลับมาอีกครั้ง ภายใต้ชายคาบ้านใหม่ กับภาพลักษณ์ที่โตขึ้น แนวดนตรีที่เข้าถึงคนฟังมากขึ้น ถูกถ่ายทอดความเป็นต๊ะออกมาอย่างชัดเจน ไปคุยกับต๊ะพร้อมล้วงลึกถึงที่มาที่ไปของอัลบั้ม "ความหวัง กำลังใจ" นี้กันดีกว่า

ทักทายกันนิดนึง

"สวัสดีครับ ต๊ะ - ฌานิศ ใหญ่เสมอ ครับ"

ถามก่อนเลยว่าทำไมถึงตัดสินใจย้ายบ้าน

"ต้องเล่าย้อนไปหน่อยคือว่า หลังจากที่หมดสัญญากับทางบริษัทเก่า ผมได้เข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่แล้วว่า เขามีนโยบายที่จะทำต่อหรือเปล่า ก็คุยกันแล้ว เขาไม่มีนโยบาย ผมก็เลยโอเค พอหมดสัญญาแล้วก็รับทราบ จะได้ไม่ต้องต่อสัญญา และจะได้ไปหาที่อื่นที่ร่วมงานกันได้ครับ"

ตอนนั้นเซ็นต์สัญญาไปกับอาร์เอสกี่ปี

"รวมเบ็ดเสร็จก็ 9 ปีครับ เซ็นต์ฉบับแรก 4 ปี ฉบับที่สอง 5 ปี ครับ"

แล้วได้ออกอัลบั้มไปทั้งหมดเท่าไร

"ก็หลายเหมือนกันครับ มีบอยสเก๊าท์ 1 และ 2 กับวงบอยสเก๊าท์ มีอันปลั๊ก มีซูปเปอร์ทีน มีเพลงละครสุดแต่ใจจะไขว้คว้าที่ร้องแล้วเอาไปรวมกับคนอื่น มีเพลงประกอบภาพยนตร์เด็กเสเพล แล้วก็ 18 ฝนคนอันตราย 2 อันนี้เป็นส่วนตัวเดี่ยวๆ เลย ก็เยอะอยู่เหมือนกันครับ แต่อัลบั้มเด็กเสเพลนี่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่แพ้อัลบั้มเดี่ยวของคนอื่นๆ เลยครับ"

อาร์เอสให้อะไรเยอะไหม

"ถ้าถามว่าอาร์เอสให้อะไรเยอะไหม ก็ต้องบอกว่าได้เยอะเลยครับ ได้ประสบการณ์ ได้แฟนๆ ได้เยอะครับ"

แล้วเข้ามาที่แกรมมี่ได้ยังไง

"ก็มีผู้ใหญ่ติดต่อเรียกเข้ามาคุยครับ ตอนแรกก็คุยความเป็นไปได้ ผู้ใหญ่ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ว่าเราจะเป็นนักร้องได้ คือเป็นนักร้องจริงๆ หรือเปล่า ก็เลยเรียกเข้ามาคุยดู แล้วก็ลองให้ทำงานดู งานชิ้นแรกที่ลองทำก็คือ เพลงแทร็กที่ 5 ชื่อเพลง อยากรู้ไหม พออัดเพลง อยากรู้ไหม ให้ผู้ใหญ่ฟัง แล้วถึงอนุมัติให้ออกเป็นอัลบั้มได้ครับ"

แล้วบ้านใหม่เป็นยังไงบ้าง

"ก็ดีครับ เป็นบ้านหลังใหญ่กว่าเดิม เป็นบริษัทเป็นค่ายที่ทำงานเป็นระบบดี มีความเป็นมืออาชีพสูง และผมก็เซ็นต์สัญญากับแกรมมี่ทั้งหมด 5 ปีครับ"

อบอุ่นไหม

"ก็อบอุ่นดีครับ ได้รับการดูแลดีครับ"

