บรรยากาศ Se7en เยือนไทย เปิดอัลบั้มชุด 2 Must Listen

ถือเป็นศิลปินดาวรุ่งร้อนแรงและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วสำหรับ "Se7en" จากแดนโสมที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวตั้งแต่ปี 2003 กับอัลบั้มแรกในชีวิต "Just Listen" ด้วยเพลง "Come Back to Me" ที่ส่งให้เขาเข้าไปนั่งกลางใจบรรดาแฟนเพลงรวมทั้งประเทศไทย

วันนี้เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับพัฒนาการทางดนตรีกับอัลบั้มชุดที่ 2 "Must Listen" โดยส่งซิงเกิลร้อนอย่าง "Passion" และ "Tattoo" นอกจากนี้ Se7en ยังเดินทางมาเปิดอัลบั้มนี้ถึงเมืองไทย ซึ่งทีมงานสยามโซน.คอม ได้รับเกียรติให้ไปสัมภาษณ์ Se7en อย่างใกล้ชิด เพื่อถามถึงที่มาที่ไปของอัลบั้มชุดนี้อีกด้วย

นอกจากมาโปรโมตแล้ว มาเที่ยวด้วยหรือเปล่า

"นอกจากการโปรโมตปีที่แล้ว ผมได้เดินทางมาประเทศไทยประมาณ 3 ครั้งก่อนหน้านั้นครับ"

ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง

"ผมได้ไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ ภูเก็ต และก็พัทยา เพราะผมเป็นคนชอบทะเลครับ ชอบมากเลยครับ ส่วนใหญ่มาเที่ยวประมาณ 3 - 4 วัน"

ประทับใจอะไรในประเทศไทย

"ผมประทับใจวัฒนธรรมที่ยาวนานของประเทศไทย เคยไปเที่ยววัดพระแก้วก็สวยมากเลย ชอบมาก แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยกับคนไทยรู้สึกว่าคนไทยมีน้ำใจที่ดี มีไมตรี ทุกคนดูเป็นกันเอง รู้สึกสบายใจที่มาเที่ยวในประเทศไทย มีทะเล และก็มีที่พักที่ดี ก็เลยชอบมาเที่ยวเมืองไทยครับ"

มาพูดเรื่องงานเพลงบ้าง ทำไมต้อง Must Listen

"อัลบั้มแรกที่ชื่อ Just Listen ก็คือให้ลองฟังดู อัลบั้มที่ 2 ก็คือ Must Listen เพราะว่าได้เสริมเนื้อเพลงและดนตรีให้มีคุณภาพมากขึ้น และก็อยากให้ทุกคนฟังกัน ก็เลยตั้งชื่ออัลบั้มว่า Must Listen ครับ"

แล้วมีส่วนรวมในอัลบั้มนี้เยอะไหม

"ผมไม่ได้เขียนเพลง แต่ว่ามีส่วนร่วมในการกำกับและเรียบเรียงการร้องของตนเอง ซึ่งจะมีสีสันของผมมากขึ้นในอัลบั้มนี้ และช่วงนี้ผมมีความสนใจในการเขียนเพลง อาจจะมีทำนองของผมในอัลบั้มหน้าครับ"

อัลบั้มหน้าจะใช้ชื่อว่า Listen อีกหรือเปล่า

"จริงๆ แล้ว ชื่ออัลบั้ม Just Listen กับ Must Listen ผมตั้งชื่อเอง แต่ที่นี้ผมกำลังคิดหนักอยู่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร แต่ต้องเป็นชื่อที่ดีๆ แน่ครับ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวน่าจะมีคำว่า Listen อยู่ด้วยครับ"

จุดเด่นของอัลบั้มนี้อยู่ตรงไหน

"อัลบั้มนี้แตกต่างจากอัลบั้มชุดแรก เพราะจะสมบูรณ์มากขึ้น เพลงหลักก็คือ Passion ที่อยู่ในอัลบั้มที่ 2 รู้สึกว่าชุดนี้จะมีความละเอียดมากขึ้นที่เป็นแนวอาร์แอนด์บี ซึ่งหาฟังกันได้ยาก เพราะมีเสียงที่สดใส ดนตรีที่ไพเราะครับ"

ปกติชอบฟังเพลงแนวไหน

"ผมชอบฟังเพลงแนวแบล็กมิวสิก อาร์แอนด์บี และฮิพฮอพ นอกเหนือจากนั้นก็ฟังเหมือนกัน แต่ชอบฟังอาร์แอนด์บีและก็ฮิพฮอพมากกว่าครับ"

สนใจอยากเป็นนักแสดงบ้างไหม

"ตั้งแต่เด็กๆ ผมยังไม่เคยคิดถึงอาชีพอื่น ความฝันของผมก็เป็นนักร้อง และอยากจะเป็นนักร้องอย่างเดียว และจะพยายามทุ่มเทเป็นนักร้องให้ดีที่สุด"

