บทสัมภาษณ์ เม กับการทำงานอัลบั้มในแนวเพลงป๊อบร็อก
เม - จีระนันท์ กิจประสาน สาวน้อยร่างเล็ก กับอัลบั้ม เม (Me) ที่ไม่เล็กเหมือนตัว ในแนวดนตรีป๊อบร็อก ที่ผสานดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟและพังก์ อัลบั้มนี้ได้ ปอนด์ - ธนา ลวสุต รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ดูแลงานนี้ ซึ่งใช้เวลาทำงานกว่า 2 ปี โดย เม ได้เปิดใจเกี่ยวกับการทำงานให้ฟังว่า
เมเคยเรียนทางด้านร้องเพลงมาบ้างไหม
"เริ่มเรียนจริงจังด้านร้องเพลงก็ประมาณ 5 ขวบค่ะ ก่อนหน้านั้นก็อาศัยฝึกร้องเพลงตามนักร้องไป เขาร้องยังไงเราก็ลองร้องตามดู"
เห็นว่าก่อนหน้านี้เคยออกอัลบั้มเพลงมาแล้ว
"ใช่ค่ะ ตอนนั้นเคยออกอัลบั้มชุดนึงไว้กับค่าย ครอสโซน เอนเตอร์เทนเมนท์ ชื่อวง วิวี่โค ค่ะ"
เห็นว่าเคยมีผลงานด้านภาพยนตร์ด้วย
"ค่ะ อาจจะเคยได้เห็นเมบ้างในภาพยนตร์เรื่อง สุริโยไท และล่าสุดเรื่อง เกิร์ลเฟรนด์ฯ"
ทำไมถึงเลือกที่จะมาร้องเพลงที่อาร์เอสฯ
"รู้จักกับพี่คนนึง เขาลองแนะนำให้เราลองเข้ามาทำเดโมทดสอบดู รอบแรกที่มาทดสอบนี่ไม่ผ่าน แต่เราก็ได้คำแนะนำจากพี่มาว่าบกพร่องตรงไหนบ้าง หลังจากนั้นก็กลับไปฝึกซ้อมอีกประมาณ 1 ปี แล้วก็ลองมาเทสต์อีกครั้งก็ผ่านแล้วก็เซ็นสัญญา หลังจากนั้น 6 เดือนก็เริ่มทำงานเลย"
รู้สึกอย่างไรที่ได้ ปอนด์ มาเป็นโปรดิวเซอร์
"รู้สึกงงค่ะว่า เอ๊ะทำไมความรู้สึกว่าครั้งนึงตอนเด็กๆ พี่เป็นคนที่เราปลื้มนะ เป็นนักร้องวงไฮดราที่เราชอบแล้วอยู่ดีๆ วันนึงเราต้องมาทำงานร่วมกับพี่เขา เป็นเหมือนอะไรที่ไม่ได้คิดฝัน ก็ดีใจค่ะที่ได้ทำงานร่วมกับคนที่เราชื่นชมผลงานเขา แต่ก็ยังงงๆ ค่ะ (ขำ)"
ตอนเริ่มทำงานในห้องอัดช่วงแรกๆ เป็นยังไงบ้าง
"ก็มีท้อบ้างค่ะ เพราะใช้เวลาการเตรียมตัวนาน ประมาณ 2 ปี แต่ก็เข้าใจค่ะว่าเราต้องพร้อมและเพลงก็ต้องลงตัวจริงๆ พวกพี่ๆ เขาถึงจะให้เราออกเทปได้ และเมก็อยากจะให้เพลงทุกเพลงในอัลบั้มลงตัวจริงๆ ด้วย"
ปกติเป็นคนชอบฟังเพลงแนวป๊อปร็อกเหรอ
"ใช่ค่ะ แนวเพลงแบบนี้เลย คนอื่นๆ ที่มองเม อาจจะคิดว่าเมไม่น่าจะชอบเพลงแบบนี้ แต่พี่ปอนด์เขารู้แล้วก็ตามใจ"
เมเป็นคนตัวเล็กๆ ดูขัดๆ กับแนวเพลงแบบนี้
"ค่ะ อันนี้คือปัญหาอย่างนึงที่เมคิด แต่เมได้แรงบันดาลใจมาจากนักร้องคนนึงค่ะ ที่ว่าถึงแม้เขาจะตัวเล็กก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะร้องแนวเพลงป๊อบร็อกแบบนี้"