ต๊ะ ย้ายตาม เต๋า - สมชาย เข็มกลัด มาหรือเปล่า

"เต๋าย้ายไปอยู่ตรงไหนค่ายไหนผมยังไม่รู้เลยครับ การที่จะได้เข้ามาอยู่แกรมมี่ ผมคุยกับผู้ใหญ่แล้ว มันไม่ง่ายนะครับ ไม่ใช่ว่าจะย้ายตามใครก็ได้ ก็อยู่ที่ผู้ใหญ่ว่าเขาโอเคหรือเปล่า แล้วผมก็ไม่รู้ว่าเต๋าอยู่ค่ายไหน เพราะฉะนั้น ผมไม่ได้ย้ายตามเต๋ามาแน่นอนครับ ผมว่าค่ายนี้ใครๆ ก็อยากอยู่ครับ (ยิ้ม)"

อะไรที่ทำให้หวนกลับมาจับไมค์อีกครั้ง

"งานแสดงก็เป็นงานที่ผมรักและก็ชอบนะครับ เพราะว่าก็เกิดมาจากงานแสดง ส่วนงานร้องเพลงก็เป็นอะไรที่ชอบมากเหมือนกัน เพราะเป็นตัวตนแท้ๆ ของเรา ที่เราจะพรีเซ้นต์ให้กับแฟนๆ ให้กับคนดูได้รู้จักเราน่ะครับ"

กับการทำงานเพลงครั้งนี้ยากไหม

"ยากไหม ก็ไม่ยาก ก็คุ้นเคยกับการทำงานเพลงอยู่แล้ว แรกๆ นี่ยังติดการร้องแบบเก่าๆ อยู่ การร้องแบบสมัยที่เป็นเด็กๆ ร้องแบบสมัยที่ยังเป็นบอยสเก๊าท์อยู่ครับ ซึ่ง ณ วันนี้แล้วเนี่ย อาจจะดูเก่าไป ก็ต้องมาหาวิธีร้องใหม่"

ใครเป็นโปรดิวเซอร์ดูแลงานให้

"พี่หน่อง - อิทธิพล สี่ประการพร เป็นทีมงานที่อยู่ในบริษัทกู๊ดดี้ เป็นทีมงานของพี่ณรงค์กับพี่เวสป้า วงสเตอร์ครับ ซึ่งพี่เขาก็มาเป็น เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ ให้ด้วยครับ"

ทำงานกับพี่ๆ เป็นยังไงบ้าง

"ก็ดีครับ ก็ดูแล พี่เวสนี่ก็เป็นคนคอยตรวจงานทุกเพลง ก็คืออันไหนที่ไม่ดีพี่เวสก็จะให้คำแนะนำ บางครั้งก็สอนด้วยครับ ในส่วนของการเข้าห้องอัด ก็ประมาณ 10 เดือนได้ครับ"

ชื่ออัลบั้มนี่มีที่มาที่ไปยังไง

"ก็คือเป็นชื่อเพลงในอัลบั้ม แล้วก็อีกนัยหนึ่งก็คืออยากให้อัลบั้มนี้เป็นกำลังใจให้กับคนที่ต้องการกำลังใจ ขาดกำลังใจ อีกนัยหนึ่งก็คือเป็นสิ่งที่ผมสื่อไปถึงแฟนเพลงว่าผมต้องการกำลังใจจากแฟนเพลงด้วยครับ"

เนื้อหาเพลงโดยรวมล่ะ

"ส่วนใหญ่คอนเซ็ปต์ของเนื้อเพลงจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ครับ ในแง่ของเรื่องความรัก ในแง่ของมุมมองที่คนอื่นมองเราด้วย ในแง่ของสังคมด้วยครับ"