แต่น่าจะมีคนติดต่อให้เป็นนักแสดงเยอะนะ

"เยอะมากครับ แต่ว่าผมยังอายุน้อย ยังมีโอกาสมาก และเคยจบเกี่ยวกับการแสดงละครที่โรงเรียนมัธยมศึกษาด้วย ก็สนใจอยู่เหมือนกัน แต่ปัจจุบันนี้ผมจะต้องทุ่มเทกับการร้องเพลง เพื่อจะเป็นนักร้องที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงยังไม่สนใจการแสดงครับ"

ในอัลบั้มนี้เพลงไหนร้องยากมากที่สุด

"จริงๆ แล้ว เป็นเพลงของผมเอง ก็รู้สึกร้องสะดวกทุกเพลง แต่เพลง Passion ตอนแรกจะร้องยาก แต่พอร้องบ่อยๆ แล้ว รู้สึกว่าร้องสะดวกขึ้น ง่ายขึ้นครับ"

โดยส่วนตัวแล้ว Se7en ชอบเพลงไหนมากที่สุดในอัลบั้มนี้

"ตอนแรก ผมได้รับเพลงทั้งหมด 30 เพลง แล้วก็เป็นคนคัดเลือกเอง จึงเป็นเพลงของตนเอง และรักทุกเพลงของตนเอง แล้วก็มีนักเขียนเพลงที่ดี แต่ถ้าให้เลือกก็คงเป็นเพลง Passion กับ Tattoo ครับ เพราะเวลาร้องแล้วเศร้าไปด้วยครับ"

จะมีโอกาสมาเปิดคอนเสิร์ตที่เมืองไทยหรือเปล่า

"มีโครงการแน่นอน ถ้าแฟนเพลงในเมืองไทยรักและเรียกร้องมา ก็คงเป็นไปได้ในเร็วๆ นี้"

เห็นว่าไปออกซิงเกิลที่ประเทศญี่ปุ่น เสียงตอบรับเป็นยังไงบ้าง

"ในซิงเกิลแรก ได้มีการโชว์เคส แล้วทุกๆ คนมา มาเยอะ จนบางคนมาแทบไม่ได้ อาจจะใกล้เคียงกับคอนเสิร์ตเลย ทุกคนมาเชียร์เต็มที่และก็ชอบเพลงของผมมากครับ ผมคิดว่าอันนี้เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปก็จะมีซิงเกิลที่ 2 แล้วก็มีกิจกรรมตามมาด้วย"

ไม่สนใจจะร้องเพลงเป็นภาษาไทยบ้างเหรอ

"แน่นอนครับ ผมอยากจะร้องเพลงเป็นภาษาไทย เพลง Tattoo ก็มีการอัดเสียงเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแล้ว ก็คิดเหมือนกันว่าร้องเพลงเป็นภาษาไทยจะเป็นยังไงบ้าง แต่ติดขัดเรื่องเนื้อเพลง และการออกเสียง แต่ยังไงก็มีความสนใจอยากจะร้องเพลงเป็นภาษาไทยครับ"

ให้ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

"ผมมีอัลบั้มที่ 2 แล้วนะครับ อยากให้ทุกคนสนใจและช่วยกันฟังด้วยนะครับ"

นอกจากนี้ Se7en ยังได้ระเบิดความสนุกกับมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา โดย Se7en ร้องถึง 4 เพลงรวด ได้แก่ "Crazy" "Tattoo" ตามด้วยเพลงดังจากอัลบั้มชุดแรก "Come Back to Me" ปิดท้ายด้วย "Passion" ที่ร้องเล่นเต้นกระจาย จนแฟนคลับชาวไทยตะโกนบอกรักเป็นภาษาเกาหลี เจ้าตัวถึงกับปลื้มที่ได้รับการต้อนรับที่ดีอย่างนี้

Seven ยังเปิดใจให้สัมภาษณ์กลางเวทีว่าดีใจที่คนไทยไม่ลืมเขา และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นคนบุกเบิกเคป๊อปในประเทศไทย สัญญาจะใกล้ชิดคนไทยให้มากขึ้น เผยอัลบั้มนี้หนักแน่นขึ้นทั้งเนื้อหาและดนตรี เพราะว่าโตขึ้น พร้อมมอบของขวัญพิเศษให้คนไทย ด้วยเพลง "Tattoo" เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ที่มีในประเทศไทยเท่านั้น พร้อมเอ่ยประโยคดัง "ผมรักคุณ" และ "ขอบคุณครับ" เอาใจคนไทยส่งท้าย

ทั้งนี้ Se7en มีกำหนดการมาเยือนไทยอีกครั้งในงาน แชนแนล วี ไทยแลนด์ มิวสิกวิดีโอ อะวอร์ดส ครั้งที่ 4 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ บรรดาเหล่าสาวก Se7en คงต้องอดใจรออีกนิดนึง ตอนนี้ก็จับจองอัลบั้มชุดที่ 2 Must Listen ได้ตั้งแต่ 7 เมษายน เป็นต้นไป