ก้าวสู่มิติของเพลงโซลกับคอนเสิร์ต Alicia Keys ในเมืองไทย

นับว่าเป็นการมาเยือนเมืองไทยเป็นครั้งแรก สำหรับศิลปินสาวมากความสามารถวัยเพียงยี่สิบต้นๆ นาม "Alicia Keys" เพื่อเปิดคอนเสิร์ตให้แฟนๆ ชาวไทยได้ถึงเห็นฝีมือและความสามารถของเธอ ในคอนเสิร์ตใหญ่ที่มีชื่อว่า "Alicia Keys World Tour 2004 Live in Bangkok" ที่จัดขึ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี

ก่อนงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ Alicia Keys กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้มาประเทศไทยว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาที่ประเทศไทย แม้จะเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตในระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็รู้สึกตื้นเต้นที่ได้เห็นผู้คนที่นี่ เห็นวัฒนธรรมต่างๆ ที่สวยงามไปอีกแบบ อาหารไทยอร่อย ชอบกินอาหารไทย เผ็ดดี แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าทานมาก เดี๋ยวหลังคอนเสิร์ตจะลองทานดู และถ้ามีโอกาสอยากไปเที่ยววัด ไปท่องเที่ยวที่ต่างๆ ในไทย

สำหรับงานคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้ (11 ตุลาคม 2547) จะแสดงอย่างเต็มที่ เพลงทุกเพลงที่จะร้องจะพาคนฟังไปสู่มิติของฉัน อยากให้ทุกคนที่มาดูมีความสุขและสนุกไปด้วย ที่สำคัญคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ จดจำไปอีกนาน" Alicia Keys กล่าวด้วยรอยยิ้ม

บรรยากาศของคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เริ่มต้นเปิดเวทีด้วยศิลปินของไทย "วงบีไฟว์" (B5) พร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง 5 คน ทั้ง "เบน" "คิว" "เค้ก" "โต๋" และ "มาเรียม" ที่ออกมาในเพลงรักซึ้งๆ อย่าง "รักคุณเข้าแล้ว" ตามด้วยเมดเล่ย์ เพลง "ขอให้ผม" "ดาว" "ตัดสินใจ" และส่งเพลง "บางสิ่ง" ปิดท้าย เพื่อยกเวทีให้กับ Alicia Keys โดยจะมีคำว่า "The Diary of Alicia Keys" ซึ่งเป็นชื่ออัลบั้มชุดที่สองของ Alicia Keys ปรากฏบนเวทีคอนเสิร์ต

เปิดตัวเพลงแรก พร้อมการปรากฏตัวของ Alicia Keys ด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ อย่างเพลง "Karma" และ "Heartburn" ก่อนทักทายแฟนเพลงชาวไทยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และร้องต่อด้วยเพลง "Rock Wit U" และ "A Woman's Worth" จากนั้นแสดงความสามารถด้วยการโชว์เปียโนที่ตัวเธอถนัดอยู่แล้วด้วย "Ak Piano" และ "Piano & I" พร้อมทั้งร้องตามด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง ที่ฟังต้องอึ้งและทึ่ง

จากนั้นก็ต่อด้วยเพลงคุ้นหูอย่าง "If I Ain't Got You" และ Alicia Keys ก็โชว์ "Ak Conducting Band" จบเพลงเรียกเสียงปรบมือได้ดังสนั่น ต่อด้วยเมดเล่ย์ 4 เพลงรวดอย่างเพลง "The Life" "Streets Of The New York" "Higher Ground" และ "I Wanna Take You Higher" แล้ว Alicia Keys ก็ไม่รอช้าร้องต่อด้วยเพลง "Slow Down" ทันที

ตามติดมาด้วยเพลง "Diary" แล� " Fallin'" ที่ทำเอาคนดูซาบซึ้งไปกับบทเพลงของเธอ และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสมกับการได้รับให้เป็น Princess Of Soul หรือ เจ้าหญิงแห่งเพลงโซล จริงๆ ประกอบกับเสียงร้องอันทรงพลังของเธอสะกดคนดูได้ดี จากนั้น Alicia Keys ปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้งด้วยเพลงส่งท้ายอย่าง "You Don't Know My Name" ที่เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือจากแฟนเพลงชาวไทยได้ดังสนั่น ถือเป็นการแสดงสดที่ทำให้เห็นความสามารถเกินตัวของสาวคนนี้ Alicia Keys จริงๆ