เห็นว่าต๊ะได้มีโอกาสได้เขียนเพลงด้วย

"ครับ ก็มีโอกาสได้เขียนเพลงด้วยครับ ชื่อเพลงว่า อารมณ์ไหน ก็เป็นมุมมองของความรัก เพราะบางสถานการณ์ผมเคยคิดว่า เรื่องความรักมันมีมุมมองอยู่ 2 มุมมอง มุมมองของคนที่เป็นคนรัก กับคนที่ถูกรัก ผมเลยหยิบยกเอามุมมองของคนที่เป็นคนรักมานำเสนอครับ ก็คือการที่เราต้องไปเทกแคร์ ต้องคอยดูแลเอาใจใส่กับคนที่เป็นคนรับการดูแลและรับการสนองตอบ บางครั้งอาจทำให้เราเสียใจได้ครับ ต้องลองฟังดูครับ (ยิ้ม)"

ใช้เวลาเขียนนานไหม

"ก็นานอยู่เหมือนกันครับ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ผมทำ ต้องออกตัวว่าผมยังไม่เก่งมาก ยังเป็นงานที่กำลังพัฒนาตนเองอยู่ครับ แต่ก็มีพี่เขาคอยช่วยเกลาด้วย ก็พอใช้ได้ ถึงได้อยู่ในอัลบั้ม เป็นเครดิตด้วยครับ"

แนวเพลงในอัลบั้มนี้เป็นยังไง

"ก็เป็นป๊อปร็อกครับ ฟังง่ายๆ จะเน้นเมโลดี้สวยๆ เนื้อหาก็ฟังง่ายไม่ซับซ้อน มีเพลงเร็ว 2 เพลง เพลงมีเดียม แล้วเพลงช้าจะเยอะน้อย เพราะว่าเป็นคนที่ถนัดร้องเพลงช้าครับ"

เพลงไหนที่รู้สึกว่าร้องยากที่สุด

"เพลงที่ร้องยากที่สุด เป็นเพลงแทร็กที่ 7 ครับ เพลง ใจเธอเป็นของเธอ ครับ เป็นเพลงเร็วแล้วก็ค่อนข้างที่จะร็อกมากครับ ร็อกกว่าทุกเพลงเลย คือด้วยดนตรีมันค่อนข้างที่จะแรง แล้วก็บางครั้งร้องไปแล้วสู้กับดนตรีไม่ได้ ก็ต้องมาปรับให้แมตช์กัน ผมร้องอยู่หลายรอบนะครับกว่าจะได้ ปกติจะอัดวันละเพลง แต่เพลงนี้ใช้เวลาอัดหลายวัน อัดอยู่ประมาณ 4-5 วัน 4-5 ครั้ง จนรอบสุดท้ายได้พี่เต๋าที่คุมพี่เบิร์ดน่ะครับมาช่วยคุมให้ มาช่วยแนะนำวิธีการร้องให้โอเคน่ะครับ"

ตอนนั้นท้อไหม

"ถามว่าท้อไหม ก็ไม่ท้อครับ เพียงแต่ว่าต้องเอาให้ดีที่สุด ออกมาก็พอใจในระดับหนึ่งครับ"

จุดเด่นของอัลบั้มนี้

"(ทำท่าคิดนาน) จุดเด่นของอัลบั้มนี้ก็คงจะเป็นในเรื่องของเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ บางเพลงจะพยายามเน้นเสียง ดนตรีน้อยๆ ชิ้น มีอะคูสติกด้วย อย่างเพลง หมดห่วง นี่จะเป็นอะคูสติก อย่างเพลง ใจส่งถึงจันทร์ นี่จะใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น จะเน้นเสียงร้องในช่วงต้นหน่อยครับ"

ที่เขาเอาเพลงต๊ะไปประกอบละคร เกิดแต่ตม นี่ต๊ะรู้สึกยังไง

"ที่จริงเพลงเกิดก่อนละครนะครับ ส่วนตัวผมเองก็รู้สึกดีครับ เหมือนการโปรโมตเพลงในอัลบั้มไปด้วยครับ เพราะเพลงของต๊ะจะฟังได้หลายกลุ่มหน่อย ไม่ใช่เจาะจงแค่วัยรุ่นอย่างเดียว วัยทำงานก็ฟังได้ด้วย เป็นเพลงฟังครับ อย่างหนึ่งเพราะต๊ะโตขึ้นด้วย เพลงในอัลบั้มนี้จึงจะเป็นจริงมากขึ้นกว่าตอนเด็กๆ"