ใครหรือ
"Avril Lavigne ค่ะ เขาทำให้เมรู้สึกว่าตัวเล็กก็ไม่ใช่อุปสรรค"
รู้สึกว่าเสียงของเมในอัลบั้มเพลงนี้แตกต่างกันไปในแต่ละเพลง
"ค่ะ ก็ต้องร้องไปตามอารมณ์เพลง อย่างเพลงสุดท้ายเป็นเพลงเกี่ยวกับการให้กำลังใจ อย่าท้อแท้แล้วจะมีกลิ่นของแนวเพลงฮิพฮอพนิดๆ ด้วย ก็อยากจะให้คนฟังรู้สึกสบายๆ ไปกับเพลงด้วย ดังนั้นน้ำเสียงก็เลยต้องเปลี่ยนไปตามเพลงด้วย"
ยากไหม ถ้าจะต้องไปร้องเพลงสดตามคอนเสิร์ตต่างๆ
"ยากเหมือนกันค่ะ เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก ทำให้ปอดเล็กตามไปด้วย เลยจำเป็นที่จะต้องออกกำลังกายค่ะ เคยสังเกตตัวเองว่า เอ๊ะทำไมเริ่มร้องไปเพลงแรก เพลงที่สองก็เริ่มเหนื่อยละ ไม่มีแรงออกเสียงเลย"
มีเพลงที่หนักใจในการร้องบ้างไหม
"เป็นเพลงช้าค่ะ คือปกติเวลาเราร้องเพลงคนอื่นเหมือนเขาให้จังหวะการร้องเพลง จังหวะการหายใจมาแล้ว เขาใช้เทคนิคยังไงในการร้อง เราก็ร้องในเทคนิคแบบเขา แต่พอเวลาเรามาร้องเพลงตัวเอง เราต้องมากำหนดจังหวะการร้องเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหายใจ การออกแบบเสียง แล้วเพลงของเมเป็นแบบหลบเสียงเยอะ ต้องใช้ลมเยอะมาก เลยยากนิดนึงค่ะ"
คิดว่าอัลบั้มนี้สะท้อนความเป็นตัวเองของเมบ้างไหม
"อาจจะไม่ได้เป็นทั้งหมด แต่ก็ค่อนข้างคล้ายมากทีเดียว อย่างเพลง ไม่ได้ตาฝาด ความคิดเกี่ยวกับมุมมองความรักของเมจะเป็นแบบนั้นเลย"
กับเพลงในอัลบั้มทั้ง10 เพลงนี้พอใจหรือยัง
"อยากจะร้องให้ดีกว่านี้ แต่ ณ. เวลานี้เมทำดีที่สุดแล้วค่ะ"
ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษบ้างไหม
"ชอบเพลง ทำอะไรเนี่ย เพลงแปลก ออกเมาๆ เหมือนคนไม่ได้ร้องเพลง ถ้าคนรู้จักเม จะบอกว่า เฮ้ย เหมือนเมเลย ตัวจริงเมก็เป็นแบบเนี้ย
แล้วถ้าให้เลือกระหว่างนักร้องกับนักแสดงล่ะ
" ลือกนักร้องค่ะ แต่ถามว่าการแสดงชอบไหม ก็ชอบ แต่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ต้องเล่นตามบทบาท แต่นักร้องมันมีความสุขที่ได้ร้องน่ะค่ะ ที่เห็นชัดๆ คือเวลาขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ถ้ามีคนร้องเพลงเราได้ เขามีความสุขที่ได้ฟังเพลงเรา ผลตอบรับก็คือเรามีความสุขไปด้วย ในมุมมองเมก็คือประสบความสำเร็จแล้ว"