เสียงตอบรับจากงานละครและงานเพลง

"ก็ดีครับ ไปไหนก็จะมีแต่คนเรียกชื่อ ลุงมารุต ส่วนฟีดแบ็กจากงานเพลงจะได้รับจากคนที่ใกล้ชิดส่วนใหญ่น่ะครับ คนที่เป็นแฟนๆ ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าไหร่ ก็โอเคครับ จากคนที่ได้ฟังส่วนมากเขาก็ค่อนข้างจะชอบและก็ชม ไม่รู้ว่าเขาให้กำลังใจหรือว่าจริงๆ แล้วยังไง แต่ก็ดีใจที่เขาชอบและก็ชม อย่างที่กองถ่ายผมสั่งให้ซื้อทุกคน (หัวเราะ) ถ้าไม่ซื้อไม่รักครับ แจกก็แจกได้ แต่อยากให้ช่วยอุดหนุน ส่วนตัวผมก็ซื้อตามเคล็ดทั้งเทปและซีดีอย่างละ 9 ครับ"

งานคอนเสิร์ตต่อจากนี้ล่ะ

"ตอนนี้ที่เพิ่มเริ่มจะทำก็คือโฟนอิน แล้วก็เดี๋ยวหลังจากนี้ก็จะไปทัวร์ตามสถานีวิทยุครับ ตามแผงเทปครับ ส่วนคอนเสิร์ตก็น่าจะมีครับ (ยิ้ม)"

รู้สึกยังไงกับฉายา แหบเสน่ห์

"มีอย่างอื่นด้วยนะครับ แหบมหากาฬ ครับ (หัวเราะ) แหบมหากาฬ นี่ชอบมากเลยครับ ภูมิใจ (หัวเราะ) ก็ชอบครับ นักข่าวเนี่ยล่ะครับเขียน ก็จะมี แหบเสน่ห์ ร็อตสจ๊วตเมืองไทย แล้วก็มี แหบมหากาฬ นี่ล่ะครับที่ผมชอบมากที่สุดเลย (หัวเราะ) อ่านเจอครั้งแรกก็งงๆ มันคืออะไร แหบขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) แต่ชอบครับ ถึงบางครั้งตัวเองร้องเพลง อาจจะมีความรู้สึกรำคาญเหมือนกัน มีบางครั้งนะครับ (เน้นเสียง) แต่ก็คิดว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เขาให้เรามา ถ้าผมไม่เสียงอย่างนี้ ผมอาจไม่มีต๊ะที่เคยร้องเพลงมาก่อนก็ได้ครับ เพราะจริงๆ แล้วที่บริษัทเก่าเค้าเลือกผมมาเป็นนักร้องก็เพราะว่าผมเสียงอย่างนี้ครับ"

สุดท้ายให้ต๊ะฝากอะไรถึงแฟนๆ เว็บไซต์สยามโซน.คอม

"อยากฝากแฟนเพลงที่เป็นกำลังใจ ที่เคยให้กำลังใจกันมา และที่กำลังจะเป็นกำลังใจก็ฝากขอบคุณล่วงหน้านะครับ และก็อยากจะฝากผลงานอัลบั้มชุดนี้ด้วย ก็กลับมาร้องเพลงเต็มตัวเต็มรูปแบบอีกครั้งหนึ่งแล้ว ก็อยากฝากขอกำลังใจจากแฟนเพลงด้วย ให้งานต๊ะได้มีโอกาสรับใช้บางอารมณ์ของงานเพลงบ้าง ขอบคุณมากครับ"

พบกับอัลบั้ม ความหวัง กำลังใจ ของ ต๊ะ - ฌานิศ ใหญ่เสมอ ได้แล้วตั้งแต่ 17 พฤษภาคมนี้